‘ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้’อสังหาฯเลือดใหม่ลั่นขอขึ้นชั้นท็อป 3

30 พ.ค. 2560 | 04:00 น.
จากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางนอกตลาดหลักทรัพย์ และนอกสายตาผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่วันนี้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)หรือ ORIภายใต้การนำของ นายพีระพงศ์ จรูญเอกประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจอสังหาฯ จากเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ถึงวันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ออริจิ้นได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตามอง ด้วยเพราะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

** 3-5 ปี ขึ้นท็อป 3 อสังหาฯ
ล่าสุดได้มีการซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด จำนวน 10 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 100% จากผู้ถือหุ้นเดิม ในขณะที่ พราวด์ เรสซิเด้นซ์ จะเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 81,197,171 ล้านหุ้น มูลค่า 1,000 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของทุนจดทะเบียน

นายพีระพงศ์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การเข้าซื้อหุ้นบริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัดในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการผลักดันบริษัทก้าวสู่การเป็นท็อป 3 อสังหาริมทรัพย์ ทั้งในด้านยอดขาย รายได้ และกำไร เนื่องด้วยโครงการที่บริษัทพราวด์ฯ พัฒนาคือ พาร์ค 24 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ที่ราคาขายห้องชุดขนาด 1 นอนอยู่ที่ 6-8 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีสินค้าในพอร์ตตั้งแต่ระดับ 1-10 ล้านบาท

การเข้าซื้อพราวด์ในครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทจะมียอดขายรอรับรู้รายได้ จำนวน 24,000ล้านบาท โดยอยู่ในส่วนของบริษัท 14,000 ล้านบาท และ "พราวด์ เรสซิเด้นซ์"10,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีแบรนด์คอนโดมิเนียมรวม 4 แบรนด์ ได้แก่ เคนซิงตัน นอตติ้ง ฮิลล์ ไนท์บริดจ์ และ พาร์ค เจาะตลาดผู้บริโภคใน 4 กลุ่มเป้าหมายโดยบริษัทตั้งเป้ากระจายพอร์ตการดำเนินธุรกิจในแต่ละกลุ่มอยู่ที่ 25% ภายในระยะเวลา 5 ปี

การดำเนินงานในลักษณะนี้ ทำให้บริษัทคาดการณ์ได้ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทจะมียอดขายกว่า 25,000 ล้านบาท รายได้กว่า 20,000 ล้านบาท และกำไรมากกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท โดยในปี 2559 บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 10,800 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2560 บริษัทมีรายได้กว่า 800 กำไรกว่า 170 ล้าน

**เล็งปั้น“พรีโม” เข้าตลาดฯ
นอกจากนี้ภายใน 2-3 ปี บริษัทยังมีแผนนำ บริษัท พรีโม พร็อพเพอร์ตี้ โซลูชั่น จำกัด ที่รับบริหารอสังหาริมทรัพย์ ดูแลหลังการขายแบบครบวงจรและนายหน้า ซึ่งเป็นบริษัทลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ธุรกิจบริการเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่เป้าหมาย เหตุที่นำเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะมองว่าธุรกิจนี้สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว ปัจจุบัน บริษัท พรีโม พร็อพเพอร์ตี้ โซลูชั่น จำกัด มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบเท่าตัว โดยในปี 2558 มีรายได้ที่ 20 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้ 40 ล้านบาท คาดว่าในปี 2560 จะมีรายได้ที่ 80 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อจะเข้าตลาดบริษัทพรีโม พร็อพเพอร์ตี้ โซลูชั่น จำกัด จะต้องมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 300-400 ล้านบาท และมีกำไรประมาณ 50 ล้านบาท

**เน้นต่าง ในความเหมือน
ภาพของการพัฒนาโครงการของบมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ คือ การพัฒนาคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับผู้ประกอบการแบรนด์อื่น แต่ นายพีระพงศ์ ยืนยันว่ามีความคล้ายแต่ไม่เหมือนกัน โดยบริษัทจะเน้นในทำเลแนวรถไฟฟ้ารอบนอก ราคาสินค้าไม่สูง มีกลุ่มลูกค้าชัดเจน เราเน้นผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ไม่ใช่การผลิตเพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าขึ้นมา เราขายคนที่สร้างเนื้อสร้างตัวแม้ว่าในตลาดจะมีเจ้าตลาดในสินค้ากลุ่มนี้ แต่ในส่วนของรูปแบบไม่เหมือนกัน

**เดินตาม “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โมเดล”
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด มูลค่าโครงการประมาณ 700 ล้านบาท ย่านศรีนครินทร์ จำนวน 150 หน่วย ระดับราคาเริ่มต้น 4-5 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ บรีททาเนีย ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดในพื้นที่ที่มีราคาขายมากกว่า 8 ล้านบาท ส่วนหนึ่งที่เราลงมาทำตลาดแนวราบด้วยเพราะต้องการให้มีสินค้าครบทุกประเภท และเพื่อกระจายความเสี่ยง แต่คงไม่มุ่งเน้น ความตั้งใจคืออยากให้บริษัทมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกับ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่มีสินค้าเกี่ยวเนื่องในธุรกิจอสังหาฯครบวงจรไม่ว่าจะเป็น พัฒนาที่อยู่อาศัย ธุรกิจค้าปลีก-ส่งวัสดุ ธุรกิจเช่า ฯลฯ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,265 วันที่ 28 - 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560