เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส เปิดหลังคา ท้าฟ้าปะทะลม

27 พ.ค. 2560 | 13:00 น.
อีกหนึ่งตัวถังของ “ซี-คลาส” W204 และเป็นรถเปิดประทุนที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เสริมทัพเข้ามาล่าสุด โดยเลือกรหัส “ซี300 คาบริโอเลต์ เอเอ็มจี ไดนามิค” (C300 Cabriolet AMG Dynamic) เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบในการทำตลาด

mp37-3264-4 สำหรับตัวรถพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับ “ซี-คลาส คูเป้” การออกแบบด้านหน้าและหลังจึงเห็นว่าทรงเดียวกัน ความยาว 4.69 เมตรสัดส่วนดูลงตัว ซึ่งผมยังมองภาพรวมของรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ยุคนี้ ที่ตั้งชื่อชัดเจนในแต่ละตัวถังตามโมเดลหลัก ทำให้การสื่อสารและตำแหน่งในการทำตลาดไม่ดูมั่วๆมึนๆเหมือนเมื่อก่อน

ความโดดเด่นของ “ซี-คลาส เปิดประทุน” คือพยายามเน้นการใช้วัสดุน้ำหนักเบาในการขึ้นรูปตัวถังทั้ง อลูมิเนียม และเสริมความแข็งแกร่งด้วยเหล็ก hight strenght และ ultra hight strenght ส่วนหลังคาผ้าใบนั้นน้ำหนักเบากว่าหลังคาแข็งอยู่แล้ว พร้อมขายความคลาสสิกไปในตัว

หลังคาซอฟท์ท็อปของซี300 คาบริโอเลต์ กางออกได้ด้วยระบบไฟฟ้าในเวลา 17 วินาที แต่การพับเก็บจะช้านานกว่าเป็น 20 วินาที สามารถทำงานได้ขณะรถวิ่งบนความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม.

เป้าหมายของการพัฒนาให้รถมีน้ำหนักเบา ออกแบบให้ลู่ลม ขณะที่ช่วงล่างเตี้ยกว่า “ซี-คลาส ซาลูน” 15 มม. ล้วนมีผลต่อเสถียรภาพการทรงตัว การควบคุม และอัตราบริโภคน้ำมัน

mp37-3264-5 ขณะเดียวกัน ซี300 คาบริโอเลต์ที่มีชื่อต่อท้ายว่า “เอเอ็มจี” ยังเซ็ทช่วงล่างออกแนวสปอร์ต ล้ออัลลอย 18 นิ้วประกบยางรันแฟลตของพิเรลลี การตอบสนองค่อนข้างแข็งครับ ยิ่งขับบนถนนไม่สมประกอบ สัมผัสจากพื้นถนนจะสะท้านเข้ามาสู่ตัวคนขับมากขึ้น แต่ข้อดีคือเมื่อขับความเร็วสูงยังควบคุมได้ถนัดแน่น กลายเป็นสปอร์ตคาร์ขับเคลื่อนล้อหลังที่ให้อารมณ์ดิบเกินคาด

ถ้าเทียบกับ “ซีรีส์ 4 คาบริโอเลต์” รุ่นไมเนอร์เชนจ์ (บีเอ็มดับเบิลยูเรียก LCI -Life Cycle Impulse) ที่ผมเพิ่งไปลองมาล่าสุด ต้องบอกว่าช่วงล่างหนึบแข็งพอกัน

ด้านเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 245 แรงม้า แรงพร้อมกระโจนตั้งแต่ออกตัว สนับสนุนโดยเกียร์ 9 สปีดส่งกำลังฉับไว ยิ่งปรับไปเป็นโหมดสปอร์ต บุคลิกจัดจ้านมากขึ้น ทั้งการตอบสนองของคันเร่ง และน้ำหนักพวงมาลัย

กรณีอยากขับสบายๆ ไม่รีบเร่ง ระบบเกียร์ชุดนี้ถือว่าส่งกำลังต่อเนื่องนุ่มนวล และพยายามรักษารอบเครื่องยนต์ให้ต่ำ ซึ่งมีผลต่ออัตราบริโภคน้ำมันพอสมควร

mp37-3264-6 ทั้งนี้จากการขับในสภาพเฉลี่ยในเมืองและนอกเมือง ใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม. ผมเห็นหน้าปัดแสดงตัวเลข 9 ลิตร ต่อ 100 กม. หรือ ประมาณ 11 กม./ลิตรครับ

อย่างไรก็ตามผมว่า ซี300 คาบริโอเลต์ ยังเป็นรถเปิดประทุนที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสมเหตุสมผลมากกว่าโรดสเตอร์ “เอสแอซี” (ราคา 3.99 ล้านบาท) คือได้เปรียบเรื่องจำนวนที่นั่ง ความกว้างขวางและความสามารถในการบรรทุกสัมภาระ

แม้พื้นที่ใต้ฝากระโปรงหลังของซี300 คาบริโอเลต์ จะโดนแบ่งให้ชุดหลังคาผ้าใบพับเก็บ แต่ก็เหลือพอให้วางกระเป๋าเดินทางขนาดกลางๆได้ เช่นเดียวกับเบาะนั่งแถวหลังหากไม่มีคนนั่งก็ยังเก็บของแขวนเสื้อได้บ้าง ซึ่งต่างจาก “เอสแอลซี” ที่แทบไม่มีอรรถประโยชน์อื่นๆนอกจากความเท่

mp37-3264-2 นอกจากนี้ หากเทียบกับคู่แข่งอย่าง “ซีรีส์4” ภายในของซี300 คาบริโอเลต์ ยังน่าจะเฉียบคมกว่า ผมไม่ได้หมายถึงไปสัมผัสอุปกรณ์อะไรแล้วจะบาดมือ แต่หมายถึงการออกแบบที่รถยนต์เจเนอเรชันใหม่ๆของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ตอนนี้แก้ทางทำการบ้านมาดี ดูหรูทันสมัย ต่างจากคู่แข่งเพื่อนร่วมชาติที่กำลังจะออกแนวน่าเบื่อ

ซี300 คาบริโอเลต์ เอเอ็มจี ไดนามิค มาพร้อมชุดแต่งหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง พร้อมดิฟฟิวเซอร์หลัง ปลายท่อคู่ดูดุดัน พร้อมล้ออัลลอยลายสปอร์ตจากเอเอ็มจี

ภายในพวงมาลัยสปอร์ตท้ายตัด มีปุ่มควบคุมและแพดเดิลชิฟท์ด้านหลัง รวมถึงออปชันที่จำเป็นอย่าง แขนช่วยดันเข็มขัดนิรภัยให้ขยับมาใกล้มือผู้ขับ-ผู้โดยสารด้านหน้า

mp37-3264-3 ขณะที่ความปลอดภัยจัดระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ที่จะส่งสัญญาณเตือนเมื่อระยะห่างระหว่างรถคันข้างหน้าน้อยเกินไป ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ ระบบไฟหน้าปรับอัตโนมัติตามสภาพถนน และกล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง

รวบรัดตัดความ...ค่าตัว 4.24 ล้านบาท แลกสมรรถนะโดดเด่นและความแตกต่างอย่างพอจะมีประโยชน์ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคนที่ซื้อรถเปิดประทุนจะชอบอารมณ์ของการเปิดรับคารับลมขับ “ชิลชิล” หรือนิยมรีดเร้นเข่นพลังพร้อมช่วงล่างโน้มเอี้ยงไปทางสปอร์ตดิบมากกว่ากัน แต่ถ้าชอบทั้งคู่ ซี300 คาบริโอเลต์ คันนี้ก็ตอบโจทย์

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,264 วันที่ 25 - 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560