กระทรวงการคลัง ยืนยันไม่เสนอปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มปีนี้ร้อยละ 1 ตามข้อเสนอของ สนช.เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจยังเปราะบาง ขณะเดียวกัน เตรียมเสนอร่างพรบ.ภาษีลาภลอยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาเร็วๆนี้
วันนี้ (19 พ.ค. 60) - จากกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เสนอปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 1 เพื่อให้มีรายได้จัดเก็บเพิ่มขึ้นนั้น นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่าแม้การปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีกร้อยละ 1 จะเป็นหลักการที่ถูกต้องทำให้รัฐมีรายได้สูงขึ้น แต่ยืนยันว่าในปีนี้กระทรวงการคลัง จะไม่เสนอคณะรัฐมนตรีให้ปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 7 สิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. ที่จะถึงนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวยังไม่เอื้อให้ปรับขึ้นภาษีเพราะอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงได้ และ เชื่อว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดเก็บที่ปิดช่องโหว่การรั่วไหลของรายได้ และการพัฒนาระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศจะทำให้มีรายได้จัดเก็บเพิ่มขึ้นได้
ส่วนกรณีนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่ องค์การการค้าโลกระบุ ข้อมูลเศรษฐกิจไทยที่แท้งจริงน่าห่วงนั้น ในภาพรวมเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีแต่อาจมีปัญหาระดับจุลภาคที่ต้องเร่งแก้ไข ทั้งการลงทุนภาคเอกชนและการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยสัปดาห์หน้าจะนัดประชุมกับกรมบัญชีกลางและสำนักงานศรษฐกิจการคลังสรุปมาตรการสวัสดิการรัฐที่ตรงกับความจำเป็น นอกเหนือจากค่าน้ำ ค่าไฟ และ ค่าเดินทาง
ในเร็วๆ นี้ยังจะเสนอร่างพ.ร.บ.ภาษีลาภลอยให้รัฐมนตรีว่าการะทรวงการคลังพิจารณา โดยกำหนดอัตราจัดเก็บจากผู้ที่ได้ประโยชย์จากมูลค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นจากผลของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง
ปลัดกระทรวงการคลัง ยังกล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไออายัดรถยนต์หรูสำแดงใบอินวอยซ์นำเข้าเท็จและหลบเลี่ยงภาษี 60 คันโดยมีการทำเป็นขบวนการว่า ได้รับทราบข่าวแต่ยังไม่ได้รับข้อมูลจริงเป็นทางการจากดีเอสไอโดยยอมรับว่าระบบยังมีจุดอ่อนแต่ขอให้ได้ข้อมูลจากดีเอสไอครบถ้วนก่อนจึงจะชี้แจงรายละเอียดที่ชัดเจนได้
ขณะดียวกัน วันนี้ กรมบัญชีกลางได้ร่วมมือกับธนาคารพัฒนาเอเชีย และองค์กรส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการบริหารงานภาครัฐ จัดการประชุมส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการบริหารงานภาครัฐ เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน เพิ่มความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐและลดการทุจริต