นายกฯซัด‘เลว’บึ้มร.พ. ‘ถาวร’เตือนรัฐระวัง ป่วนช่วงตัดสินคดีข้าว

24 พ.ค. 2560 | 05:00 น.
นายกฯ ซัดมือบึ้ม “ร.พ.พระมงกุฎฯ” เลว ใจร้ายละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง ให้อภัยไม่ได้ สั่งคุมเข้มสถานที่ราชการ “ถาวร” ชี้หยามหน้าคสช. เตือนระวังช่วงตัดสินคดีจำนำข้าว

เหตุระเบิดห้องวงษ์สุวรรณซึ่งเป็นห้องรับรองพิเศษนายทหารสัญญาบัตร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ช่วงสายของวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 25 คน เป็นประเด็นร้อนที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาประณามคนลงมือก่อเหตุว่าเป็นคนเลว

“บนโลกใบนี้ไม่มีใครคิดหรอกว่าจะมีคนก่อเหตุแบบนี้ในพื้นที่โรงพยาบาล ผมถือว่าคนที่ทำละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เป็นการกระทำที่ให้อภัยไม่ได้ ผมจึงต้องเร่งรัดให้ใช้ทุกวิถีทางในการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุ” นายกรัฐมนตรีระบุ และว่า ถ้าหวังผลทางการเมืองแล้วทำแบบนี้ คิดว่าคนเหล่านั้นคงโดนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษทั้งหมด แต่ประชาชนศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ขอให้สอดส่อง อย่าให้ใครมาทำอะไรในวันหน้า

ส่วนการที่เหตุเกิดที่ห้องวงษ์สุวรรณนั้น อย่าใช้คำว่าท้าทายหรือโจมตี รัฐบาลไม่ได้รบ แต่เป็นเรื่องคนก่อเหตุร้าย คนเลวไม่เลวจริงๆ ทำไม่ได้ คนเหล่านี้ใจร้ายพอจะฆ่าใครก็ได้ อย่างไรก็ตาม บางอย่างเร่งรัดมากไม่ได้จึงให้ไปทบทวนดูว่าพื้นที่สาธารณะคงไม่ใช่โรงพยาบาลอย่างเดียวและการเกิดเหตุทำนองนี้เคยมีมาแล้ว เมื่อปี 2553 ก็เกิดแบบนี้ จึงต้องดูว่ามันเกี่ยวโยงกันหรือเปล่า ทำไมคนที่ทำจึงคิดแบบนี้ใจร้าย ไม่คำนึงถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์ และอย่าให้ไปบิดเบือนกันว่ารัฐบาลทำเอง คงไม่มีรัฐบาลบ้าที่ไหนทำแบบนั้น

ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นจะเชื่อมโยงกับการครบรอบ 3 ปีของคสช.และขออย่ามองว่าเป็นการท้าทายหรือลองของกัน

“คนเลวมันคิด ทำอะไรก็ได้ให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาลแต่เป็นประเด็นที่เกิดในวันที่ 22พฤษภาคม ต้องนำมาวิเคราะห์ด้วย ทำในโรงพยาบาลทหาร และทำร้ายประชาชน

++ชี้ระเบิดหยามหน้าคสช.
ด้านนายถาวร เสนเนียมอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ทรรศนะกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การวางระเบิดที่ร.พ.พระมงกุฎฯ ประการแรกผู้กระทำไม่น่าจะหวังผลต่อชีวิตบุคคลเป้าหมาย 2.ไม่ต้องการให้เกิดความโกลาหล และไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ 3.ต้องการดิสเครดิตรัฐบาล และ คสช. ซึ่งประเด็นนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด ที่สำคัญคือ มีการวางระเบิดติดต่อกันถึง 3 ครั้ง เป็นไปป์บอมบ์ทั้งหมด ตั้งแต่เดือนเมษายน มีระเบิดที่หน้ากองสลากเก่า หรือวันที่ 15พฤษภาคม ที่สนามหลวงและหน้าโรงละครแห่งชาติ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาล้วนเป็นลักษณะเดียวกัน จึงค่อนข้างแน่ใจ 100% และฟันธงได้เลยว่าเป็นการจัดการเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล

“สิ่งที่เป็นเครื่องบ่งชี้ ว่าเป็นการดิสเครดิต คสช.เพราะร.พ.พระมงกุฎฯ พื้นที่กว้างขวางมีที่วางระเบิดเยอะแยะ ทำไมเจาะจงไปวางที่ห้องวงษ์สุวรรณซึ่งบริเวณนั้นมีห้องติณสูลานนท์ห้องยงใจยุทธ หรือตึกอื่นๆ ก็มีเยอะแยะ นี่คือเหตุผลว่าเป็นการหยามหน้า คสช. ว่าผลงานที่โดดเด่นและเข้มแข็งที่สุด คืองานด้านการรักษาความปลอดภัยและงานด้านความมั่นคง แต่สุดท้ายพวกฉันจะทำอะไรเมื่อไรก็ไม่เห็นทำอะไรได้”

++ระวังช่วงตัดสินคดีจำนำข้าว
ส่วนเป็นฝีมือใครนั้น นายถาวร ชี้ว่า ปัญหาภาคใต้น่าจะตัดออกไป เพราะไม่ใช่พื้นที่เป้าหมาย ที่สำคัญผลที่จะเกิดขึ้นมีผลต่อทางการเมือง ไม่ใช่มีผลจากการแบ่งแยกดินแดน เพราะกลุ่มบีอาร์เอ็นต้องการแบ่งแยกดินแดน ร.พ.พระมงกุฎฯ จึงไม่ใช่ที่เขาต้องการ เพราะฉะนั้นจึงมองว่าเป็นเรื่องการเมืองโดยตรง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอดีตส.ส.สงขลาหลายสมัย ฟันธงว่า 1.เป็นฝีมือฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล 2.ทหารไม่ค่อยไว้วางใจตำรวจ ในการสืบสวนสอบสวนเพราะถ้าไว้วางใจตำรวจ งานนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจโดยแท้ ทำไมไม่ปล่อยให้ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน หลักฐานบางอย่างเป็นการสืบสวนสอบสวนในเชิงนิติวิทยาศาสตร์ทำไมทหารเอาไป และมั่นใจได้ว่าน่าจะจับคนร้ายหรือกระชากหน้ากากผู้สั่งการได้

นายถาวร ยังมองไปข้างหน้าว่า กระแสหลังจากนี้ในเชิงสัญลักษณ์น่าจะยังมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก และความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้คอยติดตามตอนที่การพิพากษาคดีรับจำนำข้าว หรือคดีจีทูจีข้าว รวมถึงคดีบางคดีที่กำลังจะถูกศาลพิพากษาในช่วงนั้นต้องระมัดระวังอีก

++กระชากมือระเบิดไม่ยาก
ขณะที่นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นฝีมือใครก็ตาม ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นสถานพยาบาล เป็นที่สถานที่คนเจ็บไข้ได้ป่วย คนทุกข์อยู่แล้ว ต้องไปรับบริการแล้วเกิดเหตุระเบิดขึ้น ไม่ว่าฝ่ายใดทำก็ตามถือว่าใช้ไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะไม่พอใจใคร ลองกำลังกันหรือไม่มันก็ไม่ควรจะทำในสิ่งที่จะเกิดผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ โดยเฉพาะร.พ.พระมงกุฎฯ ถ้าจะหาตัวคนทำไม่น่าจะยาก กล้องวงจรปิดทั้งหลายก็มี ที่บอกว่ามีคนเห็นไปวางในแจกัน ก็ต้องย้อนดูจากซีซีทีวีได้ ว่าใครเป็นคนเอาแจกันเข้าไป หรือมีใครไปป้วนเปี้ยนใกล้ๆแจกันก่อนมีระเบิด

“อยากจะลากตัวออกมาว่ามือระเบิดเป็นใคร คนมีอคติต่อกันก็โยนใส่คนนั้นทีคนนี้ทีแต่จริงๆงานนี้ผมว่าน่าจะพิสูจน์ได้ไม่ยาก” นายสามารถ กล่าวและว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในวันครบรอบ 3 ปี คสช.นั้น คนที่จะหาเรื่องกัน มันก็หาวันที่จะโยนให้คนอื่นเป็นแพะรับบาปได้ จึงยํ้าว่างานนี้ต้องลากตัวออกมาให้ได้ ซึ่งไม่น่ายาก หวังว่ากล้องวงจรปิดคงไม่เสียหมด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,264 วันที่ 25 - 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560