ปส.ยันเอาผิดเเพทเเน่!

15 พ.ค. 2560 | 05:41 น.
วันที่ 15 พ.ค.60-พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) กล่าวถึงการเข้าพบพนักงานสอบสวนของน.ส.ณปภา ตันตระกูลนักเเสดงสาวเเละภริยาของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง ในวันนี้ที่ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียกเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันสมคบฟอกเงิน เหตุจากมีธุรกรรมการเงินเชื่อมโยงกับนายอัครกิตติ์ โดยทนายความเตรียมเงินสด 5 เเสนบาท สำหรับใช้ในการยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ว่า ในวันนี้ได้เรียกตัวน.ส.ณปภามารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบเพื่อการฟอกเงินตามพ.ร.บ.ฟอกเงิน โดยหลังจากสอบปากคำและแจ้งข้อหาเป็นทีเรียบร้อยก็จะนำตัวส่งศาลทันที ซึ่งตำรวจเชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มีในการเอาผิดและแจ้งข้อกล่าวหา โดยเฉพาะประเด็นเงินที่ต้องสงสัย ซึ่งกรณีน.ส.ณปภาเป็นตัวอย่างว่า ทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่รู้อะไรเกี่ยวข้อง วันนี้ก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหา หลังจากนี้จะอยู่ที่ดุลพินิจของศาลในเรื่องประกัน ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนพิจารณาคดี

 

 

พล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่า ตั้งแต่แรก ถ้าผู้ถูกกล่าวหาให้ความเป็นจริงก็จบไปแล้ว เพราะเชื่อโดยสุจริต ตอนนี้เป็นเรื่องของศาลว่าจะเมตตาหรือไม่ ส่วนเงินที่โอนนั้น จะมากกว่า 1.9 ล้านบาทหรือไม่ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ ส่วนเรื่องประกันตัวนั้น บช.ปส.จับใครมาไม่เคยให้ประกันตัว จึงต้องไปขอความเมตตาต่อศาลเท่านั้น ถ้าแจ้งข้อกล่าวหาวันนี้ น.ส.ณปภาจะตกเป็นผู้ต้องหา แต่ในทางกฎหมายก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

 

 

พล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่า กรณีของน.ส.ณปภาถ้าไม่เป็นตัวอย่าง คนไม่รู้กฎหมายก็จะไม่รู้ต่อไป และจะคิดว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก็ไม่ถูกดำเนินคดี แท้จริงไม่ใช่ ที่ดินของสวยงามที่เอามาให้เรา เอามาจากไหน หากน.ส.ณปภา ยอมรับตั้งแต่แรกว่ามีการรับเงิน 1.9 ล้าน บาท จากนายอัครกิตติ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ก็จะทำให้กระบวนการทำงานรวดเร็วขึ้น เนื่องจากในช่วงแรกผู้จัดการส่วนตัวของน.ส. ณปภามีการระบุไว้ว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการทำงานในวงการบันเทิง ทำให้ขั้นตอนจึงยุ่งยากเพราะตำรวจต้องหาพยานหลักฐาน ซึ่งน.ส.ณปภา อ้างในคำให้การครั้งที่สองว่า ไม่ทราบถึงที่มาของเงิน แต่เป็นเงินที่สามีโอนมาให้ ก็เป็นสิทธิส่วนตัว แต่ตำรวจดำเนินคดีตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ

 
พล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่า ส่วนการดำเนินคดีกับน.ส.ณปภา เนื่องจากเส้นทางการเงินพบว่า เงินที่นายอัครกิตติ์ รับโอนมาจาก นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย ผู้ต้องค้ายาเสพติด มีการโอนต่อไปให้น.ส.ณปภาก่อนที่จะแต่งงานกันประมาณ 3 เดือน ซึ่งจะให้เนียน ดาราสาวควรบอกว่าเงินที่ได้จากสามีเป็นเงินสินสอดนั้น น.ส.ณปภาอาจจะไม่โดน เพราะเป็นเงินฝ่ายชายให้ แต่เมื่อบอกว่าเป็นเงินที่สามีให้ภรรยา จึงกลายเป็นสินสมรส น.ส.ณปภาจึงโดยแจ้งข้อกล่าวหาไปด้วย ซึ่งน.ส.ณปภามีสิทธิที่จะต่อสู้ในทางคดี

 
พล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่า ส่วนกรณีที่ น.ส. ณปภา ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อศาลขอประกันตัว และระบุต้องดูแลมารดานั้นเป็นสิทธิที่สามรถทำได้ ทั้งนี้เตรียมสรุปสำนวนในส่วนของนายอัครกิตติ์ เพื่อส่งอัยการมีความเห็นทางคดี ส่วนสำนวนของน.ส. ณปภา ต้องรอเอกสารทางการเงินบางส่วน ก่อนสรุปสำนวนในเร็วๆนี้

 
พล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่า ส่วนคดีของนายณัฐพลนั้นมี 5-6 คดี เเต่จะขยายผลไปทางไหนอีก ต้องคอยดู เพราะเป็นตัวแทนของนายไซซะนะ เเก้วพิมพา สำหรับสำนวนคดี ตอนนี้พร้อมแล้ว สำนวนคดีของนายอัครกิตติ์ก็ไม่น่ามีปัญหา รอเวลาฝากขังให้ครบกับส่งเอกสาร เหลือแต่ของน.ส.ณปภา ซึ่งก็ไม่น่ามีปัญหา เมื่อสอบปากคำเสร็จก็ส่งศาล ยืนยันว่าเงิน 1.9 ล้านบาท เชื่อมโยงกันจริง ส่วนจะมีดาราคนอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่นั้น ยังบอกไม่ได้ เพราะเกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพ ประเทศไทยมีดาราหลายคน แต่ก็มีบางคนเสพยาเสพติด เช่น เสพเพราะอยากให้ร่างกายผอม หรือกลัวไม่สวย