บิ๊กเนมอสังหาฯ ชี้ปลายปี 60 ตลาดไม่เอื้อสร้างยอดขาย-ปั๊มรายได้ เร่งงัดกลยุทธ์ดันช่วงโลว์ซีซัน พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค รับเลื่อนเปิดโครงการไตรมาส 4 ทั้งหมดมาไตรมาส 3 พร้อมดึงโปรฯด้านการเงินช่วยแย้มปีนี้อาจปรับเป้า พฤกษา ยังมั่นใจโกยรายได้ตามเป้า เน้นร่นระยะเวลาก่อสร้าง
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในภาวะปกติตลาดอสังหาริมทรัพย์จะคึกคักอย่างมากในไตรมาส 4 แต่ด้วยในปีนี้จะมีพระราชพิธีสำคัญ ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดได้ ขณะที่ผู้บริโภคก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์
ดังนั้น บริษัทจึงปรับแผนการดำเนินงานใหม่ ด้วยการเลื่อนโครงการที่มีแผนเปิดขายในไตรมาส 4 ปี 2560 มาขายในไตรมาส 3 แทน สำหรับโครงการใหญ่ที่มีแผนเปิดขายในไตรมาส 4 คือ โครงการที่กรุงเทพกรีฑา จำนวน 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,100 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว เพอร์เฟค มาสเตอร์ พีช จำนวน 200 หน่วย มูลค่าโครงการ 3,800 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว เพอร์เฟค เพลส จำนวน 110 หน่วย มูลค่า 900 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม เดอะ เมทโทร จำนวน 150 หน่วย มูลค่า 400 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังมีการนำกลยุทธ์ด้านการเงินมาเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นกำลัง อาทิ ดอกเบี้ย 0% 1 ปีแรก และในปี 2-3 อัตราดอกเบี้ยต่ำ , ผ่อนล้านละ 3,000 บาทต่อเดือน , ฟรีค่าโอน เป็นต้น ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวถือเป็นเครืองมือทางการเงินที่ได้ผลดีที่สุดในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และยอดขายไม่ดีเช่นนี้ เนื่องจากเป็นการช่วยลดภาระให้กับผู้บริโภค ขณะที่ในช่วงดีผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับเรื่องของแถมมากกว่า
“การทำการตลาดในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งถือเป็นโลว์ซีซันของอสังหาฯ เพราะเป็นช่วงฤดูฝน ดังนั้นการทำการตลาดจึงจำเป็นต้องขยายช่วงเวลาการจัดกิจกรรม เช่น เดิมเคยจัดดีเดย์ 1 สัปดาห์ก็ขยับเป็น 2 สัปดาห์ และการที่บริษัททำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดได้น้อยลง ก็อาจส่งผลต่อยอดขายและยอดรับรู้รายได้ปี 2560 ไม่เป็นไปตามเป้า ทั้งนี้อาจต้องมีการประเมินสถานการร์อีกครั้งในช่วงกลางปี ว่าจะมีการปรับลดเป้ายอดขายและรับรู้รายได้หรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2560 บริษัทมียอดขายรอโอน (BACKLOG) อยู่ที่ 5,350 ล้านบาท ซึ่งจะโอนในช่วงที่เหลือของปีนี้ 5,150 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะไปโอนในปี 2561” นายวงศกรณ์ กล่าว
ด้าน นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจแวลูถือเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท คิดเป็นสัดส่วนที่ประมาณกว่า 80% ของเป้ารายได้รวม โดยในปีนี้กลุ่มมีเป้ารายได้อยู่ที่ 48,200 ล้านบาท จากเป้ารายได้รวมของบริษัท 50,200 ล้านบาท ดังนั้นในช่วงที่เหลือของปีโดยเฉพาะในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ปี 2560 บริษัทจึงต้องเร่งสร้างการรับรู้รายได้ เนื่องจากในไตรมาส 4 อาจไม่อยู่ในช่วงเวลาของการทำกิจกรรมการขาย ด้วยการร่นรอบการพัฒนาโครงการแนวราบอย่างทาวน์เฮ้าส์ให้สั้นลง จากปัจจุบัน 45 วัน เหลือน้อยกว่า 45 วัน โดยในปีนี้กลุ่มธุรกิจแวลูมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 66 โครงการคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 59,300 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1 เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 11 โครงการ โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 168 โครงการ มูลค่า 83,736 ล้านบาท และมียอดรอรับรู้รายได้ของกลุ่มธุรกิจแวลูอยู่ที่ 23,611 ล้านบาท
“ต้องยอมรับว่าในไตรมาส 4 ปี 2560 อสังหริมทรัพย์ไม่อาจจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดได้ ทำให้ช่วงเวลาในการขายและทำรายได้ลดลง เหลือเพียงแค่ในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 เท่านั้น และเชื่อผู้ประกอบการทุกบริษัทก็จะโหมทำการตลาดใน 2 ไตรมาสนี้เช่นกัน ทำให้คาดการณ์ได้ว่าตลาดจะมีการแข่งขันที่รุนแรง”นายปิยะ กล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,264 วันที่ 25 - 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560