keypoint
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ในการประชุมวันที่ 24 พฤษภาคม 2017
กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวมขยายตัวดีขึ้นชัดเจน เนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีในหลายหมวดสินค้า ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ด้านการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ตามรายได้เกษตรกรและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซีย และการขยายตัวของการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคเอกชนยังคงฟื้นตัวในระดับต่ำ และเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญความเสี่ยงทั้งจากในและนอกประเทศ คือ ความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ขณะที่ กนง. ไม่ได้กล่าวถึงประเทศเสถียรภาพการเงินจีน และภาวะทางการเมืองและปัญหาการเงินในยุโรปแล้ว
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงตามราคาอาหารสด ซึ่งเป็นผลจากผลผลิตผักผลไม้ที่เพิ่มขึ้นและปัจจัยฐานสูงในปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวตามแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่อยู่ในระดับต่ำ
ในช่วงที่ผ่านมา เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ ที่อาจทำให้นโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าช้า ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชีย
Implication
อีไอซีคาด กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% ตลอดปี 2017
การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับธนาคารกลางของประเทศในแถบเอเชีย อาทิ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเกาหลีใต้ แม้ว่าธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจหลักอย่างสหรัฐฯ และยุโรปดำเนินนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
เศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวดีขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะการส่งออกและการบริโภคภาคเอกชน ทำให้ความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจลดน้อยลง ขณะเดียวกันแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่มีน้อย เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเงินบาทที่ยังทรงตัวในระดับแข็งค่า ทำให้การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจมากกว่า อีไอซีจึงมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะคงอยู่ที่ 1.5% ตลอดปี 2017
ผู้เขียน: พีรพรรณ สุวรรณรัตน์
Economic Intelligence Center (EIC)
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
EIC Online: www.scbeic.com