จุฑาภัทร บุณย์วงศกร เอ็มดีหญิงไทยคนแรก ของพีแอนด์จีแมนูแฟคเจอริ่ง

20 พ.ค. 2560 | 13:00 น.
หมดยุคที่ใช้เรื่องเพศ เป็นข้อจำกัดในความก้าวหน้าด้านหน้าที่การงานกันแล้ว ไม่ว่าจะในอาชีพหรือตำแหน่งงานใดๆ โดยเฉพาะกับองค์กรระดับโลกอย่าง พีแอนด์จี หรือบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้ความสำคัญกับความเสมอภาค แยก และให้โอกาสพนักงานที่มีความสามารถ ได้เติบโตก้าวหน้าเหมือนๆ กัน ไม่ว่าจะเพศไหน

"คุณแอร์ - จุฑาภัทร บุณย์วงศกร" กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีแอนด์จี แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้หญิงที่มีความสามารถ จนเป็นที่ยอมรับ และได้รับการโปรโมทตำแหน่งงานที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ

สาวเก่งคนนี้ จบการศึกษาวิศวะ อุตสาหกรรม จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และได้เข้าร่วมงานกับพีแอนด์จี แมนูแฟคเจอริ่ง ครั้งแรก ในตำแหน่ง โพสเซสเอ็นจิเนียร์ รับหน้าที่ดูแลเครื่องจักรทุกประเภท และในช่วง 4 ปีแรก เธอก็มีโอกาสได้ไปเรียนรู้งานที่ต่างประเทศตลอด ไม่ว่าจะเป็น เม็กซิโก ฟิลิปปินส์ จีน เรียกว่า เป็น Top Talent ขององค์กรที่น่าจับตามากๆ ในช่วงนั้น

"ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน เราเลยได้เป็นคนไทยคนแรก ที่เขาส่งออกไปเรียนรู้งานที่ต่างประเทศ เขาจะดูว่าเราทำได้ไหม ไหวไหม"

หลังจากนั้น "คุณแอร์" ได้ไปเรียนรู้และทำงานต่อที่ญี่ปุ่นอีก 6 ปี ได้อยู่ในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่นี่ เธอได้มีโอกาส รีแพลทฟอร์ม นำเทคโนโลยีใหม่ๆ สร้างผลงานใหม่ๆ จนคนญี่ป่นต้องทึ่ง

[caption id="attachment_150409" align="aligncenter" width="335"] จุฑาภัทร บุณย์วงศกร เอ็มดีหญิงไทยคนแรก ของพีแอนด์จีแมนูแฟคเจอริ่ง จุฑาภัทร บุณย์วงศกร เอ็มดีหญิงไทยคนแรก ของพีแอนด์จีแมนูแฟคเจอริ่ง[/caption]

"แอร์จะมาสายโรงงาน เราชอบทำงาน เรารีแพลทฟอร์มเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาสร้างงานให้ดีขึ้น เราชอบงานที่ว่า ถ้าเราได้เข้าไปพัฒนาแล้วสามารถเปลี่ยนการทำงานให้ดีขึ้ แบบหน้ามือเป็นหลังมือ เราชอบงานแบบนี้"..."คุณแอร์" เล่าว่า ที่ญี่ปุ่นในส่วนของโรงงาน มีผู้หญิงที่เป็นวิศวะอยู่เพียง 4 คน และตอนนั้นเธอก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ท้องในโรงงาน
ด้วยความสามารถที่มี ทำให้เธอได้รับเลือกเป็นผู้หญิงเอเชียคนแรก ที่ได้เป็น Associate Director และยังได้เดินทางไปทำงานที่ อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม จนย้ายมาที่ สิงคโปร์ ซึ่งที่นี่เธอได้ทำหน้าที่วางแผนธุรกิจด้านโรงงาน ดูว่าจะเปิดหรือตั้งโรงงานใหม่ที่ไหน "คุณแอร์" จะเข้าไปทำหน้าที่ดิวส์งาน ซื้อที่ ประสานการเปิดโรงงานใหม่จนเสร็จเรียบร้อย

เมื่ออยู่ที่สิงคโปร์ได้ซักพัก พีแอนด์จี ก็อยากให้เธอไปอยู่อเมริกา เธอได้ทำงานที่นั่น 2 ปีกว่า ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อีกมากมาย เพราะที่อเมริกาผลิตภัณฑ์ของพีแอนด์จจะมีมากกว่าที่เมืองไทย มีความหลากหลาย และมีนวัตกรรมที่น่าสนใจมากมาย

เมื่อถามว่าทำไมเขาถึงต้องการให้เธอย้ายที่ทำงานไปประเทศโน้นประเทศนี้อยู่เรื่อยๆ "คุณแอร์" บอกว่า การที่เขาจะเลือกให้เธอขึ้นมาทำหน้าที่กรรมการผู้จัดการ นั่นหมายความว่า เธอต้องได้รับความไว้วางใจอย่างสูง เพราะหน้าที่ตรงนั้น คือ การบริหารเงิน บริหารคน ต้องดูแลทุกอย่าง ตอนที่ได้รับการทาบทามให้กลับมาเป็นกรรมการผู้จัดการที่เมืองไทย ตอนนั้นยังไม่เคยมีผู้หญิงและยังไม่เคยมีคนไทยเข้ามาทำตำแหน่งนี้ ตอนนั้นมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาพูดกับเธอว่า "think about what you can do for your country"...นั่นคือส่วนหนึ่งที่จุดประกายให้เธอกลับมารับหน้าที่ และจากจุดนั้นจนถึงวันนี้ ก็ 2 ปี แล้ว

สิ่งที่ผู้บริหารหญิงคนนี้ตั้งใจไว้ คือ การทำงานให้พีแอนด์จียอมรับประเทศไทย และการที่เธอมีโอกาสได้ไปทำงานในต่างประเทศหลายๆ ที่ ก็คือ ประสบกาณ์ที่ดี ที่สามารถนำมาพัฒนาองค์กรพีแอนด์จีในประเทศไทยให้ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้น การที่เธอชื่นชอบในการคิดอะไรใหม่ๆ ได้ทำอะไรใหม่ๆ และยังมีเป้าหมายที่จะสร้างงานที่ดี ยิ่งสามารถพลิกโฉมจากสิ่งเดิมๆ ให้ดีขึ้นมากๆ นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ และในปีแรกที่เธอมารับตำแหน่ง เธอก็สามารถทได้อย่างที่ตั้งใจ ด้วยการเริ่มพัฒนา Productivity สร้างประสิทธิผลของงานอย่างโดดเด่น ลดต้นทุนการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการบริหารโรงงาน โดยสามารถรักษา Productivity ให้คงเดิม และบางอย่างก็สามารถเพิ่มให้ได้มากกว่าเดิม จนทำให้คุณภาพการผลิตของโรงงานพีแอนด์จีประเทศไทย ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานญี่ปุ่น (Japan Quality Standard) และยังได้รับมอบส่วนการผลิตยาสระผมจากโรงงานที่เวียดนาม มาอยู่กับประเทศไทยตั้งแต่ตุลาคม 2559

"เราเป็นสายสนุก ชอบที่ได้คิด ปีแรกที่เน้นมาก เราต้องเอาต้นทุนให้อยู่ ทำธุรกิจ ถ้าเอาต้นทุนไม่อยู่ ก็ไม่มีใครเขาจะมาทำกับเรา พอขึ้นปีที่ 2 เราก็เริ่มให้ความมั่นใจกับเขา บินไปต่างประเทศ คุยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของประเทศ รัฐบาลเราทำได้ดี เรื่องความเปลี่ยนแปลงเป็นความจำเป็น พอปีที่ 2 เราก็ลุยต่อเรื่องคุณภาพและอินโนเวชั่น จนทำให้ประเทศจีนมาเอาสินค้าจากเราไปขาย และเวียดนามก็ย้ายฐานการผลิตมาอยู่ที่เราส่วนหนึ่ง เรามีเรื่องตื่นเต้นเรื่อยๆ และปีที่ 3 เธอจะเริ่มลุยเรื่องบุคลากร"

เมื่อ "คุณแอร์" สามารถสร้างผลงานจนเป็นที่ยอมรับ สิ่งใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นกับเธอเสมอ จากการเลือกร่วมงานกับพีแอนด์จี เมื่อหลายปีก่อน จนปัจจุบัน เธอเชื่อว่าได้พิสูจน์แล้วว่าเลือกไม่ผิด เธอชอบในความโปร่งใส่ (integrity) ของพีแอนด์จี คนทำงานที่มีความสามารถก็ได้โอกาสในการเติบโตอย่างเท่าเทียม และเธอเองก็พร้อมที่จะให้โอกาสน้องๆ ในทีมเช่นกัน

"การที่เราเติบโตและกล้าเปลี่ยนแปลง...อุปสรรคแรกคือใจของเรา เป็นผู้หญิง ไปอยู่เม็กซิโก ไปอยุ่ญี่ปุ่น แต่สุดท้ายถ้าเราก้าวข้ามไปได้ เราจะได้พัฒนาทักษะ ฝีมือ และทำผลงานที่ดีให้กับองค์กรได้ สุดท้าย แอร์เชื่อว่า การเดินขึ้นไปบนภูเขา ง่ายกว่าการยืนอยู่บนภูเขา แต่ถ้าอยู่บนภูเขา แล้วเรามีความสุข ทำให้พนักงานของเรายิ้มแย้มได้ เราก็มีความสุข"

กล้าที่จะรับการเปลี่ยนแปลง กล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone นั่นคือ โอกาสของการเติบโต ที่ "จุฑาภัทร บุณย์วงศกร" ได้รับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,262 วันที่ 18 - 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2560