เงินเฟ้ออังกฤษสูงสุดรอบ 3 ปี

16 พ.ค. 2560 | 11:08 น.
เงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีในเดือนเมษายน จากอานิสงส์ราคาสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลอีสเตอร์

สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนเมษายนอยู่ที่ 2.7% เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่เงินเฟ้ออยู่ที่ 2.3% และเป็นอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2556

เงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่การลงประชามติออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิท เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน ส่งผลให้เงินปอนด์อ่อนค่าลง ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงแนวโน้มเงินเฟ้อทั่วโลกที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากอยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน จนทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศต้องนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ออกมาใช้

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติฯ ระบุว่า เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเมื่อเดือนก่อนส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความผันผวนของราคาตั๋วเครื่องบินในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ รวมไปถึงราคาเสื้อผ้าและภาษีรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น

เดือนเมษายนนับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่เงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) อย่างไรก็ดี ด้วยอัตราค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเพียง 1.9% แนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาก็สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันต่อกำลังการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อเนื่องถึงเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพาการบริโภคภายในเป็นหลัก

ด้านบีโออีคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในปี 2560 จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุด 2.8% ก่อนจะปรับลดลงมาในปี 2561 โดยเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมีปัจจัยหลักมาจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ อย่างไรก็ตาม ผลของปัจจัยดังกล่าวจะค่อยๆ มีลดน้อยลงไป

สัปดาห์ก่อนบีโออีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้ว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย พร้อมกันนี้ยังได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ลดลง 2% เหลือ 1.9% แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตในปี 2561 เป็น 1.7% และในปี 2562 เป็น 1.8% ขณะที่เมื่อปีก่อนเศรษฐกิจเติบโตในระดับ 1.8%