ดึงแมทช์กีฬาระดับโลกเข้าไทย ไอรอนแมนจัดแข่งมาราธอนครั้งแรกในไทยต้นปีหน้า

13 มิ.ย. 2560 | 13:54 น.
ไทย เดินหน้าดึงแมทช์รายการระดับโลกแข่งขันในไทย ชี้ไม่เพียงการจัดแข่งแอร์เรซ วัน และมอเตอร์ จีพี ล่าสุดเตรียมรับไอรอนแมน จัดงาน มาราธอน ครั้งแรกในไทยต้นปีหน้า ดึงนักกีฬาไทย-เทศร่วม 4 หมื่นคนแข่งขัน คาดรายได้สะพัด 400 ล้านบาท ปิดถนนจากสนามกีฬาราชมังคลาถึงราชดำเนิน ระยะทาง 42.19 กิโลเมตร ทั้งยังมี 2 แมทช์ใหญ่แบดมินตันไทยระดับกรังปีย์โกล์ด และซุปเปอร์ซีรี่ย์ "โทมัส-อูเบอร์คัพ 2018" คาดคนดูทั่วโลกกว่า 600 ล้านครัวเรือน สร้างศักยภาพสปอร์ต ทัวริสซึม ไทยในสายตาโลก

นายยุทธศักดิ์ สุภสร  ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ทิศทางในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของททท.ปัจจุบัน จะเน้นชูจุดขายเรื่องสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง มาผนวกกับจุดเด่นด้านเวลเนส ของไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sport & wellness (SAW) เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากสปอร์ต ทัวริสซึม เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูง  อย่างในสหรัฐอเมริกา นักท่องเที่ยวสปอร์ต ทัวริซึม สร้างรายได้สูงถึง 6 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 2.1 แสนล้านบาท แต่สำหรับในประเทศไทยจากสถิติในปี2559 พบว่ามีนักกีฬาต่างชาติเดินทางเข้ามาไม่ถึง 1%

IMG_0900
ดังนั้นททท.หวังว่าหากเราเน้น Sport & wellness น่าจะผลักดันนักกีฬาต่างชาติเดินทางเข้าไทย เพิ่มขึ้นได้ราว 5% เฉลี่ยค่าใช้จ่ายคนละ 2 หมื่นบาทก็สามารถทำรายได้ให้การท่องเที่ยวได้สูงขึ้น เนื่องจากนักกีฬาก็ต้องการบริการเวลเนสเพื่อดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสปา หรือเมดิคัล ซึ่งททท.จะจัดเป็นแพ็คเกจเชื่อมโยงกีฬาและเวลเนส อย่าง ในไทยก็มีค่ายมวยมากถึง 443 แห่งประเทศ เราก็ผูกเรื่องเวลเนสพ่วงไปเป็นแพ็คเกจ และจัดแฟมทริปจากต่างประเทศ เข้ามา เพื่อทำให้เกิดการต่อยอดเป็นแพ็คเกจขายในตลาด ซึ่งเราสามารถทำในลักษณะนี้กับกีฬาอีกหลายประเภทที่เกิดขึ้นในไทยได้ อาทิ กีฬากอล์ฟ รวมไปถึงรายการแข่งขันกีฬาใหม่ๆที่ไทยดึงเข้ามาจัดงานในไทย ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันแอร์เรซ วัน (แข่งขันเครื่องบินบังคับ) การแข่งขันมอเตอร์ จีพี และล่าสุดคือไทยแลนด์ มาราธอน ที่จะจัดในปีหน้า
ล่าสุดททท.ยังได้ให้การสนับสนุนการประชาสัมพันธ์การจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก อย่าง
อเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน ซึ่งเป็นรายการแข่งขันกีฬาวิ่งมาราธอน ลิขสิทธิ์ของไอรอนแมน (IRONMAN) ซึ่งเป็นแมทซ์การแข่งมาราธอนชื่อดังใน 6 ประเทศ ได้แก่ โตเกียว ,บอสตัน  ,ชิคาโก ,นิวยอร์ค,ลอนดอน,เบอร์ลิน ซึ่งทางไอรอนแมน กำหนดจะลงทุนราว 60 ล้านบาท ในการจัดอเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ปี2561
โดยทางไอรอนแมน ได้ให้การจัดการแข่งขันมาราธอนในไทย เป็นแบบGOLD LABEL ทันที  แม้จะเป็นการจัดครั้งแรกในไทย ซึ่งเป็นระดับเดียวกับการจัดแข่งขันมาราธอน ใน 4 เมืองของเอเชีย คือ ซิดนีย,สิงคโปร์,โตเกียว,เกาหลีใต้  นั่นหมายถึงจะมีกีฬามาราธอน  ระดับท็อป 20 ของโลก และระดับแชมป์โลกอย่างน้อย 3 คนเข้ามาแข่งขันในไทย

IMG_0903
การจัดการแข่งขันมาราธอนในไทย ทางไอรอนแมน คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 4 หมื่นคนสำหรับปีแรกของการจัดงาน สร้างรายได้ราว 400 ล้านบาท เฉลี่ยค่าใช้จ่ายที่ 1 หมื่นบาทต่อคน ในช่วง 3 วันที่เดินทางเข้ามา และในจำนวนนี้คาดว่าจะเป็นนักกีฬามาราธอนจากต่างประเทศอยู่ที่ราว 15% หรือราว 1 หมื่นคน ซึ่งในวันแข่งขัน จะมีการปิดถนนระยะทาง 42.19 กิโลเมตร โดยจะปิดตั้งแต่สนามกีฬาราชมังคลา ถนนราชดำเนิน อนุสาวรีย์ชัยประชาธิปไตย  พระบรมรูปทรงม้า ใช้เวลาวิ่งราว 6 ชั่วโมง ซึ่งจะเริ่มวิ่งช่วงราวตี2 หรือตี3 คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วง 9.00น. จึงไม่น่าจะกระทบการเดินทางระหว่างการปิดถนนมากนัก
“ไอรอนแมน มาหารือกับททท.เพราะอยากให้เราช่วยโปรโมท และเราก็เสนอว่าควรจะมีการให้โอกาสคนไทยราว 200 คน เข้าไปร่วมแข่งขันกีฬามาราธอนที่เขาจัดใน 6 เมืองทั่วโลกดังกล่าวด้วย เพื่อพัฒนานักกีฬามาราธอนไทย และการจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าวเป็นงานระดับสากล ก็จะทำให้เกิดเงินสะพัด และโปรโมทศักยภาพการท่องเที่ยวของไทยในสู่สากลด้วย”
นายยุทธศักดิ์ ยังกล่าวต่อว่า ผมยังมองว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมสปอร์ต ทัวริสซึม อย่างจริงจัง ผมก็เสนอแนวคิดไปว่าน่าจะผลักดันให้เกิดสปอร์ต วีซ่า เพื่อให้ต่างชาติเข้ามาแข่งขันกีฬาในไทยอย่างสะดวก เหมือนกรณีที่รัฐบาลอนุมัติเรื่องของเมดิคัล วีซ่า

IMG_0902
รวมทั้งที่ผ่านมาททท.ให้การสนับสนุนรายงานแข่งขันกีฬาระดับชั้นนำหลายรายการ และเชื่อมโยงกับการนำเสนอโปรดักซ์เชื่อมโยงโลคัล เอ็กซ์พิเรียล ของไทย ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงวัฒนธรรมไทย อาหารไทย บริเวณ พื้นที่การแข่งขันไตรกีฬา ที่เมืองพัทยา ซึ่งชัดเจนว่าแมทซ์กีฬาแม้จะแข่งขันไม่กี่วัน แต่กลับสร้างรายได้และโปรโมทได้อย่างมหาศาล อย่าง การจัดไตรกีฬา ที่พัทยา  สามารถสร้างรายได้ถึง 60 ล้านบาท และมีการถ่ายทอดสดในเอเชียเข้าถึงกว่า 50 ล้านครัวเรือน ซึ่งเราก็จะพยายามส่งเสริมให้เกิดความต่อเนื่องต่อไป
ด้านนางกอบกาญจน์  วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขณะนี้ความสำเร็จของนักกีฬาไทยได้รับการยอมรับในระดับโลก จึงเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะเดินหน้า
โปรโมทกีฬา เพื่อการท่องเที่ยว ตามยุทธศาสตร์สร้างประเทศไทยเป็น Sport Dream Destination เพื่อแจ้งเกิดกีฬาระดับโลก เพื่อการท่องเที่ยว Sports for Excellence โดยล่าสุดร่วมประชุมกับสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ True Visions นำกีฬาแบดมินตัน มาช่วยสร้างประเทศไทยเป็น สปอร์ต ฮับ  ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแบดมินตันรายการสำคัญของโลก

Sport Tourism 18-21
ทั้งนี้ในการแข่งขันกีฬาแบดมินตันทีมชายและทีมหญิงชิงแชมป์โลก "โทมัส-อูเบอร์คัพ 2018" (Thomas & Uber Cup Finals 2018 ) และจากนี้ไปอีก 4 ปีข้างหน้า ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแบดมินตันระดับซุปเปอร์ซีรี่ย์ ซึ่งคาดว่าจะมีคนชมทางโทรทัศน์มากกว่า 600 ล้านครัวเรือน ไม่รวมทางอินเตอร์เน็ตอีกกว่า200-300 ล้านครัวเรือน ซึ่งเป็นโอกาสดีของประเทศไทย  ที่จะได้เผยแพร่ความเป็นไทย ให้ได้รู้จักไปทั่วโลก
สำหรับการแข่งขันนี้ดำเนินการโดยสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย และทรูคอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมมือเพื่อพัฒนาและสนับสนุนนักกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. การดำเนินทางการตลาดเชิงรุก เพื่อจัดงานประชุมระหว่างประเทศขององค์กรแบดมินตันทั่วโลก รวมทั้งจัดการแข่งขันกีฬาแบดมินตันระดับนานาชาติทั้งในระดับ Grand Prix Gold, Super Series และ ประเภทการแข่งขันทีมชิงแชมป์โลก (Thomas & Uber Cup Finals 2018) ที่อยู่ในกระแสความสนใจของคนไทยและคนทั่วโลก
2. พัฒนานักกีฬาแบดมินตันไทยให้ได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันระดับสากลเพื่อมุ่งเน้นความเป็นเลิศ

3. เผยแพร่กีฬาแบดมินตันให้คนไทยได้รู้จักในวงกว้างรวมทั้งส่งเสริมให้คนไทยออกกำลังกาย ซึ่งแบดมินตันเป็นกีฬาที่คนไทยสามารถเล่นได้ทุกเพศ ทุกวัย และจำนวนผู้เล่นกีฬานี้สูงขึ้นมาก ซึ่งสอดคล้องกับแผนกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาวะโลกที่จะนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

อย่างไรก็ตามทั้ง 2 รายการแข่งขันนี้จะทำให้มีชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เป็นการใช้กีฬาในการสนับสนุนการท่องเที่ยว และนำรายได้เข้าสู่ประเทศอีกทางหนึ่งด้วยความก้าวหน้าของวงการกีฬาไทย ในปัจจุบัน กีฬาจะช่วยปรับภาพลักษณ์ประเทศไทย ให้มีคุณภาพทั้งด้าน
การท่องเที่ยว และสร้างคนไทยที่มีความสามารถ มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก