เขตเศรษฐกิจทวายไม่คืบ รอความพร้อมเมียนมา-เลื่อนเจรจาพ.ค.นี้

23 พ.ค. 2560 | 08:00 น.
โครงการทวายยังนิ่ง วงเงินกู้สร้างถนนเชื่อมชายแดนไทย 4.5 พันล้านบาทยังไม่อนุมัติ เหตุเจรจา 2 ฝ่ายยังไม่คืบ ผู้อำนวยการสพพ.เผยต้องให้เวลารัฐบาลซูจี ขณะที่การเจรจา ไทย-เมียนมารอบแรก พ.ค. นี้เจอเหตุเลื่อนอีก

นายเนวิน สินสิริ ผู้อำนวยการ สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าของโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายซึ่งเป็นความร่วมมือไตรภาคีระหว่างรัฐบาลไทย เมียนมา และญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองทวาย เขตตะนาวศรี ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาว่า จากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเมียนมาแม้รัฐบาลของนางอองซาน ซูจี จะบริหารประเทศครบมา 1 ปีเมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่การเจรจาเกี่ยวกับโครงการทวายจะเริ่มพูดคุยกันใหม่ โดยการนำเอาสิ่งที่ครม. (คณะรัฐมนตรี) เคยให้หลักการในเรื่องการช่วยเหลือวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน)ให้กับรัฐบาลเมียนมา 4.5 พันล้านบาทเพื่อสร้างถนนเชื่อมโยงจากชายแดนไทยไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย มาเป็นตัวตั้งต้นในการเจรจาใหม่

“อย่างไรก็ดีจะบอกว่าโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายล่าช้า คงไม่ถูกต้องนัก เพราะต้องไปดูโครงการที่ทั้งเอดีบี (ธนาคารพัฒนาเอเชีย) และเวิลด์แบงก์ (ธนาคารโลก ) มีในเมียนมา โครงการเหล่านั้นก็ไม่ได้เร็วเช่นกัน ต้องเข้าใจว่าเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรในการปรับเปลี่ยน “ผู้อำนวยการ สพพ.กล่าวและให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าสำหรับโครงการความร่วมมือทางการเงินที่ทางสพพ.มีให้กับเมียนมา และยังไม่คืบหน้ามากนักเพราะยังคงรอการพิจารณาอนุมัติและตัดสินใจของรัฐสภาเมียนมานั้น ไม่ได้มีเฉพาะโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมชายแดนไทย-เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเท่านั้น เพราะอีกโครงการคือ การปรับปรุงระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้ง วงเงินกู้กว่า 1.78 พันล้านบาทก็ยังคงเนิ่นช้าอยู่เช่นกัน

“ระยะ 3-4 เดือนมานี้ เราเห็นถึงความสนใจของเมียนมาในเรื่องการพัฒนาถนน อีกทั้งคณะเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและเมียนมาทั้ง 2 ชุด คือคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย –เมียนมา( เจซีซี) ที่มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการร่วมระดับสูงไทย-เมียนมา ( เจเอชซี ) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะ ก็มีความพยายามที่จะเดินหน้าการเจรจา แต่ในส่วนของเมียนมา การเปลี่ยนรัฐบาลทำให้มีการเปลี่ยนหัวหน้าคณะเจรจา โดยหัวหน้าคณะเจซีซีของเมียนมา ได้เปลี่ยนจากรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน มาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และยังดูแลเขตเศรษฐกิจพิเศษของเมียนมาทั้ง 9 แห่ง ส่วนประธานคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย จากเดิมที่เป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมปัจจุบันเมียนมาก็เปลี่ยนให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงไฟฟ้าและพลังงาน มาดูแลแทน”

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้เคยอนุมัติในหลักการเกี่ยวกับวงเงินกู้ดอกเบี้ยผ่อนปรน (ซอฟท์โลน) 4,500 ล้านบาท ในการให้ความช่วยเหลือเพื่อให้เมียนมากู้เงินไปสร้างถนนเชื่อมโยงชายแดนไทยจากด่านบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี ไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะทาง 132 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางสัญจรและการขนส่งสินค้า แต่จนถึงขณะนี้ทางเมียนมายังไม่ได้ร้องขอเงินกู้เข้ามาเนื่องจากมีการเลือกตั้งและเปลี่ยนแปลงรัฐบาล

ด้านนายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ที่ผ่านมาทางรัฐบาลเมียนมาได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อมาดูแลโครงการทวายแล้ว ระหว่างนี้จึงคงเป็นช่วงที่รอหารือ หากผู้นำพูดคุยกันเสร็จแล้วก็คงจะเดินหน้าต่อได้ ซึ่งเดิมจะมีการประชุมหารือกันในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่คาดว่าคงจะเลื่อนออกไปก่อน เช่นเดียวกับโครงการเงินกู้สร้างถนน 4.5 พันล้านบาท คงจะต้องไปหารือเกี่ยวกับกลไกธนาคารพาณิชย์ที่จะปล่อยกู้กันใหม่ทั้งหมดในภาพรวม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,263 วันที่ 21 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560