ทางออกนอกตำรา : ทลายห้างคิงเพาเวอร์ อาณาจักรดิวตี้ฟรีแสนล้าน

26 พ.ค. 2560 | 10:47 น.
ทางออกนอกตำรา 
โดย : บากบั่น บุญเลิศ

ทลายห้างคิงเพาเวอร์ อาณาจักรดิวตี้ฟรีแสนล้าน

กลายเป็นประเด็นร้อนที่คาใจสังคมอย่างมากเมื่อ “คณะกรรมาธิการวิสามัญด้านการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริต” ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป (สปท.) ที่มี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีปเเละนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานอนุกรรมาธิการ (อนุกมธ.) เป็นหัวหอก ได้จัดทำรายงานส่งถึงรัฐบาล เพื่อชำระสะสางสัญญาสัมปทานร้านค้าปลอดอากรของบริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ใน 5 ประเด็น ประกอบด้วย

1. ให้ปลดนายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) และคณะกรรมการ ทอท. ฐานไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและก่อให้เกิดความเสียหาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐ

2. ให้ยกเลิกสัญญากับกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ฯ เพราะไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535

3. บูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลทั้งของ ทอท. กรมศุลกากร และกรมสรรพากร เพื่อให้ ทอท. ได้รับส่วนแบ่งรายได้อย่างครบถ้วน กรมสรรพากรจะได้มีข้อมูลที่จะเรียกเก็บภาษีอากรอย่างถูกต้องและเป็นธรรม กรมศุลกากรจะได้ใช้ข้อมูลเพื่อควบคุมป้องกันการลักลอบขายสินค้าหนีภาษี

4. พิจารณาศึกษา พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ พ.ศ. 2535, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 103/7 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ป้องกันการทุจริตและเอื้อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เอกชน

5. กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการจัดเก็บรายได้ให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส เป็นธรรม เปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนรับทราบ

ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ ได้รับการสนองตอบจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อหาแนวทางในการดำเนินการกับ"คิงเพาเวอร์"ไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ดูเหมือนยังไม่จบ...

การไม่จบ...กลายเป็นคมหอกปลายดาบที่ถาโถมเข้าใส่อาณาจักร"คิงเพาเวอร์"มูลค่านับแสนล้านของ"เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา-กนกศักดิ์ ปิ่นแสง คนใกล้ชิดเนวิน ชิดชอบ-จุลจิตต์ บุณยเกตุ" อย่างหนักหน่วง

ปัญหาว่าด้วยเรื่องสัญญาสัมปทานบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ และร้านค้าปลอดภาษี(ดิวตี้ฟรี) ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของคิงเพาเวอร์ ที่กำลังจะหมดสัญญาลงในช่วงประมาณเดือน ก.ย. 2563 ซึ่ง ทอท.เตรียมจะเปิดประมูลโครงการพื้นที่สัญญาบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปี 2560-ต้นปี 2561 กำลังลากคิงเพาเวอร์ลงมาในสนามแข่งที่ดุเดือดกว่าเดิม

ประเด็นว่าด้วยเรื่องมูลค่าโครงการว่าจะมีมูลค่าเงินลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท ที่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติ การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556  กำลังตามรังควาญเจ้าหน้าที่ของรัฐและคิงเพาเวอร์อย่างหนักหน่วง

ปัญหาพื้นที่ให้บริการส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Pick Up Counter) ในสนามบินที่ บริษัท ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี บริษัท บางกอกแอร์เวย์ ขอใช้พื้นที่ อาจทำให้การผูกขาดเพียงเจ้าเดียวกลายเป็นมีผู้มาเบียดแย่ง

ปัญหาว่าด้วยเรื่อง การไม่ติดตั้ง Point of sale ( POS )และเชื่อมต่อข้อมูลการซื้อขายระหว่าง ทอท.กับ บริษัทคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี และบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ ซึ่งกำหนดไว้เป็นสาระสำคัญในสัญญา เพื่อเป็นการคิดส่วนแบ่งที่ ทอท.จะได้รับตามสัญญาอีก 15% แต่ปรากฏว่าตลอดเวลากว่า 9-10 ปี นับแต่เริ่มสัญญาการเชื่อมต่อกลับมิได้ดำเนินการ อาจทำให้มีการคิดค่าปรับและเอาผิดกับบริษัทและเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาภายหลัง

ประเด็นว่าด้วยเรื่องของการไม่เรียกเก็บเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทน หรือส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาจากบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ในส่วนที่เป็นการประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาออกในเมือง ซอยรางน้ำ ถนนกิ่งแก้ว และพัทยา ของบริษัทคิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งได้เช่าพื้นที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อทำเป็นจุดส่งมอบสินค้าอยู่ในพื้นที่ตามสัญญาบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ของบริษัทคิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ ให้ถูกต้องครบถ้วน กำลังดึงเอาอาณาจักรที่ผูกขาดและผลประโยชน์มีการซุกไว้ใต้พรมมายาวนานโดยใครไม่สามารถเเตะต้องได้ จะต้อมีการชำระสะสาง

ผมไปติดตามตรวจสอบจากสัญญาพบว่า เฉพาะ2ประเด็นหลังนั้น พบว่า อาจมีคนผิดกันระนาวกราวรูด ทั้งในระนาบคณะกรรมการ ทอท. ทั้งในระดับผู้บริหารระดับสูงของทอท.และกรมศุลกากร อาจมีคนเสียวสันหลังวาบกันกลุ่มใหญ่

เฉพาะตามสัญญากำหนดให้บริษัทคิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ ชำระค่าเช่า และผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ ทอท.ในอัตราร้อยละ 15 ของยอดรายได้ หรือตามจำนวนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ผู้รับอนุญาตตกลงชำระตามสัญญาแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า

แต่ปรากฏว่า นับตั้งแต่บริษัทคิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เช่าใช้พื้นที่ของ ทอท.เพื่อทำเป็นจุดส่งมอบสินค้า แต่คณะผู้บริหารและกรรมการของ ทอท.กลับไม่มีการบังคับเรียกเก็บเงินผลประโยชน์ตอบแทนตามสัญญาอย่างถูกต้องครบถ้วน และภายหลังมีการทำสัญญาเพื่อเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ โดยจัดเก็บผลประโยชน์ตอบแทน ในอัตราเพียงร้อยละ 3 เท่านั้น

ผลที่ตามมาทำให้ ทอท.ต้องขาดรายได้เป็นเงินทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท

การทลายห้างอาณาจักรดิวตี้ฟรีแสนล้านของ “เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา-กนกศักดิ์ ปิ่นแสง”กำลังเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ปลายทางอยู่เพียงแค่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี คนเดียวเท่านั้น ว่าจะเอาอย่างไรในธุรกิจที่ผูกขาดที่รัฐได้ไม่กี่พันล้านแต่เอกชนเติบโตเอาเป็นแสนล้าน และกำลังคืบคลานซื้อกิจการทั้งสโมสรฟุตบอล-สายการบินไทยแอร์เอเชีย และกำลังชะม้ายชายตาไปที่สายการบินนกแอร์ อีกสเต็ปหนึ่ง...

คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา/ หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ/ ฉบับ 3265 ระหว่างวันที่ 28-31 พ.ค.2560