กกต.ปัดสอบ“9 รมต.ถือหุ้น”ต่อรองเซตซีโร่
ประธานกกต.ปัดสอบ “9รมต.ถือหุ้น”เอาคืนรัฐบาล-ต่อรองเซตซีโร่ ด้าน"สมชัย" แจงยิบแค่ทำตามหน้าที่ คาด 3 เดือนรู้ผลชงศาลรธน.หรือไม่
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต. มีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ 9 รัฐมนตรี ถือครองหุ้น เข้าข่ายขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ หากพบมีมูลจะส่งเรื่องให้ที่ประชุม กกต. ลงมติ ว่าจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการเอาคืนรัฐบาลหรือเป็นข้อต่อรองกับการเซตซีโร่ กกต.
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ชี้แจงกรณีกกต.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนคำร้อง 9 รัฐมนตรีกระทำการเข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งว่า รู้สึกไม่สบายใจกับข่าวที่ออกไปเพราะไม่ใช่เรื่องของการเอาคืนรัฐบาล เพราะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาร่างพ.ร.บ.กกต.มีมติให้เซตซีโร่กกต. แต่เป็นเรื่องที่นายเรืองไกร ได้มายื่นเรื่องร้องต่อกกต.ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า มีรัฐมนตรี 9 คนเข้าข่ายที่ถูกถอดถอน เช่นมีบางคนถือหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน หรือถือหุ้นในกิจการที่รัฐให้สัมปทานหรือประกอบกิจการกับรัฐ หรือถือหุ้นในบริษัทเอกชนโดยยังไม่มีการโอนหุ้นให้ผู้อื่น
[caption id="attachment_158755" align="aligncenter" width="335"]
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร[/caption]
หรือแม้กระทั่งสถานะการเป็นลูกจ้างของหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเมื่อยื่นเรื่องมา กกต. ก็มอบหมายให้สำนักกฎหมายไปพิจารณาเบื้องต้นว่าคำร้องมีมูลพอจะรับไว้พิจารณาได้หรือไม่ และใช้เวลาประมาณ 3สัปดาห์ในการศึกษาวิเคราะห์รายละเอียดในคำร้อง ก่อนที่จะเสนอบรรจุเข้าวาระการประชุมกกต.ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. แต่ในวันดังกล่าวกกต.อยู่ไม่ครบ 5 คน และเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่กกต.ควรอยู่กันให้ครบ จึงมีการเลื่อนพิจารณาไปในการประชุมครั้งถัดไปคือวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก็มีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน
"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่เป็นการทำตามบทบาทหน้าที่ เมื่อมีคนยื่นมาและมีมูลก็ต้องตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมีการตั้งกรรมการ 9 คน จากผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมาย รอการลงนามคำสั่งแต่งตั้งของประธาน กกต. ซึ่งคณะกรรมการสอบสวน ต้องทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันนับจากวันที่มีคำสั่ง แต่งตั้ง แต่สามารถขอขายเวลาการทำงานได้ครั้งละ 30 วัน จากนั้นเสนอเรื่องพร้อมความเห็นมายังกกต.ว่าสามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ คาดว่าอีก 2-3 เดือน จากนี้กกต.ก็จะมีการลงมติว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนหรือไม่”
นายสมชัย กล่าวว่า จากการพิจารณาข้อเท็จจริง แม้ว่าจะพอรู้ว่าเรื่องราวใดน่าจะเข้าข่าย แต่ไม่สามารถพูดล่วงหน้าได้ ขอให้เป็นหน้าที่ของกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่จะสรุปส่งมายังกกต. ดังนั้นทุกอย่างจึงเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ได้มีการเร่งรัดแต่เป็นไปตามระบบ แต่จะจบภายใน กกต.ชุดนี้หรือไม่นั้นยังบอกไม่ได้ แต่เท่าที่คาดการณ์แล้วคิดว่ากระบวนการคัดเลือกกกต.ชุดใหม่น่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 4 เดือน ซึ่งกกต.ก็ต้องทำตามหน้าที่เพราะถ้าไม่ทำก็จะเกิดปัญหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่"
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต. มีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ 9 รัฐมนตรี ถือครองหุ้น เข้าข่ายขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ หากพบมีมูลจะส่งเรื่องให้ที่ประชุม กกต. ลงมติ ว่าจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการเอาคืนรัฐบาลหรือเป็นข้อต่อรองกับการเซตซีโร่ กกต.
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ชี้แจงกรณีกกต.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนคำร้อง 9 รัฐมนตรีกระทำการเข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งว่า รู้สึกไม่สบายใจกับข่าวที่ออกไปเพราะไม่ใช่เรื่องของการเอาคืนรัฐบาล เพราะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาร่างพ.ร.บ.กกต.มีมติให้เซตซีโร่กกต. แต่เป็นเรื่องที่นายเรืองไกร ได้มายื่นเรื่องร้องต่อกกต.ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า มีรัฐมนตรี 9 คนเข้าข่ายที่ถูกถอดถอน เช่นมีบางคนถือหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน หรือถือหุ้นในกิจการที่รัฐให้สัมปทานหรือประกอบกิจการกับรัฐ หรือถือหุ้นในบริษัทเอกชนโดยยังไม่มีการโอนหุ้นให้ผู้อื่น
[caption id="attachment_158755" align="aligncenter" width="335"]
หรือแม้กระทั่งสถานะการเป็นลูกจ้างของหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเมื่อยื่นเรื่องมา กกต. ก็มอบหมายให้สำนักกฎหมายไปพิจารณาเบื้องต้นว่าคำร้องมีมูลพอจะรับไว้พิจารณาได้หรือไม่ และใช้เวลาประมาณ 3สัปดาห์ในการศึกษาวิเคราะห์รายละเอียดในคำร้อง ก่อนที่จะเสนอบรรจุเข้าวาระการประชุมกกต.ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. แต่ในวันดังกล่าวกกต.อยู่ไม่ครบ 5 คน และเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่กกต.ควรอยู่กันให้ครบ จึงมีการเลื่อนพิจารณาไปในการประชุมครั้งถัดไปคือวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก็มีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน
"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่เป็นการทำตามบทบาทหน้าที่ เมื่อมีคนยื่นมาและมีมูลก็ต้องตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมีการตั้งกรรมการ 9 คน จากผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมาย รอการลงนามคำสั่งแต่งตั้งของประธาน กกต. ซึ่งคณะกรรมการสอบสวน ต้องทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันนับจากวันที่มีคำสั่ง แต่งตั้ง แต่สามารถขอขายเวลาการทำงานได้ครั้งละ 30 วัน จากนั้นเสนอเรื่องพร้อมความเห็นมายังกกต.ว่าสามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ คาดว่าอีก 2-3 เดือน จากนี้กกต.ก็จะมีการลงมติว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนหรือไม่”
นายสมชัย กล่าวว่า จากการพิจารณาข้อเท็จจริง แม้ว่าจะพอรู้ว่าเรื่องราวใดน่าจะเข้าข่าย แต่ไม่สามารถพูดล่วงหน้าได้ ขอให้เป็นหน้าที่ของกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่จะสรุปส่งมายังกกต. ดังนั้นทุกอย่างจึงเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ได้มีการเร่งรัดแต่เป็นไปตามระบบ แต่จะจบภายใน กกต.ชุดนี้หรือไม่นั้นยังบอกไม่ได้ แต่เท่าที่คาดการณ์แล้วคิดว่ากระบวนการคัดเลือกกกต.ชุดใหม่น่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 4 เดือน ซึ่งกกต.ก็ต้องทำตามหน้าที่เพราะถ้าไม่ทำก็จะเกิดปัญหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่"