"เรืองไกร"ยื่นสอบธปท.

“เรืองไกร” ร้อง สอบ ธปท. ขาดทุนยับกว่า 8 แสนล.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 มิถุนายน 2560) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ตรวจสอบฐานะการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ที่มีผลขาดทุนสะสมประมาณ 805,835 ล้านบาท พร้อมเรียกร้องให้มีการชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบด้วยว่า รัฐบาลจะมีแนวทางการแก้ไขปัญหาขาดทุนของ ธปท. ต่อไปอย่างไร รวมถึงรัฐบาลจะหาผู้มารับผิดชอบปัญหาดังกล่าวได้หรือไม่ด้วย

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีข่าวปรากฏเรื่องผลการดำเนินงานของ ธปท. ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีผลขาดทุนสูงถึง 139,533 ล้านบาท เมื่อไปตรวจสอบงบแสดงฐานะการเงินของ ธปท. ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีประเด็นที่ควรสงสัย โดยในงบแสดงฐานะการเงินด้านหนี้สินและทุนมีตัวเลขหนี้สินรวม 4,963,953 ล้านบาท ส่วนของทุนมีตัวเลขที่ติดลบรวม 745,763 ล้านบาท และเมื่อพิจารณาในส่วนของทุน มีตัวเลขที่ควรกังวลเกี่ยวกับฐานะการคลังของรัฐบาลตามมาด้วย เนื่องจากตัวเลขผลขาดทุนสะสมมีสูงถึง 805,835 ล้านบาท ขณะที่ ธปท. มีทุนประเดิมเพียง 20 ล้านบาท ดังนั้น หากเทียบสัดส่วนผลขาดทุนสะสมต่อทุนจะสูงถึง 40,921 เท่า

ทั้งยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับหนี้สินรวมของ ธปท. จำนวน 4,963,953 ล้านบาทว่า ไม่พบว่า มีการนำไปแสดงไว้เป็นหนี้สาธารณะด้วยหรือไม่ เนื่องจากหนี้สาธารณะ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)รายงานไว้ คือ 5,921,722 ล้านบาท ขณะที่จีดีพีอยู่ที่ 14,366,557 ล้านบาท สัดส่วนหนี้ต่อจีพีพีเท่ากับร้อยละ 41.22 แต่หากนำตัวเลขหนี้ของ ธปท. จำนวน 4,963,953 ล้านบาท มารวมไว้ในหนี้สาธารณะจะทำให้หนี้ทั้งหมดกลายเป็น 10,885,675 ล้านบาทหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้อาจแสดงว่า หนี้สาธารณะต่อ GDP อาจสูงถึงร้อยละ 75.77 ตามมาได้ กรณีผลขาดทุนสะสม 805,835 ล้านบาท และหนี้สินรวม 4,963,953 ล้านบาท ของ ธปท. จึงเป็นตัวเลขที่มีนัยสำคัญต่อฐานะการคลังของรัฐได้