‘นีโอสุกี้’รีแบรนด์สู้ศึกชาบู ตั้งเป้ารายได้1,000ล้านใน5ปีกรุยทางเข้าตลาดหุ้น

30 พ.ค. 2560 | 02:00 น.
เจน 2 “นีโอกรุ๊ป” ยกเครื่องธุรกิจรับเทรนด์ตลาดสุกี้ชาบูแรงทุ่ม 80 ล้านบาทใน 3 ปี พร้อมแตกไลน์แบรนด์ใหม่ “ซุนวูบาร์บีคิว” เสริมทัพมิถุนายนนี้ วางเป้า 5ปีฟันรายได้ 1,000 ล้านบาท กรุยทางสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายณัฐพล กัปปิยจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีโอสุกี้ ไทยเรสเทอรองส์ จำกัด ผู้บริหารร้าน "นีโอสุกี้" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เพื่อรองรับการแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารเมืองไทย โดยเฉพาะตลาดร้านสุกี้ชาบูที่มีผู้ประกอบการทั้งรายใหม่และเก่าเข้ามาแข่งขันเป็นจำนวนมาก บริษัทได้รีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่ในรอบ 18 ปี เพื่อปรับภาพลักษณ์และตราสินค้าใหม่ เพื่อสร้างการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งกลุ่มครอบครัว เพื่อน และคนทำงาน ที่มีระดับรายได้ A- และ B อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสดใหม่ให้แก่แบรนด์ โดยจะเริ่มใช้รูปแบบใหม่ที่ที่สาขา INT พระราม3 เป็นสาขาแรก และจะทยอยรีโนเวตให้ครบทั้ง 19 แห่งภายในสิ้นปีนี้ พร้อมกับขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่งภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังเตรียมงบลงทุนในช่วง 3 ปี (ปี 2560 – 2562) ไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาทด้วย

"การเปลี่ยนธีมใหม่คือการออกแบบโลโก้รูปแบบใหม่จะเน้นไปที่แบรนด์อินไซซ์เน้นเส้นสายที่ดู Home Made มีความสากลมากขึ้นยึดหลักศาสตร์ของสีและมีการคุมโทนสีที่ดีให้ลูกค้าจดจำให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังทำลายเซ็นของแบรนด์ให้มีความชัดเจนมากขึ้นเพื่อให้เข้าถึงอินไซซ์ของลูกค้าของแบรนด์นีโอ สุกี้ ผ่านจุดแข็งของแบรนด์ที่มีคุณภาพ ความแตกต่าง หลากหลายและความเอาใจใส่ในเรื่องคุณภาพวัตถุดิบในขณะที่ราคาไม่สูงมากรวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการบริการที่ดี"

ด้านแผนการทำตลาดของนีโอสุกี้ในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการเปิดตัวเมนูอาหารใหม่ๆในทุกไตรมาส หรือเทศกาลอาหารใหม่ๆ หลังจากที่ผ่านมาได้มีการทดลองทำตลาดไปบ้างแล้วไม่ว่าจะเป็น เทศกาลชาบู , เทศกาลหมักซอสไหหลำ หรือ เทศกาลซุปบักกุ๊ดเต๋ สูตรสิงคโปร์ และประสบผลสำเร็จเป็นอย่างสูง จนมีบางเมนูอย่างซุปบักกุ๊ดเต๋ ได้ถูกบรรจุเป็นเมนูถาวรภายในร้าน นอกจากแผนงานในประเทศไทยแล้ว ปัจจุบันนีโอสุกี้ยังมีแฟรนไชส์ ในต่างประเทศ คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในชื่อ "ซุนวูบาร์บีคิว" เข้ามาเสริมทัพเพื่อรองรับการแข่งขันในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ โดยวางเป้าหมายขยายให้ครบ 3 แห่งภายในสิ้นปีด้วย

"ขณะนี้นีโอสุกี้ ร่วมทำโปรโมชั่นกับธนาคารและเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์ เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น อาทิเช่น โปรโมชั่นรับส่วนลดสูงสุด 30% ของธนาคารกรุงเทพ ตั้งแต่วันนี้จนถึงเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ยังมี ธนาคารกรุงศรี , ยูโอบี ,AIS ,True ฯลฯ โดยการทำ Co Promotion จะทำเป็นช่วงเวลาไม่ให้ชนกัน ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังนีโอสุกี้ จะมีเทศกาลอาหารหมัดเด็ดออกมาอีกแน่นอน ควบคู่กับการนำระบบฐานข้อมูลสมาชิก (CRM) ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบลงทะเบียนออนไลน์เพื่อลดเวลาในการกรอกข้อมูลบัตรสมาชิกของลูกค้าเวลาสมัครที่สาขา และการใช้สื่อช่วงครึ่งปีหลังจะเน้นสื่อออนไลน์มากขึ้น เพื่อสร้างการเข้าถึงไปยังกลุ่มเป้าหมาย"

สำหรับเป้าหมายยอดขายในสิ้นปีนี้วางไว้ที่ 330 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 12% โดย ไตรมาสแรกของปี 2560 บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้น 15% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรเพิ่มขึ้น 9% ทั้งนี้เป็นผลมาจากบริษัทมีการบริหารจัดการซัพพลายเชนที่ดีขึ้น ทำให้สามารถควบคุมระบบการจัดการผักทุกสาขา ทำให้ต้นทุนลดลง เพราะไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ทั้งนี้คาดว่าในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้รวมของเกินเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากมีโปรเจคของซุนวูบาร์บีคิวที่เพิ่มเข้ามาและจะเริ่มขยายในช่วงปลายไตรมาส 2 โดยตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีกลุ่มบริษัทนีโอกรุ๊ป ซึ่งประกอบไปด้วย นีโอสุกี้ไทย เรสเทอรองส์ , กังฟู ฟู้ดแอนด์ เบเวอเรจ และ นีโอสยาม โลจิสติกส์ จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

"การแข่งขันตลาดชาบูในปัจจุบันแข่งขันในรูปแบบบุฟเฟต์ที่เน้นแข่งขันด้วยราคาจะอยู่ในตลาดยาก และค่อยๆล้มหายตายจากไปส่วนร้านที่อยู่ต้องเน้นระดับไฮเอนด์ คุณภาพวัตถุดิบดีนีบริษัทจึงมีจุดยืนของจะไม่ทำแบบบุฟเฟต์เพราะรูปแบบบุฟเฟต์จะถูกควบคุมด้วยต้นทุน ทำให้ไม่สนุกที่จะคิดที่จะพัฒนาเมนูใหม่ๆ การขยายของนีโอสุกี้ จะไม่เน้นขายแฟรนไชส์จะเน้นการเติบโตอย่างมั่นคง คือต้องโตทั้งยอดขายและเติบโตทางด้านบุคลากรควบคู่ไป"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,265 วันที่ 28 - 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560