ยูนิลีเวอร์ร่วมนำเทรนด์พลังงานสะอาด

14 มิ.ย. 2560 | 22:00 น.
ยูนิลีเวอร์ ยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภค นำเทรนด์บริษัทรักษ์โลก-เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม เซ็นสัญญาหนุนการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ในสำนักงานใหญ่และโรงงานทุกแห่งทั่วเกาะอังกฤษและไอร์แลนด์

เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศอังกฤษ เจ้าของแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำอย่าง แอกซ์ โดฟ คนอร์ ลิปตัน ลักซ์ แม๊กนั่ม โอโม เรโซนา ซันซิลค์ ฯลฯ  ได้ลงนามในข้อตกลงซื้อกระแสไฟฟ้า 87% หรือคิดเป็นไฟฟ้า 165 กิกะวัตต์ชั่วโมงจากโรงผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ ฟาร์ม) ล๊อค ลุยเชิร์ทในสก๊อตแลนด์ ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท เอนเนคโค (Eneco) ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคยุโรป ข่าวระบุว่า ยูนิลีเวอร์เคยทำข้อตกลงลักษณะเดียวกันนี้กับเอนเนคโคในประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อนำกระแสไฟฟ้าที่ได้จากวินด์ ฟาร์ม นอกชายฝั่งทะเลเหนือ มาใช้ในสำนักงานและโรงงานของยูนิลีเวอร์ในดินแดนกังหันลมมาก่อนแล้ว

reality-check

ฟาร์มกังหันลมล๊อค ลุยเชิร์ท ในสก๊อตแลนด์ มีกังหันลมทั้งสิ้น 23 ต้น สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายให้กับชุมชนท้องถิ่นที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ผู้บริหารของเอนเนคโคในประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า บริษัทภูมิใจที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน “วิสัยทัศน์ 2030” ของบริษัท ยูนิลีเวอร์ที่ตั้งเป้าหมายจะเป็นองค์กรธุรกิจที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสร้างภาวะโลกร้อนภายในปี ค.ศ. 2030 หรือใน 13 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายในระยะกลาง คือการเลิกใช้ไฟฟ้าที่มาจากโรงงานไฟฟ้าพลังถ่านหินภายในปี 2020

unilever

ถ้าหากมององค์กรของยูนิลีเวอร์ในภาพรวม ปัจจุบัน บริษัทใช้พลังงานหมุนเวียนในสัดส่วนประมาณ 63% ของการใช้พลังงานทั้งหมด ขณะที่ยูนิลีเวอร์ ประเทศอังกฤษ ใช้พลังงานหมุนเวียนแล้ว 100% ซึ่งไฟฟ้าที่ใช้นั้นมาจากทั้งพลังงานลมและพลังงานก๊าซชีวมวล

วิสัยทัศน์ 2030 เป็นนโยบายหลักของยูนิลีเวอร์มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกกระบวนการผลิต และส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนให้มากกว่าปริมาณที่บริษัทจำเป็นต้องใช้ นั่นหมายถึงพลังงานสะอาดส่วนเกินที่บริษัทสามารถจำหน่ายให้ชุมชนใกล้เคียงได้มีส่วนร่วมในวิสัยทัศน์ดังกล่าวนี้