ไอโฟนเตรียมออกฟีเจอร์ใหม่ “ขับไม่โทร”ปลายปีนี้

06 มิ.ย. 2560 | 12:33 น.
เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ยวดยานมากยิ่งขึ้น แอปเปิ้ล ผู้ผลิตโทรศัพท์ไอโฟนได้ประกาศภายในงานเอ็กซ์โป WWDC ที่เมืองซานโฮเซ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2560 ว่า บริษัทกำลังจะนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Do Not Disturb While Driving หรือ กรุณาอย่ารบกวนขณะขับรถ ให้กับโทรศัพท์ไอโฟนภายในช่วงปลายปีนี้

ฟีเจอร์ใหม่ดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ iOS 11 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดในเดือนกันยายนศกนี้ และเหมาะสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ไอโฟน 5S หรือรุ่นที่ใหม่กว่านั้น ระบบดังกล่าวจะตรวจจับโดยอัตโนมัติว่า ผู้ใช้กำลังอยู่ในรถยนต์หรือไม่ จากนั้นจะบล๊อคหรือสกัดการแจ้งเข้า (notifications) และข้อความ (texts) ต่างๆ ขณะเดียวกันก็จะล๊อคระบบของผู้ใช้โทรศัพท์ที่กำลังอยู่ในรถไม่ให้สามารถเปิดแอพพลิเคชั่นต่างๆบนโทรศัพท์ไอโฟนของตัวเอง นอกจากนี้ ระบบยังสามารถส่งข้อความตอบกลับโดยอัตโนมัติเพื่อแจ้งให้ผู้อื่นทราบว่า ตอนนี้ผู้ใช้กำลังขับรถอยู่ อย่างไรก็ตามระบบเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ว่าจะใช้โหมดโทรศัพท์แฮนด์ฟรีหรือไม่

donotdisturb

แม้ว่าทุกครั้งที่ใช้งาน ซอฟต์แวร์ใหม่ของไอโฟนจะเตือนผู้ใช้ให้เปิดโหมด “อย่ารบกวนขณะขับรถ”  แต่ผู้ใช้ก็สามารถเลือกที่จะไม่สนใจคำเตือนนั้นได้

ข่าวระบุว่า ระบบสามารถตรวจจับว่าผู้ใช้ไอโฟนกำลังอยู่ข้างในตัวรถหรือไม่ เพราะมันสามารถตรวจหาสัญญาณบลูทูธในรถยนต์ และสังเกตจากการวิ่งผ่านจุดบริการไวไฟขณะที่รถขับผ่านไป เมื่อใดก็ตามที่มีการเปิดใช้ระบบแล้ว มันจะทำงานทันทีไม่ว่าผู้ใช้ไอโฟนจะอยู่ในตำแหน่งคนขับหรือผู้โดยสาร แต่หากผู้ใช้ต้องการใช้โทรศัพท์จริงๆก็สามารถเลือกโหมดโทรด้วยตัวเอง

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยบนท้องถนนให้ความเห็นว่า การที่ผู้ขับขี่รถยนต์ถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปจากท้องถนนแม้เพียง 2 วินาทีหรือกว่านั้น ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุรถชนได้สองเท่าตัว ดังนั้น เทคโนโลยีใดๆก็ตามที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องน่ายินดีทั้งนั้น “ระบบนี้เป็นความก้าวหน้าที่จะทำให้เรามั่นใจได้ว่า พฤติกรรมการขับขี่แบบผิดๆ (โทรระหว่างขับ)จะถูกยับยั้ง”

ฟีเจอร์ใหม่ของไอโฟนนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจราจรทางบก เช่น ลอเรน ริทชี่ โฆษกของสมาคมผู้ขับรถยนต์แห่งรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ให้ความเห็นว่า ระบบนี้เป็นความริเริ่มที่ยิ่งใหญ่ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเมื่อมีซอฟต์แวร์แล้ว เหลืออยู่แต่ว่าต้องทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ใช้ฟังค์ชั่นนี้ “การมีสิ่งใดๆมาชักจูงความสนใจของคนขับ ทำให้เสียสมาธิซึ่งส่วนใหญ่คือการใช้โทรศัพท์มือถือ เป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทุกๆ 1 ใน 4 เหตุการณ์บนท้องถนน”  จากงานวิจัยของสมาคมผู้ใช้รถยนต์แห่งออสเตรเลียนั้น 79% ของผู้ขับรถยนต์ที่ตอบแบบสำรวจ ระบุว่า การใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขั้นเสียชีวิต สาเหตุรองลงมาอันดับสอง คือการใช้ความเร็วสูง (68%) ตามมาด้วยการขับรถขณะมึนเมา (67%)

“การพิมพ์ข้อความส่งทางโทรศัพท์ (texting) ไม่ต่างจากการขับรถไปตามความยาวของสนามฟุตบอลโดยมีผ้าผูกตาเอาไว้ แต่มันอันตรายตรงที่คุณขึ้นมาขับบนท้องถนน”