1 วัน...ของชายที่ชื่อ "ประยุทธ์"

22 พ.ค. 2560 | 10:13 น.
หากนับเวลา 16.30 น.วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 -วันนี้ หลังประชุมร่วม 7 ฝ่าย เพื่อหาทางออกของประเทศครั้งที่ 2 ตามประกาศกอ.รส. ฉบับที่ 8/2557 ประโยคหนึ่งของผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นที่สังคมจดจำคือ "นับเเต่นาทีนี้ผมยึดอำนาจ"

จากวันนั้นถึงวันนี้ คือ1095วันหรือสามปีเต็มที่คนไทยมีนายกรัฐมนตรีคนที่29เเละหัวหน้าคสช.ชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประกาศโรดเเมปเเละเเผนปฏิรูปประเทศด้านต่างๆตามโครงสร้างเเม่น้ำ5สายของคสช.บนเวลาสามปีเต็มนั้น คนไทยบางส่วนให้คำตอบนี้จาก สวนดุสิตโพลที่เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง3 ปีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อะไรดีขึ้น? อะไรแย่ลง? (เพลทคะเเนนนิยมประยุทธ์จากสวนดุสิตโพลอันล่าสุด)

สังคมรับรู้หรือไม่ว่า นายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้าคสช. ใช้เวลา1วันในการทำงานบริหารบ้านเมืองเเละติดตามข่าวสารของสื่อมวลชนเเละมุมสะท้อนจากสังคมอย่างไรบ้าง

"Spring Social Report" ได้ข้อมูลจากคณะทำงานของพลเอกประยุทธ์เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของพลเอกประยุทธ์ ว่า ในเวลา 04.00 น. ฝ่ายเสนาธิการประจำตัวจะเตรียมเอกสารวาระงานประจำวันเพื่อเเจ้งภารกิจ เพราะพลเอกประยุทธ์ตื่นนอนราว 04.30-05.00น. โดยพลเอกประยุทธ์จะรับฟังภารกิจเเละสถานการณ์รายวัน จากนั้นจะอ่านข่าวหนังสือพิมพ์10ฉบับ และหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์3ฉบับ โดยอ่านทุกข่าวเเละทุกคอลัมน์ ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ให้ความสนใจหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ ที่มีภาพว่าไม่เป็นมิตรมากนักกับรัฐบาลและคสช.ก่อนฉบับอื่น ๆ รวมทั้งยังมอนิเตอร์ทีวีบางช่องด้วย

หากพลเอกประยุทธ์เห็นข่าว ข้อความหรือคอลัมน์ไหนที่สะดุดตาจะใช้ปากกาวงไว้ หรือบางครั้งจะพับหน้าหนังสือพิมพ์หน้านั้น โดยพลเอกประยุทธ์จะส่งข้อความทางไลน์หรือโทรศัพท์ให้ทีมโฆษกรัฐบาลและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงหรือตอบโต้ทันทีถ้าเห็นว่าเป็นข่าวสำคัญ ข้อมูลที่ผิดหรือบิดเบือน

คณะทำงานของพลเอกประยุทธ์กล่าวว่า เมื่อรับตำเเหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ให้สนใจหนังสือพิมพ์เป็นพิเศษ การประชุมคณะรัฐมนตรีในหลายครั้งนั้น พลเอกประยุทธ์เคยหยิบหนังสือพิมพ์มาให้ครม.ดู โดยเป็นลักษณะเป็นหนังสือพิมพ์ที่ถูกเปิดอ่านแล้ว

สังคมออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่พลเอกประยุทธ์ให้ความสำคัญในการติดตามความเป็นไปของสังคมไทยเเละโลก บ่อยครั้งจะได้ยินพลเอกประยุทธ์กล่าวถึงข้อมูลบนโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งในมุมบวกเเละมุมลบ

tu1

ส่วนวิธีการทำงานนั้น คณะทำงานของพลเอกประยุทธ์ให้ข้อมูลกับ "Spring Social Report" ว่า นายกรัฐมนตรีจะสั่งงานเเละติดตามงานเเบบละเอียด มีตารางงานว่า สั่งการรัฐมนตรีเเละข้าราชการคนใดไปบ้าง หากมีเรื่องเร่งด่วนหรือมีข่าวที่ด่วนที่ประชาชนควรรู้ทันที นายกรัฐมนตรีจะสั่งการทางไลน์เเละผู้ที่เกี่ยวข้องต้องตอบไลน์นายกรัฐมนตรีให้เร็วที่สุด โดยครั้งหนึ่งเวลาหลังเที่ยงคืนไปเเล้ว นายกรัฐมนตรียังสั่งการข้อราชการเเละฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องรีบตอบคำถามเเละขั้นตอนการทำงานต่อนายกรัฐมนตรีทันที

รัฐมนตรีคนหนึ่งในรัฐบาลชุดนี้ ยอมรับว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนเเบบนั้นจริงเเละวิธีที่พลเอกประยุทธ์ใช้นั้น เป็นการกระตุ้นครม.เเละข้าราชการที่เกี่ยวข้องให้ตื่นตัวในการทำงาน เพราะนายกรัฐมนตรีบอกเสมอว่าเวลาทำงานของครม.เเละคสช.มีน้อย ต้องเร่งเเก้ปัญหาเเละวางอนาคตบ้านเมือง

ส่วนอารมณ์หงุดหงิดบางครั้งที่พลเอกประยุทธ์เเสดงออกมาในยามที่ผู้สื่อข่าวสอบถามคำถาม ทั้ง ๆ ที่พลเอกประยุทธ์บอกเองว่าตัวเองเป็นคนตลกนั้น คณะทำงานของพลเอกประยุทธ์ให้ข้อมูล "Spring Social Report" ว่า พลเอกประยุทธ์เป็นคนจริงจังกับการทำงาน บางครั้งท่าทีที่เเสดงออกไปสังคมอาจจะมองได้เเบบนั้น เเต่ความจริงพลเอกประยุทธ์ไม่ติดใจ เมื่อได้พูดหรือสื่อความในสิ่งที่ต้องการออกไปเเล้ว จะไม่เก็บมาคิดเเบบผูกใจเจ็บเเละเดินหน้าทำงานต่อไป

ส่วนของกินนั้น พลเอกประยุทธ์เป็นคนที่ชอบรับประทานอะไรง่ายๆ คณะทำงานของพลเอกประยุทธ์ระบุว่า สมัยที่เป็นผบ.ทบ.นั้น ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ย่านนางเลิ้ง พลเอกประยุทธ์ ยังให้นายทหารคนสนิทไปซื้อมาให้รับประทานบ่อยครั้ง เเละในการรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชน ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์มักย้ำเสมอว่า เป็นคนรับประทานง่ายๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ ไก่ย่างเเละผลไม้

เเม้เเต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นก็เป็นอาหารโปรดที่พลเอกประยุทธ์มักจะรับประทาน เเม้เวลาไปราชการต่างประเทศ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จะเป็นหนึ่งในสัมภาระของคณะพลเอกประยุทธ์ทุกครั้ง

หลังจบภารกิจประจำวัน ภาพยนตร์เเอ็กชั่น,ซีรีส์,กีฬาและแม้แต่ละคร เป็นรายการที่นายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้าคสช. ติดตามเป็นประจำเเละมักกล่าวถึงละครที่นิยมในช่วงนั้นๆกับผู้สื่อข่าวเสมอในเชิงเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสังคมในช่วงนั้น โดยพลเอกประยุทธ์จะนำเเฟ้มงานไปอ่านเเละเซ็นในช่วงรับชมรายการที่สนใจ ก่อนเข้านอนเวลา 24.00น. - 01.00น.

ส่วนวันหยุดนั้น พลเอกประยุทธ์จะใช้เวลาในการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการปั่นจักรยานเเละออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนๆ เตรียมทหารรุ่น 12 วันจันทร์-ศุกร์หากภารกิจตามวาระงานประจำวันไม่มากนัก ช่วงเช้าพลเอกประยุทธ์จะวิ่งออกกำลังกายก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจ ตรงนี้อาจเป็นพฤติกรรมที่ติดตัวจากการรับราชการทหาร เเละอาจเป็นที่มาของการส่งเสริมให้ข้าราชการออกกำลังกายทุกบ่ายวันพุธ โดยพลเอกประยุทธ์เป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยตัวเอง

อีกมุมหนึ่งที่ใครหลายคนไม่รู้ว่า พลเอกประยุทธ์เป็นหนึ่งในเซียนพระเครื่องที่สะสมพระเครื่องเเละของขลังระดับเกจิคนหนึ่ง ความชอบในด้านนี้อาจมาจากความเป็นชายชาติทหารที่ยังคงอยู่ในตัวของพลเอกประยุทธ์อย่างไม่เสื่อมคลาย เพราะวัตถุมงคลตามความเชื่อของชายไทยเเละทหารนั้น ยังคงเป็นหนึ่งในของดีที่ต้องมีติดตัวไว้ตามความศรัทธาในวัตถุมงคลนั้นๆว่าจะช่วยส่ง เสริมเเละขจัดสิ่งไม่ดีในชีวิตออกไป

maxresdefault (1)

ครั้งหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์เคยเปิดเสื้อเพื่อเเสดงพระเครื่องเเละวัตถุมงคลที่ติดตัวไว้ต่อหน้าสื่อมวลชน โดยพล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า“พระของผมมีมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ตอนเป็นทหารก็ได้มาตลอด เช่น หลวงปู่ทวด แต่ไม่ได้นับว่าทั้งหมดกี่องค์ ผมไม่หนัก เพราะพระอยู่กับผม ในใจผมมีพระอยู่ ในใจมียิ่งกว่าพระประธานอีก”

บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ได้แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า มีทรัพย์สินที่ระบุว่าเป็น “พระเครื่อง” อยู่ 2 รายการ แบ่งเป็นสร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทอง 11 องค์ มูลค่า 2 แสนบาท และสร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ และร. 2 มูลค่า 1 แสนบาท

คณะทำงานของพลเอกประยุทธ์ให้ข้อมูลเรื่องนี้กับสปริง โซเชียล รีพอร์ทว่า พระเครื่องกว่าสิบองค์ที่พลเอกประยุทธ์บูชานั้นเป็นพระยอดนิยมของเมืองไทย เช่น พระเบญจภาคี,สมเด็จจิตรลดา,หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี เป็นต้น

ส่วนเครื่องรางที่พลเอกประยุทธ์เชื่อว่าจะเสริมบารมีนั้น พลเอกประยุทธ์มักสวม “แหวนทองนพเก้า”ไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย
โดยตัวเรือนเป็นทองคำ ประดับด้วยอัญมณีมงคล 9 อย่าง โดยมีความเชื่อว่า “นพเก้า” หรือ “นพรัตน์”นั้นมีอำนาจพิเศษที่จะนำสิริมงคลมาสู่ตัวผู้สวมใส่ ตามตำราโบราณระบุกันไว้ว่า “แหวนทองนพเก้า”นั้น บรรดาแม่ทัพ-นายกองจะสวมใส่ก่อนที่จะ “ออกรบ” เพื่อให้ได้ชัยชนะกลับมา

พลเอกประยุทธ์ยังมัแหวนอื่นๆอีก 3 วง คือ“แหวนพระ - แหวนนะโม - แหวนสมเด็จพระบรมราชินีนาถ” ส่วนที่ข้อมือนั้นพลเอกประยุทธจะสวมริสแบนด์สีเหลืองเป็นประจำและยังมี “กำไลเงินหางช้าง”

สำหรับพุทธคุณ-บารมีของบางชิ้นนั้นพบว่า “แหวนนะโม” หรือที่ปักษ์ใต้เรียกว่า “หัวนอโม” คือหัวแหวนเล็ก ๆ หล่อด้วยเงิน ทอง นากหรือนวโลหะเรียบร้อยแล้วจึงตอกตรานะโมลงไป ตรงกลางเป็นอักขระขอมตัวนะ อยู่ภายในบ่อวงกลมตื้นๆเชื่อว่าถ้ามีติดตัวติดบ้านแล้วจะป้องกันคุณไสย เสนียดจัญไรและสิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย

ส่วน “กำไลหางช้าง”นั้น ตำราโบราณระบุว่า เป็นเครื่องรางปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้าย ป้องกันคุณไสยต่างๆในยามที่ต้องเดินทางไกล

เเละครั้งหนึ่งพลเอกประยุทธ์เคยนำ “กำไลหินสีเทา” มาสวมที่ข้อมือด้านขวา โดยทราบว่าเป็นกำไลที่ลูกสาวของพลเอกประยุทธ์มอบให้ โดยเชื่อว่าหากสวมใส่กำไลหินนั้น “พลเอกประยุทธ์” จะได้ใจเย็นเหมือนหิน แต่ปรากฎว่าใส่ได้ไม่ทันข้ามวันก็ต้องถอดออก เนื่องจากทำให้ฉุนเฉียวกับสื่อมวลชนมากขึ้น

เเม้เเต่สถานที่ทำงานของสร.1คือทำเนียบรัฐบาลนั้น ยังมีการปรับปรุงสถานที่เป็นระยะตามความเชื่อของผู้นำรัฐบาลเเละทีมที่ปรึกษาในช่วงนั้นๆว่าสิ่งใดจะเสริมดวงเเละขจัดสิ่งไม่ดีออกไป ซึ่งการปรับปรุงสถานที่ทำงานของนายกรัฐมนตรีมีเกือบทุกรัฐบาลเเม้กระทั่งรัฐบาลชุดนี้ก็มีการนำกระถางปลูกบัวคือบัวหลวงเเละบัวศรีมาประดับที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะนายกรัฐมนตรีคนนี้ชอบดอกบัวเป็นพิเศษ

ต่างๆนานาเหล่านี้คือกิจวัตรในรอบ24ชั่วโมงของผู้ชายที่ชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

EyWwB5WU57MYnKOuXxv9Zl21q2DYemieWarRkiOjNklPKRbMWiy1Ec