ปฐม กาญจนพิมลกุล : เถ้าแก่ คือ นักแก้ปัญหา

02 มิ.ย. 2560 | 06:00 น.
จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวง ผู้ประกอบการต่างคาดหวังธุรกิจอสังหาฯ ปี 2560 จะกลับมาเติบโต ตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่น่าจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่บิ๊กอสังหาฯ ก็มีการประเมินว่า จากมูลค่ารวมธุรกิจอสังหาในปีที่แล้ว 6.5 แสนล้าน จะเติบโตได้ 5% คือประมาณ 6.7 แสนล้านบาทโดยส่วนใหญ่คือการเติบโตในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตัวเลขนี้ ไม่ได้สร้างความหวาดวิตกสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่อย่าง "ปฐม กาญจนพิมลกุล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์ สเตทคอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารหนุ่ม เจ้าของโครงการ ไพรม์ บิซ - โฮม เลียบคลองประปา แจ้งวัฒนะ

นักลงทุนรุ่นใหม่คนนี้ เติบโตมากับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว และเขาเองก็เรียนมาโดยตรงทางด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่นิวยอร์ค และยังได้ศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จากประเทศอังกฤษ ทำให้มีการประเมินและวิเคราะห์สภาพตลาดอย่างถี่ถ้วน และเชื่อว่าการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ตรงเป้า จะยังสามารถสร้างความสำเร็จในการทำธุรกิจได้

"ปฐม" เล่าว่า คุณพ่อของของเขาเกษียณแล้ว แต่ยังมีที่ดินอยู่ เขาเห็นศักยภาพของที่ดี แทนที่จะปล่อยที่ไว้โล่งๆ ก็เอามาพัฒนาดีกว่า ใส่สิ่งก่อสร้างลงไป เพิ่มมูลค่าให้กับมัน ประกอบกับความคิดในการเริ่มทำธุรกิจที่ว่า ไม่ว่าจะเริ่มในช่วงอายุเท่าไร ก็เท่ากับเริ่มจากศูนย์ แต่สำหรับเขาขณะนี้ เขายังมีคุณพ่อที่แข็งแรง มีประสบการณ์ สามารถช่วยซัพพอร์ตตัวเขาได้เป็นอย่างดี แล้วเขาจะรออะไร

"ก็ช่างใจอยู่ การเริ่มธุรกิจไม่ว่าจะเริ่มที่อายุเท่าไร ก็เท่ากับเริ่มจากศูนย์ ไหนๆ เราจะเริ่มแล้ว ก็เริ่มให้มันเร็วเลยดีกว่า เหมือนวลีหนึ่ง ของคุณ ดวงฤทธิ์ บุญนาค สถาปนิกและนักออกแบบชาวไทย ผู้ก่อตั้ง บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด ของว่า...สร้างความเป็นไปได้ ในบริบทที่มีอยู่...บริบทของผม คือ ที่บ้านเคยทำมา ตัวเองก็เรียนมา คุณพ่อแม้จะเกษียณแล้ว แต่ก็ยังแข็งแรง เป็นที่ปรึกษาให้เราได้ ก็รีบทำซะตอนนี้เลยดีกว่า"

นั่นจึงเป็นที่มา ที่ทำให้ "ปฐม" คนหนุ่มวัย 25 ปี เริ่มลุยโครงการแรก "ไพรม์ บิซ - โฮม" ในรูปแบบของโฮมออฟฟิศ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากอุปนิสัยส่วนตัว ที่ชอบทำงานอยู่กับบ้าน ขณะที่ทำเลเลียบคลองประปา เป็นทำเลที่สะดวกใกล้ทางด่วน แวดล้อมด้วยสถานศึกษา โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ศูนย์ราชการ ใกล้อิมแพค อารีน่า ศักยภาพเหมาะที่จะทำโฮมออฟฟิศสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสะดวก

แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีต้นทุนในการทำธุริกจพอสมควร แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเริ่มกันแบบสุ่มสี่สุ่มห้า "ปฐม" ศึกษาข้อมูลและวิจัยตลาดมาพอสมควร ในทำเลที่ตั้งของโครงการ คู่แข่งที่ทำโฮมออฟฟิศมีไม่มาก กลุ่มตลาดโคเวิร์คกิ้งสเปซ และโฮมออฟฟิศ ก็เติบโตดี ในขณะที่คนรุ่นใหม่ ผู้ประกอบการหน้าใหม่มีมากขึ้น เพราะฉะนั้นโอกาสทางการตลาดจึงพร้อม และสิ่งที่เขาเน้นมาก ในฐานะผู้ประกอบการรายใหม่คือ คุณภาพ และโครงการที่เสร็จสมบูรณ์ ที่จะทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องคาดเดาหน้าตาโครงการจริงจะเป็นอย่างไร เพราะสามารถสัมผัสของจริงได้เลย หลังจากเปิดตัวได้ไม่นานา ทำให้มียอดจองเข้ามาแล้ว 5 ยูนิต จากทั้งหมด 20 ยูนิต และเขาคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ พร้อมกับการเล็งเปิดโครงการใหม่ต่อไป

[caption id="attachment_155308" align="aligncenter" width="503"] ปฐม กาญจนพิมลกุล ปฐม กาญจนพิมลกุล[/caption]

เป้าหมายการทำธุรกิจของคนหนุ่มคนนี้ ไม่ได้หวือหวาตามสไลต์คนรุ่นใหม่ ด้วยความที่เป็นคนละเอียด มีกรอบการทำงานที่รอบครอบ และให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ ซึ่งจะถือเป็นจุดแข็งของโครงการภายใต้การทำของเขา ทุกอย่างจึงเดินหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่รีบร้อน โครงการในเครือของเขา จะเน้นการตอบโจทย์คนรุ่นใหม่เป็นสำคัญ
ความยากของการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้ชายคนนี้ เขาบอกว่า มันคือ เรื่องของที่ดิน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งถ้าหมดแล้วหมดเลย จุดยุทธศาสตร์สำคัญๆ ก็หมดไปเรื่อยๆ ในขณะที่ราคาก็ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งตรงนี้ "ปฐม" มองว่ามันคือ ความท้าทาย...มันเป็นการทดสอบฝีมือในการบริหารจัดการของเรา 1.ในการคุมต้นทุนกับค่าใช้จ่าย ทั้งการก่อสร้างและการจัดซื้อ 2.การทำความเข้าใจตลาด เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีที่สุด ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง อสังหาฯ เป็นอะไรที่ต้องอิงกับสิ่งแวดล้อม แล้วแต่ว่าจะได้ที่ดินตรงไหน ทุกอย่างต้องอิงกับ Locality ต้องดูว่าที่ตรงนั้นมีอะไรที่ต้องตอบโจทย์บ้าง

แน่นอน การทำงานทุกอย่างต้องมีปัญหา "ปฐม" บอกว่า พ่อของเขาเคยพูดไว้ว่า เถ้าแก่ คือ นักแก้ปัญหา และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ตั้งแต่เข้ามาทำงาน เขาบอกว่าเจอปัญหาเยอะมาก ถึงขั้นต้องเปลี่ยนผู้รับเหมามาแล้วก็มี แต่เมื่อเจอปัญหา เขาพยายามจัดระบบความคิด จัดลำดับความสำคัญแล้วก็ค่อยๆ แก้ไปทีละอย่าง...บางทีเราก็ไม่รู้ตัว ด้วยวิญญาณเจ้าของกิจการ พอปัญหาไหนที่ยังแก้ไม่ได้ มันก็จะฝังอยู่ในหัวเรานี่แหละ แต่พอไปทำโน้นทำนี่สมองปลอดโปร่ง ก็จะแก้ปัญหานั้นได้

เมื่อถามว่า เขาใช้อะไรเป็นเกณฑ์วัดความสำเร็จ "ปฐม" ตอบสั้นๆ ว่า คือ ความสุข แน่นอนว่า รายได้และกำไร คือส่วนหนึ่งของคำตอบนี้ แต่กว่าจะไปถึงเป้าหมายตรงนั้น คงไม่มีใครที่นั่งมองตัวเลขเพียงอย่างเดียวได้ เขาเปรียบเทียบได้น่าฟังว่า การทำธุรกิจก็เหมือนคนเล่นบาสเก็ตบอล คะแนนเทียบได้กับรายได้ และกำไร แต่การที่ผู้เล่นจะจ้องอยู่ที่กระดานคะแนนอย่างเดียว โดยไม่สนใจกับเกม คงเป็นไปไม่ได้ ผู้เล่นต้องสนใจกับเกม กับบอลที่ตัวเองเลี้ยงอยู่ แล้วนานๆ ทีก็เหลือบดูคะแนน ซึ่งนั่นคือผลที่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเล่นเกม หรือการบริหารธุรกิจนั่นเอง

จากโครงการแรก นักธุรกิจใหม่คนนี้ ถือว่าสอบผ่าน ความฝันต่อไปของเขา คือ การสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง และฝันสูงสุด คือ การก้าวขึ้นเป็นบิ๊กอสังหาของประเทศ แต่ในวันนี้ ทุกอย่างยังค่อยเป็นค่อยไป เดินทีละก้าว เน้นคุณภาพ เพราะการตลาดมันไม่เหมือนเดิม ทุกอย่างมันไปเร็ว เดี๋ยวนี้ลูกค้าต้องการหาอะไรก็สามารถ Search หาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น ความเชื่อมั่น คือ สิ่งสำคัญ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,266 วันที่ 1- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560