‘อี-ทิกเก็ตขสมก.’ยังไม่จบ บีทีเอสไม่ยอมแพ้-ช.ทวีหนาว!หวั่นซํ้ารอยเมล์เอ็นจีวี

โครงการประมูลระบบตั๋วอี-ทิกเก็ตติดตั้งรถขสมก. 2,600 คัน มูลค่า 1,600 ล้าน ส่อแววเดือดไม่จบกลุ่ม ช.ทวี ผวากินแห้วซํ้ารอยเมล์เอ็นจีวี หลังกลุ่มบีทีเอสยื่นหนังสือร้องบิ๊กคมนาคมและบอร์ด ขสมก. หลังโดนปรับตกคุณสมบัติเหตุเอกสารไม่ครบ

แหล่งข่าวระดับสูงขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เปิดเผยว่า ล่าสุดได้ตอบจดหมาย(ที่สกม.1642/2560 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2560) ให้กลุ่มบริษัท ช.ทวี จำกัด(มหาชน) ได้รับสิทธิ์คัดเลือกเป็นผู้วางระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์(e-Ticket) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,665 ล้านบาทในรถโดยสารของขสมก.จำนวน 2,600 คันพร้อมขอให้จัดเตรียมหลักประกันสัญญาเช่าระบบดังกล่าวเพื่อลงนามสัญญากับขสมก.ภายใน 7 วัน

โดยหลักประกันสัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารดังกล่าวนี้คิดเป็น 10% ของราคาเช่าทั้งหมด เป็นเงิน 166 ล้านบาท พร้อมหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หนังสือบริคณฑ์สนธิ บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ และบัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง สำเนาสัญญาของการเข้าร่วมค้าหรือร่วมทำงานพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง ทั้งนี้นิติบุคคลทุกรายจะต้องรับผิดร่วมกันและแทนกันต่อองค์การอย่างลูกหนี้ร่วม

[caption id="attachment_160418" align="aligncenter" width="398"] ‘อี-ทิกเก็ตขสมก.’ยังไม่จบ บีทีเอสไม่ยอมแพ้-ช.ทวีหนาว!หวั่นซํ้ารอยเมล์เอ็นจีวี[/caption]

นอกจากนั้นยังปรากฏว่ากลุ่มบีทีเอสที่ได้เข้าร่วมประมูลโครงการดังกล่าว ต่อมาคณะกรรมการพิจารณาการประกวดราคาได้ปรับให้กลุ่มบีทีเอสไม่ผ่านคุณสมบัติเหตุจัดส่งเอกสารไม่ครบถ้วนจึงเป็นผลให้กลุ่มบีทีเอสหลุดโผจากการประมูลในครั้งนี้

ล่าสุดนั้นกลุ่มบีทีเอสได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรัฐมนตรีผู้กำกับดูแลขสมก.และคณะกรรมการบริหารองค์การ(บอร์ด) ขสมก.เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีดังกล่าว ซึ่งกรณีนี้จึงไม่แน่ใจว่าจะส่งผลให้การเซ็นสัญญากับกลุ่มบริษัท ช.ทวี จำกัด(มหาชน) (CHO) ในครั้งนี้ต้องยืดเยื้อไปอีกหรือไม่

[caption id="attachment_129978" align="aligncenter" width="503"] อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม[/caption]

“ดังนั้นในเมื่อยังไม่ได้มีการลงนามสัญญาและไม่มีการส่งมอบเงินอย่างเป็นทางการจึงเป็นไปได้ทั้งสิ้นว่าโครงการนี้ยังมีโอกาสพลิกโผได้อีกเช่นกัน เช่นเดียวกับกรณีการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันที่ผ่านมา”

ด้านนายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการขสมก. กล่าวว่า ล่าสุดได้ความชัดเจนแล้วว่ากลุ่มช.ทวีได้ผ่านการคัดเลือกเพื่อวางระบบดังกล่าว โดยเบื้องต้นได้เจรจากับกลุ่มช.ทวีเรื่องรายละเอียดงวดจ่ายเงินจนได้ข้อสรุปพร้อมส่งรายละเอียดให้สำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.)ระบุไว้ในสัญญาต่อไป

“โครงการดังกล่าวนี้เบื้องต้นมีผู้เข้าร่วมประมูลจำนวน 3 รายคือกลุ่มบีทีเอส กลุ่ม ช.ทวี และกลุ่มฟอร์ซเทคโนโลยี ล่าสุดได้กลุ่มช.ทวีผ่านการพิจารณาในท้ายที่สุด คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญากับกลุ่ม ช.ทวีได้ใน 1-2 สัปดาห์นี้หลังจากที่กฤษฎีกาเห็นชอบร่างสัญญาเรียบร้อยแล้วเพื่อเร่งติดตั้งให้สำเร็จตามแผนต่อไป”

ทั้งนี้โครงการประกวดราคาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (e-Ticket) จำนวน 2,600 คัน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในครั้งนี้มีระยะสัมปทาน 5 ปี วงเงินราว 1,800 ล้านบาทโดยได้เปิดซองเอกสารประกวดราคาไปเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมาโดยมี 2 บริษัทผ่านการคัดเลือกคือกลุ่มบริษัทฟอร์ซเทคโนโลยีฯ และบริษัท ช.ทวี จำกัด(มหาชน) นั้นผลปรากฏว่ากลุ่มช.ทวีที่ร่วมทุนกับสาธารณรัฐเกาหลีชนะการประมูลในครั้งนี้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,269 วันที่ 11 - 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560