ชง นบข.ขายไม่หมด 100%ข้าวเสื่อม 1.03 ล้านตัน

19 พ.ค. 2560 | 09:32 น.
“พาณิชย์” ชงประธาน นบข.เคาะขายข้าวเสื่อม 1.03 ล้านตัน 22 พ.ค.นี้  เผยขายไม่หมดยกล็อต  เหตุเอกชนกดราคาต่ำสุดแค่ 500 บาท/ตัน

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ซึ่งมีนางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน(19 พ.ค.60) ได้พิจารณาผลการเปิดซองราคาเสนอซื้อข้าวสารสต๊อกรัฐบาลเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์ ปริมาณ 1.03 ล้านตัน เบื้องต้นได้ข้อสรุปแล้วในรายละเอียดซึ่งมีการพิจารณาอนุมัติขายไม่หมด 100% ตามที่กรมเสนอไปเนื่องจากมีข้อมูลประกอบการพิจารณาในหลายประเด็นทั้งส่วนของราคาที่เอกชนเสนอมาบางส่วนยังไม่เหมาะสมรวมไปถึงประเด็นของคุณสมบัติด้วย

โดยกระบวนการหลังจากนี้ กรมจะนำผลการพิจารณาเสนอต่อประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาอนุมัติขายในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ และคาดจะทราบผลในวันที่ 23 พฤษภาคม สำหรับสาเหตุที่ทำให้การพิจารณาอนุมัติล่าช้า หลังจากเสนอเข้าคณะอนุกรรมการครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากข้าวล็อตดังกล่าวเสนอซื้อครบทุกคลังเป็นครั้งแรก และมีระดับราคาที่มีความแตกต่างกันมาก โดยราคาสูงสุดเกือบตันละ 4,000 บาท และราคาต่ำสุดอยู่ที่ตันละ 500 บาท ดังนั้นการพิจารณาอนุมัติจำเป็นต้องดูหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านราคาที่เหมาะสม เปรียบกับต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา ตลอดจนคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูล

อย่างไรก็ตาม นบข.จะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 12 มิถุนายน 2560  ซึ่งกรมจะเสนอรายงานผลการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล และแนวทางการระบายข้าวสารที่เหลืออยู่ทั้งในส่วนของข้าวกลุ่ม 2 หรือข้าวที่มีเกรดซีปนเกิน 20% ที่ต้องระบายเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนบริโภคปริมาณ 2 ล้านตัน และการเปิดประมูลข้าวในกลุ่ม 1 หรือข้าวที่เปิดประมูลเป็นการทั่วไปปริมาณ 1.82 ล้านตัน ที่จะให้ยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 24 พฤาภาคมนี้ รวมทั้งปริมาณข้าวในกลุ่มที่ 3 คือข้าวที่เก็บเกิน 5 ปี ผิดชนิด ผิดมาตรฐาน ที่เหลือจากการอนุมัติขายเพื่อนำมากำหนดแผนระบายต่อไป

“หากผลสรุปข้าวกลุ่ม 3 ล็อตนี้เหลือปริมาณไม่มาก อาจจะเปิดประมูลรวมกลุ่ม 2 คาดว่าจะกำหนดให้ยื่นซองเสนอราคาอีกครั้งปลายเดือนมิถุนายนนี้ หลังจัดงานไทยแลนด์ไรซ์คอนเวนชั่นไปแล้ว ทำให้ตอนนี้ยังมั่นใจว่ากรมจะระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลทั้งหมดได้ภายในปีนี้”

ทั้งนี้ ในส่วนของการเปิดประมูลข้าวกลุ่ม 3 เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์ ในปริมาณ 1.03 ล้านตันมีเอกชนมาร่วมประมูลจำนวน 21 ราย ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผู้ผลิตเอทานอล ไบโอแมส ไบโอแก๊ส และอุตสาหกรรมที่ผลิตไฟฟ้า โดยมี บริษัทที พี เค เอทานอล ได้ยื่นเสนอซื้อข้าวสารทุกคลังปริมาณ 1.03 ล้านตัน ในราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 2-3 บาท มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท และรายนี้ยังเป็นผู้เสนอราคาต่ำที่สุดตันละ 500 บาทในหนึ่งคลังปริมาณ 1,371  ตัน