แก้ปัญหาชาวบ้านไสโก จ.นครศรีธรรมราช ขาดแคลนน้ำคืบหน้า
ผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช
ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาขาดแคลนแหล่งกักเก็บน้ำ โดยการขุดลอกคลอง เตรียมรับมือภัยแล้ง
วันนี้ (16 มิถุนายน)นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนางศรีสุดา รักษ์เผ่า ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้น ลงพื้นที่บริเวณ สระน้ำ “บ้านไสโก” ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เร่งติดตามการความคืบหน้าการแก้ไขปัญหากรณีประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากขาดแคลนแหล่งกักเก็บน้ำ
นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงการลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า เพื่อเร่งติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหากรณีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งและน้ำท่วม ที่ร้องเรียนขอให้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้นดำเนินการขุดลอกสระน้ำในเขตที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ประเภทพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน “บ้านไสโก” หมู่ที่ 4 ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีปัญหาตื้นเขิน ทำให้ราษฎรกว่า 4,000 คน ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำดังกล่าวได้โดยเฉพาะในฤดูแล้ง
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ลงพื้นที่ติดตามล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมาเพื่อรับฟังปัญหาและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเร่งขุดลอกสระดังกล่าว โดยกำหนดการดำเนินการ 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การขุดลอกสระ และระยะที่ 2 การปรับปรุงภูมิทัศน์รอบสระเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอย
ขณะที่การลงพื้นที่ครั้งนี้มี นายชรินทร์ สันติกูล ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช นายบุญโชค แก้วเกม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้น และนายปรีชา วิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 ร่วมลงพื้นที่ติมตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา พบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีดำเนินการขุดลอกสระเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยขณะนี้อยู่ในการดำเนินการระยะที่ 2 คือการปรับภูมิทัศน์รอบๆสระ ให้เป็นทางเดินและสวนสาธารณะเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยกิจกรรมต่างๆ ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ นายบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ สระน้ำดังกล่าวกรมประมงได้ขุดเพื่อให้ราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกัน เมื่อปี 2531 มีพื้นที่กว่า 7 ไร่ (กว้าง 89 เมตร ยาว 139 เมตร) ต่อมามีปัญหาตื้นเขิน ซึ่งการพัฒนาขุดลอกสระจะทำให้สระนี้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำคัญที่เอื้อประโยชน์ให้กับชาวบ้านกว่า 5 หมู่บ้านในตำบลท่าขึ้นในการใช้อุปโภคบริโภค และทำการเกษตรต่อไป
ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาขาดแคลนแหล่งกักเก็บน้ำ โดยการขุดลอกคลอง เตรียมรับมือภัยแล้ง
วันนี้ (16 มิถุนายน)นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนางศรีสุดา รักษ์เผ่า ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้น ลงพื้นที่บริเวณ สระน้ำ “บ้านไสโก” ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เร่งติดตามการความคืบหน้าการแก้ไขปัญหากรณีประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากขาดแคลนแหล่งกักเก็บน้ำ
นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงการลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า เพื่อเร่งติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหากรณีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งและน้ำท่วม ที่ร้องเรียนขอให้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้นดำเนินการขุดลอกสระน้ำในเขตที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ประเภทพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน “บ้านไสโก” หมู่ที่ 4 ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีปัญหาตื้นเขิน ทำให้ราษฎรกว่า 4,000 คน ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำดังกล่าวได้โดยเฉพาะในฤดูแล้ง
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ลงพื้นที่ติดตามล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมาเพื่อรับฟังปัญหาและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเร่งขุดลอกสระดังกล่าว โดยกำหนดการดำเนินการ 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การขุดลอกสระ และระยะที่ 2 การปรับปรุงภูมิทัศน์รอบสระเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอย
ขณะที่การลงพื้นที่ครั้งนี้มี นายชรินทร์ สันติกูล ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช นายบุญโชค แก้วเกม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้น และนายปรีชา วิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 ร่วมลงพื้นที่ติมตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา พบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีดำเนินการขุดลอกสระเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยขณะนี้อยู่ในการดำเนินการระยะที่ 2 คือการปรับภูมิทัศน์รอบๆสระ ให้เป็นทางเดินและสวนสาธารณะเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยกิจกรรมต่างๆ ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ นายบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ สระน้ำดังกล่าวกรมประมงได้ขุดเพื่อให้ราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกัน เมื่อปี 2531 มีพื้นที่กว่า 7 ไร่ (กว้าง 89 เมตร ยาว 139 เมตร) ต่อมามีปัญหาตื้นเขิน ซึ่งการพัฒนาขุดลอกสระจะทำให้สระนี้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำคัญที่เอื้อประโยชน์ให้กับชาวบ้านกว่า 5 หมู่บ้านในตำบลท่าขึ้นในการใช้อุปโภคบริโภค และทำการเกษตรต่อไป