‘พัฒน์กล’เบอร์1โลก เพิ่มธุรกิจหนุนกำไรติดจรวด เป้าหมายทุกผลิตภัณฑ์ไต่แชมป์

29 พ.ค. 2560 | 12:00 น.
“พัฒน์กล” ตั้งเป้าผู้นำเบอร์ 1 ของโลก ทุกผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรธุรกิจอาหารและการแปรรูป เผยราคาหุ้นขึ้นด้วยผลประกอบการล้วนฯ จากหลายปัจจัย

นายแสงชัย โชติช่วงชัชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พัฒน์กล ( PK ) เปิดเผย “ ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทมีเป้าหมายการเป็นเบอร์ 1 ของโลก ในทุกผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 8 ชนิดของบริษัทในปัจจุบันและจะเพิ่มอีก 3 ผลิตภัณฑ์ โดยดูจากยอดขายเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เนื่องจากธุรกิจของบริษัทเติบโตจากไม่มีคู่แข่ง ได้ระบบภาษีที่เอื้ออำนวยต่อการแข่งขัน และอนาคตการเติบโตของผลิตภัณฑ์ทำความเย็นในธุรกิจอาหารและการแปรรูปในตลาดอาเซียน ยังมีสูงมาก

ทั้งนี้พัฒน์กล เป็นที่ 1 เครื่องทำน้ำแข็งหลอดของประเทศไทย เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา และ 10 ปีก่อน เป็นเบอร์ 1 ของโลก และเบอร์ 1 ในเอเชียเครื่องทำความเย็น แต่ที่ผ่านมาบริษัทประสบปัญหาการแก้ไขปัญหาหนี้ จากความเสียหายการลงทุนธุรกิจเอธานอล ซึ่งช่วงที่กำลังนิยมธุรกิจพลังงานทดแทน พัฒน์กล ได้เปิดแผนกใหม่รับงานวิศวกรรมก่อสร้าง รับงานแรก ก่อสร้างสำเร็จ และรับงานที่ 2 มูลค่าหลายพันล้านบาท โชคไม่เข้าข้างมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบของเอธานอล ราคาปรับตัวขึ้นสูง สวนทางราคาน้ำมันขาลง ลูกค้าชะลอการก่อสร้าง ทำให้ PK เสียหายหลายพันล้านบาท กินส่วนของทุนบริษัท ทั้งที่ธุรกิจหลักเครื่องทำความเย็นไม่ได้ประสบปัญหาแต่อย่างไร ในที่สุดเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ 3 ปี ปัจจุบันส่วนของทุนกลับมาเป็นบวก และผลประกอบการมีกำไรเติบโต

ตามแผนฟื้นฟู หนี้ทั้งหมด 1,500 ล้านบาท มีการแปลงหนี้เป็นทุนแล้ว เหลือหนี้ 400 ล้านบาท ปี 2562 พัฒน์กล กำหนดชำระหนี้100 ล้านบาท ซึ่งกำไรสะสมที่มี 500-600 ล้านบาท สามารถชำระหนี้ได้ตามแผน เพียงรอดูสถานการณ์จะใช้วิธีจ่ายหรือยืดหนี้ออกไป

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ยอดขายบริษัทปรับเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการสร้างคนการลงทุนงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขึ้นมา การลงทุนขยายพื้นที่การค้าและขยายกำลังคน โดยมีวิศวกรมากถึง 300 คน ซึ่งปัจจุบันค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ลดลง เป็นช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ตามมา เห็นได้จาก ผลประกอบการไตรมาสแรก / 2560 มีรายได้เพิ่มขึ้น จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ขณะนี้ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า

“การลงทุนใหม่ ๆ ที่เกินตัว หรือไม่แน่ใจ เราจะไม่ทำ ก่อนลงทุนต้องศึกษาอย่างรอบคอบ ขนาดของธุรกิจต้องไม่เกิน 500 ล้านบาทหรือ ลงทุนแล้วถ้าไม่ประสบความสำเร็จ ต้องไม่เสียหาย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นแล้ว”นายแสงชัยกล่าว

สำหรับเป้าหมายของ PK ที่ต้องการเป็นที่ 1 ของโลกทุกผลิตภัณฑ์ที่เป็นห่วงโซ่อาหารนั้น จะเน้นอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตเครื่องจักร ทำความเย็น และเครื่องจักรที่ใช้แปรรูปและการผลิตอาหารประเภทต่างๆ เช่น เครื่องทำน้ำแข็งหลอด ห้องเย็น สร้างเครื่องจักรและโรงงานสำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เห็นของเหลว เช่นอาหาร เครื่องดื่มและสีทาบ้าน ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม เป็นการสนับสนุนธุรกิจอาหาร การแปรรูปอาหาร ในการจัดการรักษาเชิงป้องกัน เพื่อไม่ให้งานของลูกค้าสะดุด ผลิตภัณฑ์ลูกค้าเสียหาย

รายได้หลักส่วนใหญ่ 75 % ของรายได้มาจากการผลิตขายในประเทศ และส่งออก 25 % มีแผนเพิ่มตลาดส่งออกเป็น 35 % ภายใน 3 ปีข้างหน้า ที่ยอดรายได้รวม 5 พันล้านบาท จากปัจจุบันมีรายได้ทั้งหมด 4 พันล้านบาท ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต 3 ปี จะมาจากการเพิ่มสินค้าใหม่ 3 ผลิตภัณฑ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำตลาด การสร้างกลุ่มลูกค้า โดยผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ต้องมียอดขาย 500– 1,000 ล้านบาท รวมถึงโรงงานใหม่จะสร้างเสร็จกลางปีหน้า

“ ผลิตภัณฑ์ของพัฒน์ ถ้าไม่ใช่ เบอร์ 1 ในประเทศในอาเซียน หรือเบอร์ 1 ของโลก นับถอยหลังแล้ว จะแข่งลำบาก จากการเชื่อมต่อของโลก ข่าวสาร การรวมธุรกิจ เราต้องแข่งกับผู้ผลิตอุตสาหกรรมของทั้งโลก จึงต้องวางกลยุทธ์พัฒนาให้เป็น 1 ใน 3 ของโลกให้ได้ ซึ่งเราเรียนรู้วิธีไปถึงที่ 1 แล้ว เรามีเป้าหมายทีจะให้ทุกผลิตภัณฑ์ที่มีขณะนี้ 8 ชนิด และอีก 3 ผลิตภัณฑ์ในช่วง3ปีนี้ ต้องเป็นที่ 1 ของโลกให้ได้” นายแสงชัย กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวถึงราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงและมูลค่าซื้อขายหนาแน่น ไม่มีสาเหตุอื่น นอกจากผลประกอบการ ซึ่งนักลงทุนเห็นว่าบริษัทมีหนี้เหลือไม่มากหลังปรับโครงสร้างหนี้แล้ว จำนวนเงินสดเพิ่มขึ้นจากผลประกอบการที่ดีขึ้น ไม่มีปัญหาภาระหนี้ ค่าใช้จ่ายลงทุนเพื่อพัฒนาและวิจัย ไม่มี เป็นช่วงการเก็บเกี่ยวรายได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,265 วันที่ 28 - 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560