"กอบกาญจน์" ชู 4 ความร่วมมือส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-ลาว เร่งเครื่องอาเซียน คอนเนค

25 พ.ค. 2560 | 11:59 น.
รมว.ท่องเที่ยว เร่งเครื่อง ASEAN Connect  ส่งเสริมท่องเที่ยวเชื่อมโยงข้ามแดนไทย-สปป.ลาว หวังเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวลาวมาไทยให้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีอยู่ที่ 1.4 ล้านคน หนุนผลักดันด่านบ้านฮวก จังหวัดพะเยา ให้เป็นด่านถาวร เชื่อมโยงภูชี้ฟ้า-ภูชี้ดาว แก่งผาไต จังหวัดเชียงราย ขายพ่วงจุดเด่นของลาว รับแผนTwo Counties One Destination

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยง ASEAN Connect เพื่อสร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอาเซียนว่าได้มอบนโยบายว่างาน 2 Countries 1 Destination Workshop จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยซึ่งมีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเข้าร่วมกว่า 30 ราย จากสถิติกรมการท่องเที่ยว พบว่านักท่องเที่ยวจาก สปป.ลาวมาประเทศไทยปีที่แล้ว 1.4 ล้านคน จัดเป็นอันดับที่ 5 ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศ  ส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยงข้ามแดน ไทย-ลาว ผลักดันด่านบ้านฮวก จังหวัดพะเยา ให้เป็นด่านถาวร เพื่อเชื่อมโยงกับภูชี้ฟ้า-ภูชี้ดาว และแก่งผาได จังหวัดเชียงราย ท่องเที่ยวแม่น้ำโขง พื้นทีเชื่อมโยง ไทย - สปป.ลาว ที่จะผลักดันให้เกิดการร่วมกัน คือ

1. บริเวณภูชี้ฟ้าและภูชี้ดาว ทางฝั่งไทยขึ้นกับอำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ทางฝั่งลาวขึ้นกับเมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว

2. บริเวณช่องทางบ้านฮวก - กิ่วหก ทางฝั่งไทยขึ้นกับอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ทางฝั่ง สปป.ลาวขึ้นกับเมืองคอบ แขวงไซยะบุรี

3. บริเวณแก่งผาได อ.เวียงแก่น เชียงราย ทั้งสองฝ่ายเห็นว่ามีศักยภาพสามารถสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน ศึกษาและจัดทำแผนแม่บทเพื่อให้ได้แผนที่มีความสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

4. ให้นำจุดเด่นของทั้งสองประเทศมาใช้เชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างกัน แบบ Two Counties One Destination โดยดำเนินการแบบครบวงจร ทั้งการเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรม ที่พัก ร้านอาหาร การเดินทางและให้มีการผ่านแดนที่สะดวกอย่างในประชาคมยุโรป

นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า การร่วมมือกันพัฒนาการท่องเที่ยวซึ่งส่งผลให้เกิดประโยชน์ในการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว ในหลายด้าน อาทิเช่น จำนวนนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวประเทศที่สามจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น การค้าการลงทุนเพิ่มสูงขึ้นการขนส่งและการท่องเที่ยวตลอดแนวลุ่มน้ำโขง คุณภาพชีวิตของประชาชนตามแนวชายแดน มีคุณภาพที่ดีขึ้น ประชาชนของ สปป.ลาว มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดทัศนคติที่ดีของประชาชนตามแนวชายแดนต่อการท่องเที่ยวข้ามแดน เกิดการพัฒนาการขนส่งสาธารณะเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ลดอุปสรรคความซับซ้อนทางการค้า การลงทุนและกฎระเบียบทางการค้าชายแดนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว และเพิ่มการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์อันดี ทั้งนี้ยังเป็นการดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกด้วย และเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับทุกประเทศในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว

จากรายงานของกรมการท่องเที่ยวพบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม ตั้งแต่ 1 ม.ค.2560 ถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวสะสม จำนวน 13,469,202 คน ก่อให้เกิดรายได้ 690,379.88 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2.54 และ 4.20 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามลำดับ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่มีจำนวนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลี และญี่ปุ่น รายได้จากนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และเกาหลี