รายงานข่าวการเคลื่อนไหวค่าเงินดอลลาร์สหรัฐต่อบาท โดยธนาคารกรุงไทยระบุว่า ในคืนที่ผ่านมาค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินเอเชีย ประเด็นหลักคือตลาดที่ค่อนข้างผิดหวังกับเนื้อหารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยังไม่มีความชัดเจนในการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ส่งผลให้ทั้งดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐไม่สามารถปรับตัวขึ้นกลับมาได้ และมีเงินลงทุนไหลเข้าฝั่งเอเชียทั้งในตลาดญี่ปุ่น และตลาดเกิดใหม่อย่างเห็นได้ชัด
สำหรับฝั่งเงินบาทได้รับแรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้า บวกกับแนวโน้มที่ธปท.เริ่มมีเหตุผลมากขึ้นและยอมรับว่าเงินบาทที่แข็งค่าสอดคล้องกับภูมิภาค ส่งผลให้นักลงทุนกลับมาเปรียบเทียบการแข็งค่าของเงินบาทกับสกุลเงินภูมิภาค และกลับเข้าลงทุนในหุ้นและบอนด์ไทยอีกครั้ง
สำหรับในช่วงที่เหลือของปีเรายังคงมุมมองว่าค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อได้เล็กน้อย จากภาพรวมการค้าระหว่างประเทศที่ฟื้นตัว และเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดีขึ้นขณะที่ปัจจัยที่ควรระวัง คือแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนมิถุนายน ถ้าเฟดสามารถ “ขึ้นดอกเบี้ย” ได้ 0.25% ตามที่ตลาดคาด ก็มีโอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์จะหยุดอ่อนค่าและปรับตัวขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ในครั้งนี้ อาจเห็นค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวลงรุนแรงและเงินบาทจะแข็งค่าทะลุระดับ 34.00 บาท/ดอลลาร์ลง
สำหรับช่วงปลายปี มองระดับค่าเงินบาทปัจจุบันถือว่าไม่ได้แข็งค่ามากเมื่อเทียบกับสกุลเงินภูมิภาค ทั้งนี้แนวโน้มหลักยังเป็นค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าราว 4% เมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน อัตราแลกเปลี่ยนระดับปัจจุบัน (บาทแข็งค่า 4.7%) ถือว่าค่อนข้างเหมาะสม และเชื่อว่าเงินบาทจะไม่อ่อนค่ากลับเกินระดับ 35บาทได้ในปีนี้
อน่ึ่งการเคลื่อนไหวค่าเงินดอลลาร์บาท เปิดเช้าวันที่ 26พฤษภาคม 2560ที่ระดับ 34.18 บาท อ่อนค่าจากระดับ 34.22 บาทในช่วงปิดสิ้นวันก่อนหน้า สะท้อนระดับอ่อนค่าที่สุดของปีนี้ และอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ กลางเดือน กรกฎาคมปี 2558