‘ดูแตร์เต’คุยรัสเซียซื้ออาวุธปราบกบฎ

28 พ.ค. 2560 | 02:00 น.
ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ระบุพร้อมจับมือด้านการทหารกับรัสเซียและจีน และแสดงความสนใจซื้ออาวุธขนาดเล็กและเฮลิคอปเตอร์จากรัสเซีย

นายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวระหว่างการเดินทางไปเยือนรัสเซีย แสดงความสนใจที่จะสั่งซื้ออาวุธจากรัสเซียเพื่อรับมือกับกลุ่มกบฎ หลังจากที่ผ่านมาฟิลิปปินส์สั่งซื้ออาวุธจากสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก

"เรากำลังต่อสู้กับกลุ่มกบฎเหมือนกับในรัสเซีย คุณไม่ต้องมีฮาร์ดแวร์ แต่จำเป็นต้องมีอาวุธที่ชาญฉลาดและแม่นยำ มีเพียงอาวุธและจรวดขนาดเล็กที่สามารถโจมตีได้อย่างแม่นยำจริงๆ" นายดูแตร์เตกล่าว และเสริมว่า สิ่งสำคัญในการต่อสู้กับกลุ่มกบฎคือเฮลิคอปเตอร์หรือเครื่องบินเจ็ต ซึ่งแม้ว่าจะถูกกว่าแต่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายจำนวนไม่มากในพื้นที่ขัดแย้ง

กลุ่มก่อการร้ายที่เชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) บุกเข้าโจมตีเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ในวันอังคาร (23 พ.ค.) สังหารหัวหน้าตำรวจในพื้นที่ กราดยิงตามท้องถนน และจุดไฟเผาอาคารบ้านเรือนประชาชน ส่งผลให้นายดูแตร์เตต้องประกาศกฎอัยการศึกบนเกาะมินดาเนาเป็นเวลา 60 วัน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาฟิลิปปินส์สั่งซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ แต่นายดูแตร์เตกล่าวว่า สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยอีกต่อไป โดยเมื่อปีก่อนทางการสหรัฐฯ ระงับการจำหน่ายปืนไรเฟิลจำนวน 27,000 กระบอกแก่ฟิลิปปินส์ โดยตั้งข้อกังขาเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติดภายในประเทศของนายดูแตร์เต

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ยังกล่าวด้วยว่า พร้อมจะจับมือเป็นพันธมิตรทางการทหารกับรัสเซียและจีน "ตอนที่ผมได้รับเลือกตั้ง ผมเคยพูดว่าจะมีช่วงเวลาที่ผมไม่อยากเห็นทหารต่างชาติ ไม่ใช่เพียงทหารอเมริกัน อยู่ในประเทศของผม" นายดูแตร์เตกล่าว อย่างไรก็ตาม ถ้าการรุกรานของกลุ่มไอเอสรุนแรงจนบีบให้สถานการณ์อยู่ในภาวะจำเป็น ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวว่า จะเปิดรับการเป็นพันธมิตรทางการทหารกับประเทศอื่นๆ ซึ่งมีเพียงรัสเซียและจีนเท่านั้นที่นายดูแตร์เตเชื่อว่าสามารถพึ่งพาได้

นายดูแตร์เตกล่าวว่า ไม่ต้องการให้ทหารสหรัฐฯ เข้ามาอยู่ในประเทศ เพราะไม่ต้องการให้สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงการปกครองของฟิลิปปินส์ โดยในช่วงที่ผ่านมาฟิลิปปินส์ได้หันไปร่วมมือทางการทหารกับรัสเซียเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ มีลดน้อยลงไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,265 วันที่ 28 - 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560