แคนาดา...สวรรค์ของคนรักกัญชา
เป็นข่าวฮือฮากันมาตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีหนุ่มหล่อจากพรรคเสรีนิยมของประเทศแคนาดา นำเสนอพ.ร.บ.กัญชา หรือ Cannabis Act เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเพื่อให้การปลูก ขาย และเสพกัญชาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจเป็นเรื่องถูกกฎหมายภายในประเทศ คาดว่ากระบวนดังกล่าวจะใช้เวลาและผ่านออกมาเป็นกฎหมายได้ภายในปีหน้า ทันกับการเฉลิมฉลองการก่อตั้งประเทศแคนาดาครบรอบ 151 ปีในวันที่ 1 กรกฎาคม 2561
ทั้งนี้ ภายใต้พ.ร.บ.ดังกล่าวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและเป็นหนึ่งในประเด็นไฮไลท์ของการหาเสียงเลือกตั้งของนายทรูโดในปี 2558 ได้มีการเสนอให้การปลูกและครอบครองกัญชาเพื่อใช้ในการพักผ่อนหย่อนใจส่วนบุคคลนั้นสามารถทำได้โดยถูกกฎหมาย โดยแต่ละครัวเรือนได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชาได้อย่างมาก 4 ต้น และผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถซื้อกัญชาได้โดยตรงจากผู้ผลิตที่ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ หรือ แอลพี ( licensed producers : LPs ) จำนวน 43 รายทั่วประเทศ ปัจจุบัน แอลพีเหล่านี้สามารถจำหน่ายกัญชาส่งทางไปรษณีย์ให้แก่ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ พ.ร.บ.ยังให้สิทธิ์แก่รัฐบาลท้องถิ่นในการพิจารณาให้ใบอนุญาตแก่บรรดาแอลพีในการจำหน่ายกัญชาแก่ลูกค้าในร้านค้าตามแต่จะเห็นสมควร ซึ่งอาจจะเป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีอยู่แล้ว หรืออาจจะสร้างสถานจำหน่ายกัญชาโดยเฉพาะขึ้นมา
ในระหว่างนี้ บริษัทเอกชนของแคนาดาภายใต้ชื่อ คานาปี โกรว์ธ คอร์ป. ผู้ผลิตกัญชารายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีมูลค่าหุ้นในตลาดที่ 1,240 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงครองแชมป์การเป็นผู้ผลิตกัญชาโดยถูกกฎหมายรายใหญ่ของโลก โดยมีพื้นที่เพาะปลูกรวม 350,000 ตารางฟุตในโรงเรือนเพาะปลูกแบบปิด ตั้งอยู่ใกล้ๆกับน้ำตกไนล์แองการา แต่สถิติดังกล่าวกำลังจะถูกท้าทายโดยบริษัทผู้ผลิตอันดับสอง ออโรร่า แคนนาบิส อิงค์. ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติแคนาดาเช่นกัน
ออโรร่า แคนนาบิส กำลังก่อสร้างเรือนกระจกสำหรับปลูกกัญชาที่มีขนาดใหญ่ถึง 800,000 ตารางฟุต หรือเทียบเท่าสนามฟุตบอล 16 สนาม ตั้งอยู่ใกล้ๆกับสนามบินนานาชาติเอ็ดมอนตัน กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2560 นี้ ซึ่งจะทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่เพาะปลูกกัญชาเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และจะมีกำลังการผลิตกัญชาป้อนความต้องการของตลาดปีละกว่า 100 ตัน สอดคล้องกับการผ่านร่างกฎหมาย Cannabis Act ในปีหน้า
การค้ากัญชาเป็นธุรกิจใหญ่ที่ทำรายได้มหาศาลในประเทศแคนาดามาเนิ่นนานแล้ว กฎหมายแคนาดาอนุญาตให้มีการนำกัญชามาใช้ในการบำบัดรักษาโรคตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา เกือบ 30 % ของผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาวในประเทศแคนาดายอมรับว่า เคยเสพกัญชาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่แคนาดามีบริษัทเอกชนที่ผลิตและจำหน่ายกัญชาอย่างถูกกฎหมายรายใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย ข่าวระบุว่า หุ้นของคานาปี โกรว์ธ คอร์ป.และออโรร่า แคนนาบิส ซึ่งเป็นสองบริษัทกัญชารายใหญ่ มีราคาขยับสูงขึ้นมากกว่า 2 เท่าในปีที่ผ่านมา
ถามว่าเมื่อกฎหมายทำให้การปลูก ขาย และเสพกัญชาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจกลายเป็นเรื่องถูกต้องในปีหน้า อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง? ตัวเลขประเมินของทางการระบุว่า ผู้ค้ากัญชาในตลาดมืดก็จะสูญเสียรายได้มหาศาลเมื่อผู้ซื้อสามารถซื้อกัญชาโดยตรงจากผู้ขายที่มีใบอนุญาต บรรดาแอลพีสามารถตั้งราคาแข่งขันกันเพื่อดึงดูดใจลูกค้า ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ราคากัญชาถูกลง สถิติจากสำนักงบประมาณรัฐสภาแคนาดาชี้ว่า ปัจจุบันราคาจำหน่ายกัญชาแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่นในเมืองควิเบค ราคากรัมละ 7.31 ดอลลาร์แคนาดา ขณะที่ในเมืองอื่นๆทางตอนเหนือของประเทศ ราคาจำหน่ายกรัมละ 13.17 ดอลลาร์แคนาดา เป็นต้น
นอกจากนี้ รัฐยังจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเก็บภาษีการซื้อขายกัญชา ทั้งนี้ ภาษีการขายสินค้าทั่วไปในแคนาดามีอัตราระหว่าง 5-15% มีตัวเลขประเมินคร่าวๆจากสำนักวิเคราะห์บางแห่งว่า เมื่อ พ.ร.บ.กัญชามีผลบังคับใช้ รัฐบาลแคนาดาอาจจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีกัญชาเพิ่มขึ้นถึงปีละ 5,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา แต่บางสำนักก็ว่า น่าจะเก็บได้เพียง 675 ล้านดอลลาร์ฯเท่านั้น
ทั้งนี้ ภายใต้พ.ร.บ.ดังกล่าวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและเป็นหนึ่งในประเด็นไฮไลท์ของการหาเสียงเลือกตั้งของนายทรูโดในปี 2558 ได้มีการเสนอให้การปลูกและครอบครองกัญชาเพื่อใช้ในการพักผ่อนหย่อนใจส่วนบุคคลนั้นสามารถทำได้โดยถูกกฎหมาย โดยแต่ละครัวเรือนได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชาได้อย่างมาก 4 ต้น และผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถซื้อกัญชาได้โดยตรงจากผู้ผลิตที่ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ หรือ แอลพี ( licensed producers : LPs ) จำนวน 43 รายทั่วประเทศ ปัจจุบัน แอลพีเหล่านี้สามารถจำหน่ายกัญชาส่งทางไปรษณีย์ให้แก่ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ พ.ร.บ.ยังให้สิทธิ์แก่รัฐบาลท้องถิ่นในการพิจารณาให้ใบอนุญาตแก่บรรดาแอลพีในการจำหน่ายกัญชาแก่ลูกค้าในร้านค้าตามแต่จะเห็นสมควร ซึ่งอาจจะเป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีอยู่แล้ว หรืออาจจะสร้างสถานจำหน่ายกัญชาโดยเฉพาะขึ้นมา
ในระหว่างนี้ บริษัทเอกชนของแคนาดาภายใต้ชื่อ คานาปี โกรว์ธ คอร์ป. ผู้ผลิตกัญชารายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีมูลค่าหุ้นในตลาดที่ 1,240 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงครองแชมป์การเป็นผู้ผลิตกัญชาโดยถูกกฎหมายรายใหญ่ของโลก โดยมีพื้นที่เพาะปลูกรวม 350,000 ตารางฟุตในโรงเรือนเพาะปลูกแบบปิด ตั้งอยู่ใกล้ๆกับน้ำตกไนล์แองการา แต่สถิติดังกล่าวกำลังจะถูกท้าทายโดยบริษัทผู้ผลิตอันดับสอง ออโรร่า แคนนาบิส อิงค์. ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติแคนาดาเช่นกัน
ออโรร่า แคนนาบิส กำลังก่อสร้างเรือนกระจกสำหรับปลูกกัญชาที่มีขนาดใหญ่ถึง 800,000 ตารางฟุต หรือเทียบเท่าสนามฟุตบอล 16 สนาม ตั้งอยู่ใกล้ๆกับสนามบินนานาชาติเอ็ดมอนตัน กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2560 นี้ ซึ่งจะทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่เพาะปลูกกัญชาเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และจะมีกำลังการผลิตกัญชาป้อนความต้องการของตลาดปีละกว่า 100 ตัน สอดคล้องกับการผ่านร่างกฎหมาย Cannabis Act ในปีหน้า
การค้ากัญชาเป็นธุรกิจใหญ่ที่ทำรายได้มหาศาลในประเทศแคนาดามาเนิ่นนานแล้ว กฎหมายแคนาดาอนุญาตให้มีการนำกัญชามาใช้ในการบำบัดรักษาโรคตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา เกือบ 30 % ของผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาวในประเทศแคนาดายอมรับว่า เคยเสพกัญชาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่แคนาดามีบริษัทเอกชนที่ผลิตและจำหน่ายกัญชาอย่างถูกกฎหมายรายใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย ข่าวระบุว่า หุ้นของคานาปี โกรว์ธ คอร์ป.และออโรร่า แคนนาบิส ซึ่งเป็นสองบริษัทกัญชารายใหญ่ มีราคาขยับสูงขึ้นมากกว่า 2 เท่าในปีที่ผ่านมา
ถามว่าเมื่อกฎหมายทำให้การปลูก ขาย และเสพกัญชาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจกลายเป็นเรื่องถูกต้องในปีหน้า อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง? ตัวเลขประเมินของทางการระบุว่า ผู้ค้ากัญชาในตลาดมืดก็จะสูญเสียรายได้มหาศาลเมื่อผู้ซื้อสามารถซื้อกัญชาโดยตรงจากผู้ขายที่มีใบอนุญาต บรรดาแอลพีสามารถตั้งราคาแข่งขันกันเพื่อดึงดูดใจลูกค้า ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ราคากัญชาถูกลง สถิติจากสำนักงบประมาณรัฐสภาแคนาดาชี้ว่า ปัจจุบันราคาจำหน่ายกัญชาแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่นในเมืองควิเบค ราคากรัมละ 7.31 ดอลลาร์แคนาดา ขณะที่ในเมืองอื่นๆทางตอนเหนือของประเทศ ราคาจำหน่ายกรัมละ 13.17 ดอลลาร์แคนาดา เป็นต้น
นอกจากนี้ รัฐยังจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเก็บภาษีการซื้อขายกัญชา ทั้งนี้ ภาษีการขายสินค้าทั่วไปในแคนาดามีอัตราระหว่าง 5-15% มีตัวเลขประเมินคร่าวๆจากสำนักวิเคราะห์บางแห่งว่า เมื่อ พ.ร.บ.กัญชามีผลบังคับใช้ รัฐบาลแคนาดาอาจจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีกัญชาเพิ่มขึ้นถึงปีละ 5,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา แต่บางสำนักก็ว่า น่าจะเก็บได้เพียง 675 ล้านดอลลาร์ฯเท่านั้น