แม่ตุ๊กบุกตลาดส้มตำอบกรอบ สุดแซ่บโดนใจผู้บริโภคผลิตไม่ทันขาย-ขึ้นห้าง-เตรียมบุกตปท.

02 มิ.ย. 2560 | 04:00 น.
“เอ็ม.ที.เกษตรแปรรูป”ผุดไอเดียส้มตำไทยอบกรอบแบรนด์แม่ตุ๊กบุกตลาด ฟุ้งวางตลาดต้นปีกระแสตอบรับถล่มทลายจนผลิตไม่ทัน เล็งลงทุนเครื่องจักรเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมเข้าห้างขยายตลาดสู่ต่างประเทศดันรายได้สู่ 10 ล้านปี 60 แย้มเตรียมออกรสชาติใหม่เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค

นางสมคิด อินทรบุตร ที่ปรึกษา บริษัท เอ็ม.ที.เกษตรแปรรูป จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทกำลังดำเนินการลงทุนเครื่องจักร เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตส้มตำไทยอบกรอบปรุงสำเร็จพร้อมรับประทานแบรนด์ "แม่ตุ๊ก" หลังจากที่ได้เริ่มทำตลาดมาในช่วงต้นปี และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคจนไม่สามารถผลิตได้ทันตามคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมากโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งล่าสุดอยู่ในขั้นตอนของการติดตั้ง และวางระบบเรื่องของเทคโนโลยี

สำหรับการทำตลาดล่าสุดได้นำผลิตภัณฑ์เข้าไปวางจำหน่ายที่สยามพารากอนและเอ็มควอเทีย (Emquartier) และช่องทางบนอินเตอร์เนตทั้งเฟสบุ๊ก (Maetuk Brand) ไลน์ (@Maetuk.mt) และเว็บไซด์ (www.maetuk.com) และล่าสุดบริษัทมีแผนขยายธุรกิจไปสู่ต่างประเทศ โดยมองตลาดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศในแถบทวีปยุโรปบางประเทศ และจีน ซึ่งมีความชื่นชอบอาหารประเภทส้มตำ และต้องการผลิตภัณฑ์ที่สามารถรับประทานได้อย่างสะดวก

[caption id="attachment_155220" align="aligncenter" width="503"] สมคิด อินทรบุตร ที่ปรึกษา บริษัท เอ็ม.ที.เกษตรแปรรูป จำกัด สมคิด อินทรบุตร ที่ปรึกษา บริษัท เอ็ม.ที.เกษตรแปรรูป จำกัด[/caption]

ทั้งนี้แผนในการเพิ่มกำลังการผลิต และการขยายตลาดของบริษัทดังกล่าวนั้น เชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้มากกว่า 10 ล้านบาทในปีนี้ และจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามกำลังการผลิตของเครื่องจักรที่บริษัทจะต้องดำเนินการปรับให้ลงตัวโดยจุดเด่นที่สำคัญของส้มตำไทยอบกรอบแบรนด์ แม่ตุ๊กนั้น อยู่ที่การนำเทคโนโลยีการดึงน้ำออกด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย (Freeze dry)มาใช้ จนได้ส้มตำไทยอบกรอบอย่างในปัจจุบันที่รับประทานได้อย่างง่ายดายในทุกที่ โดยเป็นส้มตำที่ไม่แตกต่างจากการตำสดใหม่ออกจากครก ซึ่งมีรสชาติให้ผู้บริโภคได้เลือกตามระดับความเผ็ด 3 ระดับ ได้แก่ เผ็ดน้อย เผ็ดปานกลาง และเผ็ดมาก

"ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ส้มตำอบกรอบได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคจนกลายเป็นกระแสการส่งต่อ และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากในโลกโซเชี่ยลจนทำให้บริษัทไม่สามารถผลิตสินค้าออกมาได้ทันตามความต้องการของผู้บริโภค โดยตลาดที่บริษัทมุ่งเน้นจะเป็นตลาดเพื่อการส่งออก เนื่องจากมองว่าอาหารประเภทส้มตำสามารถหารับประทานได้ง่ายในประเทศไทย แต่ตลาดต่างประเทศจะมีความต้องการเป็นอย่างมากกับอาหารประเภทดังกล่าวนี้ แต่ก็มีผู้บริโภคในประเทศจำนวนมากที่ชื่นชอบด้วย และพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อมาบริโภค แม้ว่าจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงก็ตาม"

นางสมคิด กล่าวต่อไปว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตนั้น บริษัทมีแนวคิดที่จะเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ไปสู่ส้มตำประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็นส้มตำปูปลาร้า ,ส้มตำซีฟู๊ด และส้มตำเจ แต่จะต้องรอให้บริษัทขยายการลงทุนในส่วนของเครื่องจักร และมีการปรับระบบให้ลงตัวก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการผิดพลาด และต้องเสียโอกาสทางธุรกิจไป ที่สำคัญยังต้องการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้เกิดความสม่ำเสมอ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

"ปัจจัยที่ทำให้ส้มตำอบกรอบแบรนด์ "แม่ตุ๊ก" ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว มาจากความง่าย และความสะดวกในการรับประทาน แค่เพียงเติมน้ำสะอาดในอุณหภูมิห้องประมาณ 100 ซีซี หรือประมาณครึ่งแก้วลงไปหลังจากฉีกซอง รอประมาณ 1-2 นาที คลุกเคล้าให้เข้ากันก็สามารถรับประทานได้ทันทีโดยมีรสชาติที่ไม่แตกต่างจากส้มตำที่ตำสดจากครก"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,266 วันที่ 1- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560