เรืองไกร ยื่นสอบร่างก.ม.ยุทธศาสตร์ชาติ-แผนปฏิรูปประเทศ

16 มิ.ย. 2560 | 08:43 น.
“เรืองไกร” ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินสอบร่าง กม.ยุทธศาสตร์ชาติ – แผนปฏิรูปประเทศ ส่อเข้าข่ายตรามิชอบต่อ รธน.
1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 มิถุนายน) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยมีนายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องดังกล่าวไว้เพื่อขอให้ตรวจสอบและเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครองว่าการเสนอและการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ พ.ศ... และร่าง พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ.... เข้าลักษณะเป็นกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หรือ กฎหมายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 231 (2) หรือไม่

2

นายเรืองไกร ระบุว่า ร่างพ.ร.บ.ทั้ง2 ฉบับทราบว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)จะมีการพิจารณาวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้แต่จากที่ตนได้ตรวจสอบพบว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายทั้งสองฉบับเมื่อวันที่ 4 เมษายนและนายกรัฐมนตรีลงนามหนังสือถึงประธาน สนช. ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้พิจารณาในวันเดียวกัน และเมื่อมาตรวจสอบในส่วนของเหตุผลประกอบร่างกฎหมายดังกล่าวก็พบว่า มีการอ้างบทบัญญัติมาตรา 65 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ในการตราพ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.... และบทบัญญัติมาตรา 259 ในการตรา พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ ทั้งที่ในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวไปยังสนช.รัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 65 และมาตรา 259 ยังไม่มีผลใช้บังคับ การระบุเหตุผลในการตราร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับจึงไม่ถูกต้อง เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 มีการประกาศและมีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 เมษายนจึงเห็นว่า การเสนอและการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับโดยอ้างบทบบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2560 ก่อนที่จะมีผลใชับังคับนั้นเข้าข่ายเป็นกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญมาตรา 231(2)

3

ทั้งยังกล่าวฝากถึง คณะรัฐมนตรีและสนช.ว่า ขอให้นำร่างนี้กลับไปพิจารณาใหม่ร่างกฎหมาย 2 ฉบับนี้ไปต่อไม่ได้เพราะสมัยที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นสนช. และนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธานวุฒิสภา มีการเสนอร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยทักษิณ ตัวเนื้อกฎหมาย หรือตัวบทกฎหมายไม่ได้มีปัญหา แต่มีการอ้างวรรคกฎหมายผิด นายวิษณุก็อภิปรายเองเรื่องพวกนี้จะผิดและปล่อยผ่านไปไม่ได้ ดังนั้นร่างพระราชบัญญัติ 2 ฉบับที่ สนช.กำลังจะมีการพิจารณาวาระ 3 ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้จึงไม่ควรที่จะเป็นการพิจารณาเพื่อตราเป็นกฎหมาย เพราะถ้าเลยไปถึงชั้นนั้นก็ต้องมีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ

“ที่ประชุม สนช.จึงควรพิจารณาคว่ำร่าง หรือถ้าจะให้เกิดผลเสียน้อยที่สุด ครม.ก็ควรจะเสนอขอถอนร่างกลับไปเพื่อนำไปให้ ครม.พิจารณาใหม่ให้ถูกต้องและเสนอกลับมาให้ สนช.พิจารณาทีเดียว 3 วาระรวดก็ได้ก็จะทำให้ผู้ตรวจการแผ่นดินหมดประเด็นที่จะวินิจฉัยและสั่งยุติเรื่องได้เช่นกัน รวมถึงการนำร่างกฎหมายไปพิจารณาใหม่ก็ไม่น่าทำให้การออกกฎหมายดังกล่าวช้าจนเกินกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน นับแต่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้” นายเรืองไกร กล่าว