บล.เคทีบีมองหุ้นแกว่งแคบ แนะทำกำไรหากดัชนีไม่ผ่าน 1,571 จุด

26 พ.ค. 2560 | 02:46 น.
KTBST ประเมินหุ้นไทยอาจแกว่งตัวกรอบแคบจากแรงซื้อเริ่มจำกัด แนะขายกำไรช่วงสั้นหากดัชนีไม่ผ่าน 1,571 จุด

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ (26พ.ค.) ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดินหน้าต่อจากรายงานประชุม FOMC ที่ส่งสัญญาณบวกทางเศรษฐกิจและโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.มีสูงขึ้น กลบปัจจัยการเมืองของสหรัฐฯ ที่นักลงทุนกำลังติดตามว่าจะเป็นอย่างไร

ส่วนตลาดหุ้นยุโรปมีสลับบวกสลับลบ ขณะที่ผลการประชุมระหว่าง OPEC และผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นมีมติที่จะให้ใช้มาตรการลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปอีก 9 เดือน หรือจนถึง มี.ค.61 แม้จะเป็นไปตามที่ตลาดคาดหรือตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่ราคาน้ำมันดิบกลับตกลงต่ำกว่า 50 เหรียญสกรัฐอีกครั้ง น่าจะมาจากการขายกำไรหลังทราบผลลัพธ์และจากนักลงทุนที่ซื้อสัญญาน้ำมัน เพื่อเก็งว่า อาจมีการปรับลดในเวลาที่มากกว่านี้ มองว่าผลต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมี จากจะไม่เป็นลบมากขึ้น เพราะราคาหุ้นส่วนใหญ่แทบไม่ได้ตอบสนองต่อเรื่องเหล่านี้

KTBST ประเมินปัจจัยต่างประเทศต่อตลาดหุ้นไทยว่ายังเป็นบวกจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐกับยุโรปที่ดีขึ้น และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง คาดจะมีผลแค่ชั่วคราว หรือไม่มากนัก ด้านราคาสินทรัพย์ทางการเงินพบว่าตอบสนองต่อการสูงขึ้นของดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และนักลงทุนลดการถือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

ทั้งนี้ ปัจจัยในประเทศแทบไม่มีอะไรใหม่ๆเข้ามาในตลาดหลังรายงานผลประกอบการผ่านไปแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ น่าจะรอดูทิศทางเศรษฐกิจของไทยเอง และไม่มั่นใจต่อแรงซื้อของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศ ว่าจะไปในทิศทางใด ดังนั้นทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ แม้ตลาดจะมีปัจจัยต่างประเทศที่ให้น้ำหนักไปในทางบวก แต่ขาดแรงหนุนที่ชัดเจนของปัจจัยในประเทศ กอรปกับเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ ที่นักลงทุนน่าจะเริ่มชะลอการลงทุนก่อนเข้าวันหยุด จึงคาดว่า ดัชนีฯน่าจะแกว่งเพียงกรอบแคบๆ และบวกหรือลบจากวันก่อนเพียงเล็กน้อย

"ด้วยแรงซื้อที่เริ่มจำกัดมากขึ้น มีแรงขายหุ้นใหญ่ และสลับไปเล่นหุ้นที่เสี่ยงน้อย หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เป็นสัญญาณเตือนว่าการ rebound ของตลาดอาจกำลังสิ้นสุดลง วันนี้ หากดัชนีฯยังไม่สามารถผ่านระดับ 1,571 ขึ้นไปได้ อาจเลือกที่จะ “ขายทำกำไรช่วงสั้น” หรือสลับไปลงทุนหุ้นที่มีความ defensive หรือหุ้นที่ราคาขึ้นมาน้อยแทนที่ สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น CPALL ,KCE , BLA , RJH , TNR , FN”นายมงคล กล่าว