"สมคิด"ย้ำศก.ไทยโต 3.3% เร่งพัฒนาผู้ประกอบการ SME อนาคตจะแข่งขันด้วยนวัตกรรม

17 พ.ค. 2560 | 11:28 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

วันที่ 17 พ.ค.60-นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนา TrueBusiness Forum 2017 ภายใต้แนวคิด Smart Thailand 4.0 ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยดิจิทัลสู่การแข่งขันระดับโลก โดยในตอนหนึ่งได้กล่าวถึงจีดีพีไทย ไตรมาสแรกที่ขยายตัวถึง 3.3% ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีของไทยในไตรมาสแรกที่เติบโตร้อยละ 3.3 นั้น ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่งในภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังหดตัว เพราะหลายประเทศหลักที่ไทยส่งออกไปเติบโตไม่ถึงร้อยละ 2 แต่สาเหตุที่จีดีพีของไทยเติบโตได้เพียงแค่ระดับนี้ ไม่ใช่แค่เพียงเพราะเหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงที่ผ่านมาไม่สงบ แต่เพราะมีข้อจำกัด เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาไทยเน้นแต่การส่งออก จนมองข้ามกำลังซื้อในประเทศ เมื่อเศรษฐกิจโลกตกต่ำไทยจึงได้รับผลกระทบมาก และราคาสินค้าเกษตรก็ตกต่ำหลายปีติดต่อกัน ทำให้ต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

 

 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่สำคัญผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอียังไม่กล้าที่จะไปเปิดตลาดในกลุ่มประเทศเออีซี และหากสังเกตถึงสิงคโปร์ ก็จะพบว่าการเติบโตของจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 2 เท่านั้น จากในช่วง10 ปีที่ผ่านมาเติบโตถึงร้อยละ 7-8 ทำให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างเช่นเดียวกับไทยที่ในช่วง7-8ปี ที่ผ่านมาก็ประสบกับปัญหานี้แล้ว แต่รัฐบาลเดิมกลับไม่มีการแก้ไข

 

 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องค่าแรงราคาถูก คงไม่ใช่จุดแข็งของไทยอีกต่อไป นับตั้งแต่ได้มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และยังมีการเรียกร้องให้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 600 บาท ซึ่งอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมากในอนาคต จะไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ เพราะในอนาคตจะต้องแข่งขันกันด้วยระบบดิจิทัลและนวัตกรรม ที่จะมาช่วยลดต้นทุนของสินค้าต่อหน่วยและเพิ่มมูลค่าให้สินค้า

 

 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องนี้ยังถือว่ามีความน่ากังวลเพราะกลุ่มเอสเอ็มอีไทยยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องนี้ ซึ่งตลาดที่ควรจะเริ่มการพัฒนามากที่สุดคือด้านการท่องเที่ยว เช่น การทำหมู่บ้านโอท็อป ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมผลักดันด้วยการกระจายงบประมาณไปสู่ต่างจังหวัด จากเดิมที่กระจุกตัวอยู่ที่ส่วนกลางเท่านั้น เพื่อให้แต่ละพื้นที่มีโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น และภาครัฐฯก็จะคอยสนับสนุนในเรื่องระบบโครงสร้างพื้นฐานอีกทางหนึ่ง