"ประยุทธ์" วอนฝ่ายการเมืองอย่าลบสิ่งที่ คสช.วางฐานไว้

19 พ.ค. 2560 | 14:04 น.
วันที่ 19 พ.ค.60 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า "สำหรับการเตรียมการสำหรับทำงานการเมือง หรือการเดินหน้าประเทศสู่ประชาธิปไตยในอนาคต เราคงไม่จำเป็นต้องทำลาย – ลบล้าง สิ่งที่ คสช. วางรากฐาน หรือปรับไว้หลายอย่าง ก็ทำให้ท่านทั้งหมดนะครับ ที่เราพยายามปรับสิ่งที่ “เอียง” ให้ค่อยๆ “ตั้งตรง” พร้อมกับเสริมความเข้มแข็งเข้าไป อย่างต่อเนื่อง เหมือนที่ผมพูดตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2557 นะครับ อย่างไรก็ตาม ก็อาจจะมีคนที่ไม่เห็นชอบ ไม่เห็นด้วย แล้วพยายามทำลาย – เซาะให้เอนเอียง เหมือนเดิม – อีกครั้ง เพื่อแสวงหาหนทางเข้าสู่อำนาจทางการเมือง และให้ประชาชนกลับไปสนับสนุน – เป็นฐานเสียง

โดยไม่ได้มุ่งหวังให้ประชาชนเข้มแข็ง – ช่วยตัวเองได้ วันหน้าก็คงต้องพึ่งพารัฐ หรือฝ่ายการเมืองเหมือนเดิม อันนี้เป็น “จุดอ่อน” ของประชาธิปไตยของประเทศไทยนะครับ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขอทุกคนไปใคร่ครวญด้วย รวมถึง เราไม่อาจสร้างธรรมาภิบาลเกิดขึ้นได้จริง ในการบริหารราชการมาตลอดมานะครับ

รัฐบาลนี้ พร้อมที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยของเรา ไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย “ที่แท้จริง” ไม่ใช่เป็นเพียง “พิธีกรรม” เหมือนการเลือกตั้ง ที่แต่เพียงอย่างเดียวนะครับ แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่กลับให้ความสำคัญ มากกว่าหลักการต่างๆอันเป็นสาระ

วันนี้ผมยินดีที่มีนักการเมืองหลายท่าน ออกมาพูดในเรื่องที่สร้างสรรค์ เช่น เราจะต้องร่วมมือกัน ขจัดคนไม่ดีออกไปจากการเมืองไทยให้ได้ เราต้องมีการพัฒนาอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน – คนไทยครับ ว่าเราต้องการจะหลุดพ้นจาก “กับดัก” หรือ “วังวนแห่งปัญหา” ให้ได้ หรือไม่ อย่าทำให้นักการเมืองดีๆ ที่ก็มีอยู่เยอะ หรือคนที่คิดว่าจะมาเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ – ทางเลือกใหม่ ต้องเสียกำลังใจ เสียความตั้งใจ หรือเกิด “วิกฤติศรัทธา” ที่จะเข้ามาทำงานช่วยชาติ

ผมอยากให้พี่น้องประชาชน ใช้คำสอนทางศาสนา ทุกศาสนาที่ตนนับถือ มาเป็น “แสงสว่างนำทาง” ในการอยู่ร่วมกันด้วยความปรองดอง และสันติสุข พร้อมทั้ง ร่วมกันปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ และร่วมกันสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง “เชิงบวก” และสร้างสรรค์ ให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ให้จงได้ ทั้งนี้ เพื่อการปฏิรูปประเทศ และการเลือกตั้งในอนาคต ที่ผมถือว่าเป็น “วาระชาติ” โดยขอให้พวกเราทุกคนอดทน เข้มแข็ง นะครับ

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง, รัฐบาลยอมรับว่า ถึงแม้ตัวเลขประเมินทางเศรษฐกิจ จะดีขึ้น ในภาพรวม แต่อย่างไรก็ตาม การกระจายรายได้ ยังทำได้ไม่ทั่วถึง จำเป็นต้องแสวงหามาตรการ มาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะอจจะทำให้ประชาชนรู้สึกว่า ยังไม่ได้อะไรจากรัฐบาล ยอดซื้อ - ขายสินค้าบางอย่างตกลง แสดงว่าประชาชนขาดกำลังซื้อ รัฐบาลพยายามทำทุกอย่าง ซึ่งอาจทำได้ไม่รวดเร็วนักเพราะเราต้องระมัดระวัง เรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญ

ประกอบกับ ในมาตรการใหม่ๆ อาจมีการบิดเบือน - ให้ร้าย จนไม่เข้าใจ เกิดความร่วมมือน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เพราะความยากจน เพราะผู้มีรายได้น้อย ลำบากนะครับ วันนี้ก็อาจมีการให้คำสัญญา จากนักการเมืองที่ไม่ดี มาใช้โอกาสนี้ สร้างความเข้าใจผิด เหมือนเดิมๆ บอกว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ วันหน้ามื่อเข้ามาแล้ว ก็เป็นการแก้ไขปัญหาชนิดที่เป็นการแก้ปลายเหตุเช่นเดิม ประชาชนก็เลยจะรู้สึกว่าน่าจะดีขึ้น นะครับ

ผมก็ไม่อยากจะบอกว่าใครผิด - ใครถูก มันต้องทำไปพร้อมๆ กัน จึงจะเกิดความยั่งยืน ทั้งแก้ไขความเดือดร้อน ซึ่งต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก รัฐต้องหาเงินมาให้เพียงพอ ไปพร้อมกับการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆเป็นทางเลือก เป็นโอกาส ให้ประชาชน หลายอย่างที่เป็นมาตรการออกไป บางอย่างอาจจ่ายตรงไม่ได้ ติดขัดข้อกฎหมาย เช่นที่เคยเกิดขึ้น เป็นคดีความต่างๆ และเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน หากเราไม่รอบคอบ ไม่ระวังเท่าที่ควร อาจเกิดปัญหาในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็จะพยายามหามาตรการที่เหมาะสม มาแก้ไขให้ได้โดยเร็ว เราต้องเลือก หรือผสมกันให้ได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง แล้วเราก็จะไม่ทำสิ่งที่ผิดให้มันถูกต้อง ก็ทำสิ่งที่ถูกให้มันถูกขึ้น หรือถูกมากกว่า และรวดเร็วทันเวลา นะครับ ทำสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม เราต้องคิดเสมอว่า ทำอย่างไร คนรายได้น้อยจะไม่รู้สึกว่าเรายังไม่ได้แก้ปัญหาให้เขา เราต้องช่วยกัน ต้องเร่งทำงานในลักษณะประชารัฐ ก็ขอฝากไปยังข้าราชการทุกภาคส่วน เอกชน ธุรกิจเอกชนก็ต้องช่วยกันด้วยนะครับ หลายๆส่วน ถ้าเราช่วยกันคนละไม้คนละมือมันก็จะเร็วขึ้นนะครับ รอรัฐอย่างเดียว มันไม่ไหว นะครับ เพราะว่าเราต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ต้องช่วยกันแก้ปัญหาในเรื่องเหล่านี้ด้วย"