อนาคต‘บิ๊กดาต้า’สดใส ‘กูเกิล-ทรู-ไอพีจี’ชี้ขุมทรัพย์ใหม่

23 พ.ค. 2560 | 07:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

เป็นเพราะ บิ๊กดาต้า (BigData คือ ฐานข้อมูลในองค์กร) เป็นกระแสที่กำลังได้รับการกล่าวถึงในทั่วโลก ซึ่งกลุ่มทรู ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน และเมื่อเร็ว ๆนี้ ได้จัดงานสัมมนา “TrueBusiness Forum 2017” ภายใต้แนวคิด “Smart Thailand 4.0 ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยดิจิทัล สู่การแข่งขันระดับโลก” โดยมีผู้คว่ำหวอดในวงการสะท้อนมุมมอง และ อนาคต “บิ๊กดาต้า” ติดตามอ่านจากบรรทัดถัดจากนี้

[caption id="attachment_152146" align="aligncenter" width="487"] อภิชญา เตชะมหพันธ์ หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทกูเกิลประเทศไทย จำกัด อภิชญา เตชะมหพันธ์ หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทกูเกิลประเทศไทย จำกัด[/caption]

**กูเกิล ชี้เข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน
นางสาวอภิชญา เตชะมหพันธ์ หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทกูเกิลประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มสำคัญที่สุดในตอนนี้เป็นเรื่องของ ดิจิตอล ทรานส์ฟอร์เมชัน ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนคุ้นเคยกันมาบ้างแล้ว ซึ่งดิจิตอล ทรานส์ฟอเมชัน นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของกิจการ

**สร้างกำไร 26%
สำหรับผู้ประกอบการที่มีการนำบิ๊กดาต้า หรือดิจิตอลเข้ามาใช้ในองค์กร ส่งผลให้กิจการมีผลกำไรที่เพิ่มขึ้นถึง 26% โดยในอดีตนั้นการสร้างธุรกิจเพื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นั้นใช้เวลากว่า 70 ปีที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จ แต่ในปัจจุบันธุรกิจสามารถเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้โดยใช้เวลาดำเนินธุรกิจนั้นจะเห็นว่าในช่วงปี 2513-2523 ธุรกิจมีความตื่นตัวและโฟกัสในเรื่องของอุตสาหกรรม และในช่วงปี 2523-2533 ธุรกิจต่างคำนึงถึงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตต่างๆ ให้ออกมามีคุณภาพดีที่สุด

หากแต่หลังจากยุควายทูเค เมื่อดาต้าเข้ามาหลายธุรกิจมุ่งเน้นไปให้ความสำคัญในเรื่องของมาเก็ตติ้งมากขึ้น ซึ่งมาเก็ตติ้งจะช่วยในการขยายธุรกิจ เมื่อโลกเข้าสู้ยุคของอินเตอร์เน็ตเต็มตัว และแนวโน้มเรื่องของ Digitization เนื่องจากลูกค้ามีพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ธุรกิจต้องมีการปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างการดำเนินธุรกิจแบบเดิม และการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย เพื่อให้ลูกค้าสนใจในตัวสินค้า สามารถทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของเราแทนที่จะเป็นของคู่แข่ง สำหรับกูเกิลเทรนด์นั้นเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะเป็นตัวช่วยในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ ผู้ประกอบการควรเริ่มต้นจากสิ่งที่มีอยู่ โดยทำให้ทุกอย่างสามารถวัดค่าได้ เช่น การติดโค้ด หรือแทร็กกิ้งเพื่อติดตามพฤติกรรมการของลูกค้า และหากในอนาคตเกิดดาต้าขนาดใหญ่ก็จะกลายเป็นสังคมแห่งดิจิตอลอย่างแท้จริง

[caption id="attachment_152148" align="aligncenter" width="503"] ธราภุช จารุวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอพีจีมีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ธราภุช จารุวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอพีจีมีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย[/caption]

** ไอพีจี ชี้เกิดประโยชน์
นายธราภุช จารุวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอพีจีมีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย บิ๊กดาต้า กล่าวว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ไอพีจีเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ (Business Analytics) ด้วยนักเศรษฐมิติ โดยในมุมของนักวางแผนจะมองไปถึงประสบการณ์ของลูกค้า แต่ในปัจจุบันเราจะศึกษาถึงช่วงเวลาต่างๆในแต่ละวันว่าผู้บริโภคนั้นต้องประสบกับเหตุการณ์ใดบ้างตั้งแต่เช้าถึงค่ำ เพื่อวางแผนที่จะเข้าถึงตัวลูกค้าได้ในหลากหลายรูปแบบมากขึ้น โดยสิ่งที่สำคัญคือการนำกลยุทธ์บิ๊กดาต้ามาใช้งาน ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลหรือ Business Analytic นั้น จะสามารถทำให้เข้าถึงพฤติกรรมการซื้อหรือชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้จริงและสามารถบอกลูกค้าได้ว่าวัตถุประสงค์ของการทำงานจะมีผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งต้องมีการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับความไว้วางใจในตัวนักการตลาดของไอพีจีกับความเชื่อใจของลูกค้าในแต่ละกระบวนการทำงาน ซึ่งในขั้นตอนการเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ต้องใช้เวลา แต่การนำบิ๊กดาต้ามาใช้จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการสร้างผลกำไรให้ดีขึ้นกว่าเดิม

[caption id="attachment_152147" align="aligncenter" width="503"] รุจิกร ภาวสุทธิไพศิฐ ผู้อำนวยการ หน่วยงาน Data Analytics & Research บริษัท . ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รุจิกร ภาวสุทธิไพศิฐ ผู้อำนวยการ หน่วยงาน Data Analytics & Research บริษัท . ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)[/caption]

**สู่ยุค AI
นายรุจิกร ภาวสุทธิไพศิฐ ผู้อำนวยการ หน่วยงาน Data Analytics & Research บริษัท . ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบิ๊กดาต้าก้าวไปสู่ยุคของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เนื่องจากอารมณ์ของคนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงจำเป็นที่จะต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเก็บข้อมูล ซึ่งในปัจจุบันมีอินฟราสตักเจอร์หรือโครงสร้างพื้นฐานที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบธุรกิจมากขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้งบในการลงทุนมาก แต่สามารถที่จะนำบิ๊กดาต้ามาใช้ได้ทันที สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการด้วยการชำระเงินแบบรายเดือนโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่เหมือนในยุคก่อน

นายรุจิกร กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ในทุกวันนี้หลายส่วนเข้ามาร่วมมือกันโดยบังเอิญ และหากมีความคิดที่จะเริ่มต้นการใช้งานบิ๊กดาต้าก็ควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพราะประชาชนมีการใช้งานข้อมูลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นข้อมูลขนาดใหญ่ โดยหลายบริษัทจะใช้บิ๊กดาต้าในการทำนาย หรือดูแลเครื่องจักร และดูเทรนด์ของโลก อีกทั้งธุรกิจกลุ่มเอสเอมอี สตาร์ตอัพนั้น ก็สามารถที่จะสร้างบิ๊กดาต้าขึ้นมาใหม่ด้วยตนเองได้เพื่อสร้างความแตกต่างจากสินค้าของคู่แข่ง

และทั้งหมด คือ อนาคตของ “บิ๊กดาต้า” ในมุมมองของผู้คว่ำหวอดในวงการดิจิตอล

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,263 วันที่ 21 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560