บริการขนส่งด้วยระบบรถยนต์ไร้คนขับเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคตที่ใกล้ความเป็นจริงเข้ามาทุกขณะ ปัจจุบันมีการทดลองบริการในหลายเมืองใหญ่ของโลก แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นนำออกมาบริการต่อสาธารณะอย่างกว้างขวาง
ความร่วมมือที่เพิ่งประกาศเมื่อเร็วๆนี้ ระหว่าง “เวย์โม” บริษัทลูกของกูเกิ้ล และ “ลิฟท์” บริษัทสตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญด้านแอพพลิเคชั่นเรียกรถแท๊กซี่ผ่านอุปกรณ์สื่อสารส่วนตัว ที่ขณะนี้ครองส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับสองรองจากบริษัท อูเบอร์ กำลังจะเข้ามาเป็นตัวเร่งให้การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวสู่บริการที่เป็นรูปธรรมสำหรับสาธารณชนทั่วไป เป็นความจริงได้เร็วขึ้น
โฆษกของเวย์โมและลิฟท์ยืนยันกับเดอะ นิวยอร์ค ไทมส์ สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯว่า ข่าวความร่วมมือระหว่างสองบริษัทในซิลิคอนแวลลีย์นั้นเป็นความจริง เวย์โมมั่นใจในเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ไร้คนขับที่ตนเองมีอยู่ว่าเป็นที่หนึ่งในตลาด ขณะที่ลิฟท์ก็เป็นอันดับ 2 ในวงการเรียกรถแท๊กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่นไม่แตกต่างจากอูเบอร์ แม้สัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ที่มีอยู่จะห่างกันอยู่มากก็ตาม แต่จุดเด่นของลิฟท์คือการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายลูกค้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก
หากจะมองย้อนกลับไปถึงการแข่งขันในด้านนวัตกรรมรถบริการสาธารณะแบบไร้คนขับที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าจะกลายมาเป็นบริการที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯในอนาคตเนื่องจากตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองที่ไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์เป็นของตนเอง ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่จอดรถ และสามารถเรียกใช้บริการรถส่วนตัวได้ทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ ทั้งยังมั่นใจในแง่ความปลอดภัย ทั้งหมดนี้ ทำให้บริษัทรถยนต์และบริษัทเทคโนโลยีหลายราย กระโดดเข้ามาช่วงชิงความได้เปรียบด้วยการสร้างพันธมิตรเช่นกรณีของเวย์โมและลิฟท์ ก่อนหน้านี้ ลิฟท์เองก็เคยจับมือกับเจอเนอรัล มอเตอร์ หรือ จีเอ็ม ในโครงการที่จะนำรถเชฟโรเลตโบลท์(ของจีเอ็ม) ออกมาวิ่งให้บริการแบบไร้คนขับแก่เครือข่ายลูกค้าของลิฟท์ โดยจะทดสอบการให้บริการในไม่กี่ปีข้างหน้า
เวย์โมเองก็เคยมีความร่วมมือกับไครสเลอร์ เกี่ยวกับแผนการนำรถมินิแวนของฝ่ายหลังมาพัฒนาเป็นรถให้บริการแบบไร้คนขับ ทั้ง 2ฝ่ายมีโครงการนำร่องทดสอบรถไครสเลอร์ไร้คนขับในเมืองฟีนิกซ์ โดยลูกค้าที่อยากทดสอบสามารถสมัครเข้ามาร่วมโครงการฟรี
นอกจากนี้ เวย์โมกำลังเจรจาความร่วมมือในลักษณะเดียวกันนั้นกับฮอนด้าผู้ผลิตรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นอีกด้วย สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจที่ว่า บริษัทได้ก้าวผ่านขั้นตอนของการวิจัยมาแล้วและกำลังมุ่งหน้าสู่การนำเทคโนโลยีนั้นมานำเสนอต่อสังคมในเชิงพาณิชย์
สำหรับมลรัฐในสหรัฐอเมริกาที่กฎหมายอนุญาตให้มีการนำรถยนต์ไร้คนขับมาทดลองวิ่งนั้น ได้แก่แอริโซนา แคลิฟอร์เนีย เท็กซัสและวอชิงตัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,262 วันที่ 18 - 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2560