สหภาพแรงงาน ขสมก. ออกโรง! ค้านใช้ระบบ "หยอดเหรียญ"

สหภาพแรงงาน ขสมก. เตรียมขอเข้าร่วมการพิจารณาระบบ E-Ticket ในการประชุมบอร์ด ขสมก. ปลายเดือนนี้ ยืนยัน ระบบหยอดเหรียญไม่สอดคล้องกับแผนฟื้นฟู

วันที่ 21 พ.ค. 60 -- นายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) กล่าวถึงโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) ว่า ในวันที่ 31 พ.ค. นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ขสมก. จะหารือถึงความเหมาะสมของโครงการนี้ ดังนั้น ทางกลุ่มสหภาพฯ จึงต้องการเข้าร่วมรับฟังและพิจารณาด้วย เนื่องจากเห็นว่า ตัวโครงการจะมีผลกระทบต่อการบริหารงานและรายได้ของ ขสมก. เพราะในช่วงก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้พิจารณาแล้วว่า หากโครงการ E-Ticket มีการใช้ระบบหยอดเหรียญและระบบสแกนบัตรควบคู่กัน จะไม่เกิดประโยชน์กับ ขสมก. โดยพนักงานส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยว่า มีความไม่เหมาะสม และหากต้องมีพนักงานคอยยืนแลกเหรียญหรือให้คำแนะนำ ก็จะถือว่า ต้องมีถึง 3 ระบบ ซึ่งไม่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับ ขสมก. ตามแนวทางแผนฟื้นฟูแต่อย่างใด

อีกทั้งปัญหาการจราจรที่มีอยู่ในปัจจุบันก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น หากประชาชนต้องยืนรอรับเงินทอนบนตัวรถ ที่สำคัญราคาตั๋วโดยสารในปัจจุบันอยู่ที่ 6.50 บาท มีการพิจารณาแล้วหรือไม่ว่า ตัวเครื่องจะมีระบบทอนเงินอย่างไร

ทั้งนี้ นายวีระพงษ์แนะนำว่า ควรทดลองระบบนี้กับรถเมล์ 1 คันก่อน และหากพบว่า จะมีปัญหาระยะยาว ควรตัดระบบให้เหลือแต่การสแกนบัตรเพียงอย่างเดียว และอีกส่วนหนึ่งก็ให้ใช้ระบบเดิม คือ การให้พนักงานเก็บค่าโดยสารและทอนเงิน รวมถึงให้คำแนะนำเรื่อง E-Ticket เมื่อประชาชนรับรู้และเข้าใจในระบบการสแกนบัตรและตั๋ว E-Ticket แล้ว ก็ค่อยนำระบบการเก็บเงินแบบเดิมออก ให้เหลือแต่ระบบสแกนบัตร

อย่างไรก็ตาม ทางสหภาพฯ อยากให้กลุ่มคณะกรรมการที่ผลักดันโครงการ E-Ticket กลับมาทบทวนความเหมาะสมของโครงการอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และป้องกันการทุจริตที่จะเกิดขึ้นกับ ขสมก.