แอปเปิลตั้งช็อป สมาร์ทโฟนร้อน
บรรกากาศ-กำลังซื้อตีกลับโปรดักส์ใหม่ ตลอดจนการทุ่มงบตลาดแบรนด์จีน หนุนตลาดสมาร์ทโฟนครึ่งปีแรกโตเกินคาดการณ์ ชี้“ออปโป้” มาแรง จับตามองหัวเว่ยเงินหนาเตรียมทุ่มงบตลาด ด้านเอ็มวิชั่นเผยโปรดักส์ใหม่ กระตุ้นยอดเงินสะพัด “ไทยแลนด์โมบายเอ็กซ์โป” 1,800 ล้านบาท คอมเซเว่นมองแอปเปิลตั้งแฟล็กชิพสโตร์ส่งผลดีไทย
ภาวะการอิ่มตัวของสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ผลิตและโอปอเตอร์ เร่งกระตุ้นตลาดครึ่งปีแรกให้กลับมาคึกคัก โดยเฉพาะแบรนด์จีน ที่ทุ่มเม็ดเงินตลาดมหาศาลเพื่อช่วงชิงตลาดจากผู้นำตลาดอย่าง“ซัมซุง” ในกลุ่มแอนดรอยด์โฟน รวมไปถึงค่าย”แอปเปิล” โดยแบรนด์ที่มาแรงหลังจากปรับจุดขายผลิตภัณฑ์ และการตลาดชัดเจน คือ ออปโป้ ที่วางตัวเองเป็นเซลฟี่โฟน ส่วนแบรนด์ที่น่าจับตามองคือหัวเว่ย ที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกมาดีไซน์ฟังค์ชั่นค่อนข้างดี ทั้งยังมีงบการตลาดมหาศาล
++ครึ่งปีแรกโตเกินคาด
นายจาริตร์ สิทธุ ผู้จัดการฝ่ายงานวิจัยตลาดไคลเอนด์ ดีไวซ์ และหัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัทไอดีซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ตลาดสมาร์ทโฟนครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเติบโตเกินคาดการณ์ โดยมีการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก จากเดิมคาดการณ์ว่าจะเป็นตัวเลขหลักเดียว โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดมีการเติบโต คือ กำลังซื้อที่ชะลอมาจากช่วงปลายปีเริ่มกลับมาซื้อในช่วงครึ่งปีแรก
นอกจากนี้การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการทุ่มงบการตลาดเพื่อกระตุ้นตลาด ขอแบรนด์จีน ทั้งออปโป้ วีโว่ และ หัวเว่ย ยังถือเป็นสีสันทำให้ตลาดกลับมาคึกคักขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์ออปโป้ ที่มีการปรับโพสิชั่นการตลาดชัดเจน โดยวางตัวเองเป็นเซลฟี่โฟน และมุ่งทำงบการตลาดเพื่อโปรโมตเต็มที่ ทำให้แบรนด์ออปโป้ เป็นแบรนด์ที่มาแรง
++จับตาหัวเว่ยเงินหนา
ส่วนแบรนด์ที่น่าจับตลาดมองคือแบรนด์หัวเว่ย ที่โปรดักส์ใหม่ออกมาเน้นคุณภาพกล้องเลนส์ไลก้า และมีงบตลาดมหาศาล ขณะที่แบรนด์วีโว จุดขายทางการตลาดยังไม่ชัดเจน โดยเป็นเพียงสมาร์ทโฟนทั่วไป ส่วนเจ้าตลาดคือแบรนด์ซัมซุงนั้น มีการจับมือร่วมโอปอเรเตอร์ กระตุ้นรุ่นเรือธง หรือ แฟล็กชิป โมเดลล่าสุด คือ กาแล็คซี่ เอส8 และ เอส8 พลัส โดยซื้อพร้อมแพ็กเกจให้ส่วนลดเครื่องละ 9,000-10,000 บาท ทั้งนี้มองว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจำเป็นต้องกระตุ้นยอดขายรุ่นเรือธงใหม่ที่ออกมาในช่วง 3 เดือนแรก เนื่องจากเป็นช่วงที่ขายดีสุด จากเดิมช่วงขายดีสุดอยู่ที่ 6 เดือน
สำหรับแนวโน้มในครึ่งปีหลังนั้นมองว่าระหว่างเดือนมิถุยายนถึงสิงหาคมนั้นตลาดจะชะลอตัว จนกว่าจะมีโปรดักส์เรือธงจากค่ายยักษ์ใหญ่ออกมา เริ่มจากค่ายซัมซุง ที่ชัดเจนว่าจะมีโปรดักส์ตระกูล”กาแลคซี่โน้ต” แต่ยังไม่แน่ชัดว่าซัมซุงจะใช้ชื่อรุ่นใด นอกจากนี้ยังมีไอโฟนรุ่นใหม่ออกมาสร้างสีสัน และกระตุ้นตลาดปลายปีให้คึกคักขึ้น
++เงินสะพัด TME 1,800 ล้าน
ด้านนาย โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด กล่าวว่าภาพรวมของการจัดงาน”ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป ไฮเอ็นด์ 2017” หรือ TME 2017 ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้นแม้ยอดผู้เข้าชมลดลงเมื่อเทียบกับการจัดงานในครั้งก่อน ด้วยปัจจัยลบหลายด้าน แต่สามารถสร้างยอดเงินสะพัดได้กว่า 1,800 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ตัวเลขเงินสะพัด มาจากกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายครั้งแรกในงาน ประกอบกับรุ่นเมื่อครั้งต้นปีมีการปรับราคาลงมาก รวมไปถึงโปรโมชั่นที่อัพเดทวันต่อวันอย่างน่าสนใจ และในส่วนของ แกดเจด, อุปกรณ์เสริม และสิทธิพิเศษอื่นๆ สำหรับผู้เข้าชมภายในงาน ก็ยังคงเป็นกลุ่มสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยมเช่นเคย
สำหรับพฤติกรรมการเลือกซื้อของผู้เข้าชมงานในครั้งนี้มีความหลากหลายขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทั้งการที่ผู้บริโภคเริ่มมองว่าสมาร์ทโฟนที่มีขนาดตัวเครื่องและหน้าจอใหญ่นั้นไม่ใช่คำตอบแรกของการเลือกสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่เสมอไป แต่ผู้บริโภคจะเลือกไซส์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากนี้ผู้เข้าชมส่วนใหญ่ยังพิจารณาในส่วนของสิทธิประโยชน์ที่ได้หลังจากซื้อเครื่องมากขึ้น ซึ่งต่างจากเดิมที่จะพิจารณาสเปคเครื่องที่ต้องการ โปรโมชั่นลดราคาค่าเครื่อง และของแถมที่ได้จากแบรนด์เพิ่มเติม
++แจงเปิดแฟล็กชิปสโตร์
ส่วน นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 9 ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ของแอปเปิล ในไทย กล่าวถึงกรณีการเข้ามาเปิดแฟล็กชิปสโตร์ จนทำให้ราคาหุ้นคอมเซเว่นร่วงลงมา ว่า การเข้ามาเปิดแฟล็กชิปสโตร์ของแอปเปิล เป็นข่าวมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องดีสำหรับประเทศไทย แสดงว่าแอปเปิลให้ความสนใจประเทศไทย ส่วนจะกระทบตัวแทนจำหน่ายหรือไม่นั้นมองว่าการลงทุนแฟล็กชิปสโตร์ใช้เม็ดเงินลงทุนสูง 400-500 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าต้นทุนการบริหารจัดการไม่สามารถแข่งขันกับตัวแทนจำหน่ายได้ การเข้ามาเปิดแฟล็กชิปสโตร์ เป็นเรื่องของการสร้างแบรนด์มากกว่าการขายแข่งกับตัวแทนจำหน่าย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,266 วันที่ 1- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560
ภาวะการอิ่มตัวของสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ผลิตและโอปอเตอร์ เร่งกระตุ้นตลาดครึ่งปีแรกให้กลับมาคึกคัก โดยเฉพาะแบรนด์จีน ที่ทุ่มเม็ดเงินตลาดมหาศาลเพื่อช่วงชิงตลาดจากผู้นำตลาดอย่าง“ซัมซุง” ในกลุ่มแอนดรอยด์โฟน รวมไปถึงค่าย”แอปเปิล” โดยแบรนด์ที่มาแรงหลังจากปรับจุดขายผลิตภัณฑ์ และการตลาดชัดเจน คือ ออปโป้ ที่วางตัวเองเป็นเซลฟี่โฟน ส่วนแบรนด์ที่น่าจับตามองคือหัวเว่ย ที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกมาดีไซน์ฟังค์ชั่นค่อนข้างดี ทั้งยังมีงบการตลาดมหาศาล
++ครึ่งปีแรกโตเกินคาด
นายจาริตร์ สิทธุ ผู้จัดการฝ่ายงานวิจัยตลาดไคลเอนด์ ดีไวซ์ และหัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัทไอดีซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ตลาดสมาร์ทโฟนครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเติบโตเกินคาดการณ์ โดยมีการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก จากเดิมคาดการณ์ว่าจะเป็นตัวเลขหลักเดียว โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดมีการเติบโต คือ กำลังซื้อที่ชะลอมาจากช่วงปลายปีเริ่มกลับมาซื้อในช่วงครึ่งปีแรก
นอกจากนี้การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการทุ่มงบการตลาดเพื่อกระตุ้นตลาด ขอแบรนด์จีน ทั้งออปโป้ วีโว่ และ หัวเว่ย ยังถือเป็นสีสันทำให้ตลาดกลับมาคึกคักขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์ออปโป้ ที่มีการปรับโพสิชั่นการตลาดชัดเจน โดยวางตัวเองเป็นเซลฟี่โฟน และมุ่งทำงบการตลาดเพื่อโปรโมตเต็มที่ ทำให้แบรนด์ออปโป้ เป็นแบรนด์ที่มาแรง
++จับตาหัวเว่ยเงินหนา
ส่วนแบรนด์ที่น่าจับตลาดมองคือแบรนด์หัวเว่ย ที่โปรดักส์ใหม่ออกมาเน้นคุณภาพกล้องเลนส์ไลก้า และมีงบตลาดมหาศาล ขณะที่แบรนด์วีโว จุดขายทางการตลาดยังไม่ชัดเจน โดยเป็นเพียงสมาร์ทโฟนทั่วไป ส่วนเจ้าตลาดคือแบรนด์ซัมซุงนั้น มีการจับมือร่วมโอปอเรเตอร์ กระตุ้นรุ่นเรือธง หรือ แฟล็กชิป โมเดลล่าสุด คือ กาแล็คซี่ เอส8 และ เอส8 พลัส โดยซื้อพร้อมแพ็กเกจให้ส่วนลดเครื่องละ 9,000-10,000 บาท ทั้งนี้มองว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจำเป็นต้องกระตุ้นยอดขายรุ่นเรือธงใหม่ที่ออกมาในช่วง 3 เดือนแรก เนื่องจากเป็นช่วงที่ขายดีสุด จากเดิมช่วงขายดีสุดอยู่ที่ 6 เดือน
สำหรับแนวโน้มในครึ่งปีหลังนั้นมองว่าระหว่างเดือนมิถุยายนถึงสิงหาคมนั้นตลาดจะชะลอตัว จนกว่าจะมีโปรดักส์เรือธงจากค่ายยักษ์ใหญ่ออกมา เริ่มจากค่ายซัมซุง ที่ชัดเจนว่าจะมีโปรดักส์ตระกูล”กาแลคซี่โน้ต” แต่ยังไม่แน่ชัดว่าซัมซุงจะใช้ชื่อรุ่นใด นอกจากนี้ยังมีไอโฟนรุ่นใหม่ออกมาสร้างสีสัน และกระตุ้นตลาดปลายปีให้คึกคักขึ้น
++เงินสะพัด TME 1,800 ล้าน
ด้านนาย โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด กล่าวว่าภาพรวมของการจัดงาน”ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป ไฮเอ็นด์ 2017” หรือ TME 2017 ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้นแม้ยอดผู้เข้าชมลดลงเมื่อเทียบกับการจัดงานในครั้งก่อน ด้วยปัจจัยลบหลายด้าน แต่สามารถสร้างยอดเงินสะพัดได้กว่า 1,800 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ตัวเลขเงินสะพัด มาจากกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายครั้งแรกในงาน ประกอบกับรุ่นเมื่อครั้งต้นปีมีการปรับราคาลงมาก รวมไปถึงโปรโมชั่นที่อัพเดทวันต่อวันอย่างน่าสนใจ และในส่วนของ แกดเจด, อุปกรณ์เสริม และสิทธิพิเศษอื่นๆ สำหรับผู้เข้าชมภายในงาน ก็ยังคงเป็นกลุ่มสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยมเช่นเคย
สำหรับพฤติกรรมการเลือกซื้อของผู้เข้าชมงานในครั้งนี้มีความหลากหลายขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทั้งการที่ผู้บริโภคเริ่มมองว่าสมาร์ทโฟนที่มีขนาดตัวเครื่องและหน้าจอใหญ่นั้นไม่ใช่คำตอบแรกของการเลือกสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่เสมอไป แต่ผู้บริโภคจะเลือกไซส์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากนี้ผู้เข้าชมส่วนใหญ่ยังพิจารณาในส่วนของสิทธิประโยชน์ที่ได้หลังจากซื้อเครื่องมากขึ้น ซึ่งต่างจากเดิมที่จะพิจารณาสเปคเครื่องที่ต้องการ โปรโมชั่นลดราคาค่าเครื่อง และของแถมที่ได้จากแบรนด์เพิ่มเติม
ส่วน นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 9 ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ของแอปเปิล ในไทย กล่าวถึงกรณีการเข้ามาเปิดแฟล็กชิปสโตร์ จนทำให้ราคาหุ้นคอมเซเว่นร่วงลงมา ว่า การเข้ามาเปิดแฟล็กชิปสโตร์ของแอปเปิล เป็นข่าวมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องดีสำหรับประเทศไทย แสดงว่าแอปเปิลให้ความสนใจประเทศไทย ส่วนจะกระทบตัวแทนจำหน่ายหรือไม่นั้นมองว่าการลงทุนแฟล็กชิปสโตร์ใช้เม็ดเงินลงทุนสูง 400-500 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าต้นทุนการบริหารจัดการไม่สามารถแข่งขันกับตัวแทนจำหน่ายได้ การเข้ามาเปิดแฟล็กชิปสโตร์ เป็นเรื่องของการสร้างแบรนด์มากกว่าการขายแข่งกับตัวแทนจำหน่าย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,266 วันที่ 1- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560