‘บุราส่าหรี’ ต่อจิกซอร์ ขยายรร.ในไทย-อินโดไชน่ารับเออีซี

03 มิ.ย. 2560 | 10:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

หลังจากสร้างแบรนด์“บุราส่าหรี” จนติดตลาดบูติก โฮเต็ล อันมีเอกลักษณ์ขึ้นชื่อแล้ว ในขณะนี้บุราส่าหรี ก็ยังมองโอกาสที่เปิดเกมรุกในการขยายธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในไทยและในประเทศแถบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี อ่านได้จากสัมภาษณ์ นางสาวลิลลี่ อุดมคุณธรรม กรรมการผู้จัดการบุราส่าหรี กรุ๊ป

++รุกบัดเจด โฮเทลในลาว
คุณลิลลี่ เปิดใจถึงจุดเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์ “บุราส่าหรี” ว่า การสร้างชื่อของบุราส่าหรี เราเริ่มปักธงสร้างแฟล็กชิพที่จังหวัดภูเก็ต เป็นที่แรก เมื่อหลายสิบปีก่อน ในนาม “บุราส่าหรี บูทีค โฮเทล ภูเก็ต” ซึ่งแม้เราจะขายโรงแรมออกไปแล้ว แต่ก็ยังได้รับความไว้วางใจให้เรารับบริหารโรงแรมให้ต่อจนถึงทุกวันนี้ และอีกโรงแรมในไทย ที่มีเอกลักษณ์ที่เราสร้างขึ้นและลงทุน คือ “เซี้ยงไฮ้ แมนชั่น เยาวราช” ซึ่งโรงแรมนี้ทำไม่ง่ายเลย แรกเริ่มด้วยดีไซน์เรามองว่าจะเจาะนักท่องเที่ยวจีน แต่ท้ายสุดเราก็ประสบความสำเร็จจากลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นยุโรป

249504 รวมไปถึงที่ผ่านมาเราได้เข้าไปลงทุนโรงแรม ที่ประเทศลาว ในเมืองหลวงพระบาง เริ่มจาก “บุราส่าหรี เฮอริเทจ หลวงพระบาง”เป็นบูติก โฮเทล จากนั้นก็เริ่มมองการลงทุนโรงแรมราคาประหยัดแบบบูติก ที่มีคอนเซ็ปต์ โดยเริ่มต้นที่ “โรงแรมช้างอินน์ หลวงพระบาง” การตกแต่งก็มีคาแร็กเตอร์ผูกกับกาแฟ มีร้านกาแฟอยู่ด้านล่าง ไม่ใช่ร้านกาแฟที่มีแบรนด์ แต่ซึ่งเป็นร้านในแบบท้องถิ่นใจใส่ในการทำกาแฟ และโรงแรมมีบริการเบื้องต้นที่ลูกค้าต้องการ มีความสะอาด และมีความปลอดภัย ตอบโจทย์นักเดินทางในกลุ่มกำลังซื้อนี้ ซึ่งเราขายห้องพักในราคาคืนละ 50 ดอลล่าร์สหรัฐ ก็ถือว่าไปได้ดี ทำให้ปัจจุบันโรงแรมในเครือบุราส่าหรี กรุ๊ป จึงประกอบไปด้วยโรงแรมที่ทางเราเป็นคนลงทุน และการรับบริหาร ก็เป็นสิ่งที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น (ตารางประกอบ)

[caption id="attachment_155287" align="aligncenter" width="503"] ‘บุราส่าหรี’ ต่อจิกซอร์ ขยายรร.ในไทย-อินโดไชน่ารับเออีซี ‘บุราส่าหรี’ ต่อจิกซอร์ ขยายรร.ในไทย-อินโดไชน่ารับเออีซี[/caption]

++รับบริหารรร.อีก 3 แห่ง
จากประสบการณ์ที่มี ทำให้ในขณะนี้ เราสามารถต่อยอดการรับบริหารโรงแรมใหม่ทั้งในไทยและลาว ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในขณะนี้ โดยไม่เพียงการบริหารโรงแรมซันเซตวิลล่า หลวงพระบาง ล่าสุดเรายังได้ขยายการรับบริหารโรงแรมไปยังเมืองเวียงจันทน์ คือ โฮเทล เดอ ลา เซย์ เวียงจันทน์ บูติกโฮเทลเก๋ๆ ขนาด 37 ห้อง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้

ส่วนในไทยเราเพิ่งได้รับบริหารโรงแรมของเจ้าของธุรกิจดอกบัวคู่ 2 แห่ง คือ โรงแรมทวิน โลตัส เกาะลันตา จ.กระบี่ ซึ่งเราวางจุดขายให้เป็นโรงแรมสำหรับคู่รัก และคนที่ชอบความเงียบสงบ ซึ่งก็จะไม่รับบริการเด็ก และปัจจุบันเกาะลันตา ก็มีนักท่องเที่ยวสแกนดิเนเวีย และยุโรป เข้าไปเที่ยวมากขึ้น ส่วนอีกแห่ง คือ โรงแรมออเรนจ์ นครศรีธรรมราช เป็นบัดเจด โฮเทล ซึ่งด้วยความที่เรามีประสบการณ์การทำโรงแรมต้นทุนต่ำ ช้างอินน์ หลวงพระบาง อยู่แล้ว ก็ทำให้เรารู้ว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งโรงแรมออเรนจ์ นครศรีธรรมราช จะเป็น บูติก บัดเจด โฮเทล ขนาด 130 ห้อง ทำให้เรามีคาแร็กเตอร์ ที่จะไม่เหมือนแบรนด์ไอบิส หรือฮ็อปอินน์ ที่เจาะตลาดบัดเจดในไทยอยู่

อีกทั้งเรายังมองที่จะรับบริหารโรงแรมในประเทศอื่นๆในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ที่ดูไว้ก็มีกัมพูชา เมียนมา ซึ่งเราจะดูจากการตลาดกับเรื่องของเซลล์เป็นหลัก ซึ่งตอนนี้จากการเปิดเออีซี ก็ทำให้การขายโรงแรมในไทย ก็จะขายเชื่อมโยงกับโรงแรมในอินโดไชน่าได้ โดยปัจจุบันมีโอกาสในการสร้างได้ตลาดได้มากขึ้น จากการเปิดเที่ยวบินเชื่อมโยงระหว่างไทยและอินโดไชน่า ที่เพิ่มขึ้น ดูหลักๆอย่างหลวงพระบาง ตอนนี้มีหลายสายการบินเปิดทำการบินมากมาย จากการเริ่มเปิดน่านฟ้าเสรี สมัยก่อนมีแค่ บางกอกแอร์เวย์ กับการบินลาว ตอนนี้มีทั้งไทยสมายล์ ไทยแอร์เอเชีย จากสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ เข้าไปหลวงพระบางมากขึ้น ดังนั้นเมื่อมีช่องทางเข้าประเทศได้เพิ่มขึ้น ก็ทำให้โรงแรมมีโอกาสในการขายได้มากขึ้น

249505 ++ทุ่ม1.3 พันล.ผุดรร.ภูเก็ต
ไม่เพียงการรับบริหารโรงแรมเท่านั้น ล่าสุดเรายังอยู่ระหว่างการเตรียมก่อสร้างโรงแรมขึ้น ที่ จ.ภูเก็ต บริเวณเกาะมะพร้าว ข้ามเรือจากบริเวณแหลมหิน ออกไปราว 15 นาที ซึ่งเป็นที่ดินจำนวน 140 ไร่ที่เรามีอยู่นานแล้ว แต่ที่ตัดสินใจสร้างโรงแรมในขณะนี้ เนื่องจากเกาะนี้จะไม่ไฟฟ้าใช้แล้ว โดยเฟสแรก จะพัฒนาในพื้นที่ 64 ไร่ โดยเราจะสร้างโรงแรมขนาด 214 หลัง มีทั้งในส่วนของห้องพักบนอาคาร และห้องพักแบบวิลล่าต่างๆรวมถึงวิลล่าแบบพูลแอสเสจ ใช้งบลงทุนราว 1,300 ล้านบาท

การลงทุนสร้างโรงแรมที่ภูเก็ต เรามองโอกาสที่จะเติบโตไปพร้อมๆกับการท่องเที่ยว เพราะไม่ว่าไทยจะมีวิกฤตอะไร ภูเก็ตไม่เคยได้รับผลกระทบ หรือถ้ากระทบก็กลับมาเร็ว โรงแรมที่จะสร้างขึ้น เรามองการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวครอบครัว นักท่องเที่ยวยุโรป รวมถึงตลาดต่างชาติระยะใกล้ และนักท่องเที่ยวจีน อินเดีย ที่มีการขยายตัวในการเดินทางมาเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2562 วางจุดขายความเป็นบูติก โฮเทล ระดับไลฟ์สไตล์
นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจสปาบุราส่าหรี เราก็มีการขยายธุรกิจในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะมีการเปิดให้บริการสปาในโรงแรมเครือบุราส่าหรีแล้วเรายังมีการขยายไปทำสปาแบรนด์นี้ ในโรงแรมอื่นๆ อย่างล่าสุดมาเปิดที่โรงแรมอโนมา กรุงเทพฯดังนั้นในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่เรามีแผนขยายธุรกิจค่อนข้างมากคุณลิลลี่ปิดท้ายบทสนทนา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,266 วันที่ 1- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560