SCG ตั้ง “AddVentures” เสริมศักยภาพสตาร์ทอัพทั่วโลก

08 มิ.ย. 2560 | 09:05 น.
เอสซีจี ตั้ง “AddVentures” บริษัทในรูปแบบ Corporate Venture Capital วางวิสัยทัศน์ “You Innovate, We Scale” เสริมศักยภาพสตาร์ทอัพทั่วโลก ยกระดับ Ecosystem ด้วยองค์ความรู้ เครือข่าย และฐานลูกค้าทั่วอาเซียน ปูพรมพัฒนานวัตกรรม 3 กลุ่มหลัก “Enterprise-Industrial-B2B” เพื่อพลิกโฉมธุรกิจ-เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน-สร้างสรรค์สินค้าและบริการที่ดีและเร็วยิ่งกว่าให้ลูกค้า

นายยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี กล่าวว่า เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุค Digital Transformation ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง ผู้คนมีความต้องการหลากหลายและเป็นปัจเจกมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังมีบทบาทในการพลิกโฉมธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ สร้างทั้งโอกาสและความท้าทายแก่ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ทั่วโลก ที่ผ่านมา เอสซีจีจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เสมอมา แต่ด้วยบริบทของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เอสซีจี จึงตั้งบริษัทในรูปแบบ Corporate Venture Capital หรือ CVC ภายใต้ชื่อ “AddVentures” ขึ้น เพื่อเสริมศักยภาพและลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและทั่วโลก ให้เอสซีจีสามารถเชื่อมโยงนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน

ดร.จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentures กล่าวว่า การจัดตั้ง AddVentures มาพร้อมด้วยวิสัยทัศน์ “You Innovate, We Scale” สื่อถึงความเป็นองค์กรที่เปิดกว้างสำหรับความร่วมมือกับสตาร์ทอัพที่ต้องการส่งต่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ดีกว่า เร็วกว่า และคุ้มค่ากว่าให้แก่คู่ค้าหรือผู้บริโภค โดย AddVentures จะไม่ได้สนับสนุนแค่ด้านการเงินให้แก่สตาร์ทอัพ แต่จะสนับสนุนทั้งองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงต่างๆ เครือข่ายลูกค้าของเอสซีจีที่มีอยู่ทั่วอาเซียน ตลอดจนทรัพยากรอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้สตาร์ทอัพเหล่านั้นเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน ผ่านการทำงานร่วมกันกับสตาร์ทอัพอย่างใกล้ชิด

พันธมิตรและเทคโนโลยีเป้าหมายที่ AddVentures สนใจลงทุน ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.Enterprise 2.Industrial และ 3.B2B โดยภายใต้แต่ละกลุ่มหลัก ยังมีกลุ่มย่อยๆ เช่น Logistics & Supply Chain Tech, Smart Packaging Tech, Chemicals Tech, Construction Tech, Industrial & Manufacturing Tech, Industrial & Construction Product Marketplace เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดจะเป็นเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่มของเอสซีจี ได้แก่ 1.ธุรกิจซิเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 2.ธุรกิจเคมิคอลส์ และ 3.ธุรกิจแพคเกจจิ้ง ขณะที่รูปแบบการลงทุนเปิดกว้างทั้งความร่วมมือเชิงพาณิชย์ (Commercial Deal) ทั่วไป การอนุญาตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (Licensing) การร่วมทุน (Joint Venture) ไปจนถึงการเข้าซื้อกิจการในสตาร์ทอัพนั้นๆ