ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน : แก้ปัญหา 3 จังหวัดใต้อย่าเน้น "สะใจ" ต้องใช้การเมืองนำการทหารเท่านั้น!
ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน
โดย : สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
แก้ปัญหา3จังหวัดใต้อย่าเน้น "สะใจ" ต้องใช้การเมืองนำการทหารเท่านั้น!!
จากกรณีระเบิด "คาร์บอมบ์" บิ๊กซีปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดย "กลุ่มขบวนการโจรก่อการร้าย" ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้" แล้วปรากฏชื่อของ "นายสุไฮมิง สะมะแอ" เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ในการปล้น ฆ่า "นายนุสน ขจรคำ" ช่างติดตั้งผ้าใบกันสาดเพื่อชิงรถมาทำ "คาร์บอมบ์" แล้วเอาศพไปทิ้ง!!!!
กรณีของ"นายสุไฮมิง สะมะแอ" นั้นได้กลายมาเป็นที่ วิพากษ์วิจารณ์กันมาก เพราะเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วม "โครงการพาคนกลับบ้าน" ของ "กองทัพภาคที่ 4" ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตกันว่าโครงการนี้เปิดช่องให้กับขบวนการก่อการร้ายโจร 3 จังหวัดชายแดนใต้ "แฝงตัว" ทำทีว่ามามอบตัวเพื่อปฏิบัติการได้ง่ายขึ้นและยังทำให้ไม่ต้องรับโทษทางอาญา!!!!
ทำให้มีการตั้งคำถามว่า????
ควรจะต้องทบทวน"โครงการพาคนกลับบ้าน"หรือไม่????
ก็ต้องกลับไปดูข้อเท็จจริงกันว่า "โครงการพาคนกลับบ้าน"นั้น นับตั้งแต่ปี 2555 ที่ได้เริ่มต้นขึ้นมาเมื่อวันที่ 11 กันยายน โดย "พล.อ.อุดมไชย ธรรมสาโรรัชต์" เมื่อครั้งเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 นั้น ได้มีคนเข้าร่วมโครงการจนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นจำนวนทั้งสิ้น "4,432 คน"
จากที่เมื่อเริ่มโครงการนี้ มียอดผู้เห็นต่างที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2555 "93 คน" ในวันเดียว และจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2558 วันที่ 30 กันยายน 2558 รวมเป็นระยะเวลา 3 ปีนั้น มีผู้เห็นต่างได้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น "1,996 คน" และในปีงบประมาณ 2559 เพียงปีเดียว คือระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2558 - 30 กันยายน 2559 มียอดผู้เห็นต่างที่เข้ารายงานตัวพุ่งสูงถึง "2,407 คน " มากกว่า 3 ปีก่อนรวมกัน
ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป็นปัญหาที่จะเอา "ศาสนา" และ "การเมือง" ในประวัติศาสตร์เป็นตัวจุด "ไฟสงคราม"ขึ้น ดังนั้นชัดเจนว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาต้องเอา "การเมืองนำการทหาร"!!!!!!!
ไม่ใช่แค่ความสะใจที่โจรยิงมาก็ต้องยิงไป ต้องตามล่าตามล้างกันให้ถึงที่สุด!!!
แต่หัวใจของการแก้ปัญหาคือทำให้ "พี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนใต้" อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่ว่าจะ "ศาสนา" หรือ "เชื้อชาติ" ใด และให้การสนับสนุน "อำนาจรัฐ" ในการแก้ไขปัญหาต่างหาก!!!
สถานการณ์ถึงจะเบาบางไปในทางปกติสุข!!!
แน่นอนว่าฟากฝั่งของโจร ก็พยายามจะอาศัยโครงการนี้ เพื่อเป็นช่องทางของตัวเองและให้รอดพ้นจากโทษอาญา แม้ว่าอาจจะมีโจรแฝงเข้ามาในโครงการนี้สัก 10 หรือ 20 คน แต่ต้องถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด และความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับมา
"โครงการพาคนกลับบ้าน"จึงต้องเดินหน้าต่อไป!!!!!
คอลัมน์ : ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน / หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3262 ระหว่างวันที่18-20 พ.ค.2560
โดย : สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
แก้ปัญหา3จังหวัดใต้อย่าเน้น "สะใจ" ต้องใช้การเมืองนำการทหารเท่านั้น!!
จากกรณีระเบิด "คาร์บอมบ์" บิ๊กซีปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดย "กลุ่มขบวนการโจรก่อการร้าย" ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้" แล้วปรากฏชื่อของ "นายสุไฮมิง สะมะแอ" เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ในการปล้น ฆ่า "นายนุสน ขจรคำ" ช่างติดตั้งผ้าใบกันสาดเพื่อชิงรถมาทำ "คาร์บอมบ์" แล้วเอาศพไปทิ้ง!!!!
กรณีของ"นายสุไฮมิง สะมะแอ" นั้นได้กลายมาเป็นที่ วิพากษ์วิจารณ์กันมาก เพราะเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วม "โครงการพาคนกลับบ้าน" ของ "กองทัพภาคที่ 4" ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตกันว่าโครงการนี้เปิดช่องให้กับขบวนการก่อการร้ายโจร 3 จังหวัดชายแดนใต้ "แฝงตัว" ทำทีว่ามามอบตัวเพื่อปฏิบัติการได้ง่ายขึ้นและยังทำให้ไม่ต้องรับโทษทางอาญา!!!!
ทำให้มีการตั้งคำถามว่า????
ควรจะต้องทบทวน"โครงการพาคนกลับบ้าน"หรือไม่????
ก็ต้องกลับไปดูข้อเท็จจริงกันว่า "โครงการพาคนกลับบ้าน"นั้น นับตั้งแต่ปี 2555 ที่ได้เริ่มต้นขึ้นมาเมื่อวันที่ 11 กันยายน โดย "พล.อ.อุดมไชย ธรรมสาโรรัชต์" เมื่อครั้งเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 นั้น ได้มีคนเข้าร่วมโครงการจนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นจำนวนทั้งสิ้น "4,432 คน"
จากที่เมื่อเริ่มโครงการนี้ มียอดผู้เห็นต่างที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2555 "93 คน" ในวันเดียว และจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2558 วันที่ 30 กันยายน 2558 รวมเป็นระยะเวลา 3 ปีนั้น มีผู้เห็นต่างได้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น "1,996 คน" และในปีงบประมาณ 2559 เพียงปีเดียว คือระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2558 - 30 กันยายน 2559 มียอดผู้เห็นต่างที่เข้ารายงานตัวพุ่งสูงถึง "2,407 คน " มากกว่า 3 ปีก่อนรวมกัน
ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป็นปัญหาที่จะเอา "ศาสนา" และ "การเมือง" ในประวัติศาสตร์เป็นตัวจุด "ไฟสงคราม"ขึ้น ดังนั้นชัดเจนว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาต้องเอา "การเมืองนำการทหาร"!!!!!!!
ไม่ใช่แค่ความสะใจที่โจรยิงมาก็ต้องยิงไป ต้องตามล่าตามล้างกันให้ถึงที่สุด!!!
แต่หัวใจของการแก้ปัญหาคือทำให้ "พี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนใต้" อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่ว่าจะ "ศาสนา" หรือ "เชื้อชาติ" ใด และให้การสนับสนุน "อำนาจรัฐ" ในการแก้ไขปัญหาต่างหาก!!!
สถานการณ์ถึงจะเบาบางไปในทางปกติสุข!!!
แน่นอนว่าฟากฝั่งของโจร ก็พยายามจะอาศัยโครงการนี้ เพื่อเป็นช่องทางของตัวเองและให้รอดพ้นจากโทษอาญา แม้ว่าอาจจะมีโจรแฝงเข้ามาในโครงการนี้สัก 10 หรือ 20 คน แต่ต้องถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด และความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับมา
"โครงการพาคนกลับบ้าน"จึงต้องเดินหน้าต่อไป!!!!!
คอลัมน์ : ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน / หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3262 ระหว่างวันที่18-20 พ.ค.2560