สนช. รับหลักการร่าง พ.ร.ป.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 190 เสียง ด้าน “มีชัย” ระบุ ได้กำหนดการไต่สวนของศาลฎีกาให้ชัดเจนมากขึ้นและให้ศาลพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มี ศ.พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม มีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. .... ไว้พิจารณาด้วยคะแนนเห็นด้วย 190 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง 4 เสียง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา19 คน โดยมาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) 4 คน คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) 2 คน และ สมาชิก สนช. 13 คน กำหนดระยะเวลาแปรญัตติ 7 วัน ระยะเวลาดำเนินงาน 45 วัน
โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุม สนช.ว่า การจัดทำร่างกฎหมายดังกล่าวได้มีการรับฟังความเห็นจากประชาชน ทั้งการจัดสัมมนาและ นำขึ้นเว็บไซต์ โดยได้นำความเห็นและข้อมูลที่ได้มาประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ กรธ.ได้เพิ่มเติมหลักการในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว 2 ประเด็น เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ คือ กำหนดวิธีการไต่สวนให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้การพิจารณาของศาล การสืบค้นและหาข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นหลักประกันว่าทุกฝ่ายจะได้รับความยุติธรรม รวมถึงได้กำหนดเรื่องการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย ซึ่งที่ผ่านมาไม่สามารถดำเนินคดีสำคัญได้ เนื่องจากจำเลยมีการหลบหนีและไม่สามารถนำมาดำเนินคดีได้ ดังนั้นร่างกฎหมายฉบับนี้ร่างขึ้นโดยพยายามปิดช่องโหว่ต่างๆ คำนึงถึงหลักสากล และประโยชน์ของประเทศ รวมทั้งไม่ตัดสิทธิจำเลยที่ตั้งทนายมาต่อสู้คดี
ด้านสมาชิก สนช.ได้อภิปรายและให้ความเห็นต่อร่างนี้อย่างหลากหลาย พร้อมสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยเฉพาะการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย ที่มองว่า น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมามีนักการเมืองที่ทำผิด แล้วเดินทางหลบหนีไปต่างประเทศ จนไม่สามารถดำเนินคดีได้ และเห็นว่าการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรมต้องไม่ล่าช้าและควรมีกรอบเวลาให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี