"นิตินัย"ยัน! ยังทำหน้าที่ผอ.ทอท. ยอมรับพะจุณณ์เสนอปลดจริง ย้ำต้องทำตามสัญญากับคิง เพาเวอร์

11 พ.ค. 2560 | 05:45 น.
-11พค.60-กรณีที่มีกระเเสข่าวว่า สปท.เสนอต่อรัฐบาลให้ปลดนายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการ ทอท. เพื่อให้ผู้บริหารชุดใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าบริหารงาน รวมถึงเสนอให้ยกเลิกสัญญากับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ เพราะไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535

นายนิตินัยกล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย ทางสปริง เรดิโอ เอฟเอ็ม98.5เมกะเฮริทซ์ในเรื่องนี้ว่า"วันนี้ทำงานตามปกติ เเต่เมื่อวันที่25เม.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเรียก5หน่วยงานเข้ามาเรื่องจุดรับสินค้าขาออกตามที่ผู้ตรวจการเเผ่นดินมีหนังสือเเจ้งทอท.ให้เรียกคืนพื้นที่จุดรับสินค้าขาออกของคิงเพาเวอร์ เเละให้บริษัทอื่นเข้าไปใช้พื้นที่นั้นๆในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยให้ทอท.ทำหนังสือตอบใน60วัน วันนั้นนายวิษณุสอบถามข้อมูลในเรื่องนี้เพื่อให้ข้อเท็จจริงยุติก่อนส่งหนังสือไปให้ผู้ตรวจการเเผ่นดิน ในวันนั้นไม่มีข้อสรุป โดยนายวิษณุบอกให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเรื่องใดฝ่ายใดรับผิดชอบก็ต้องปฏิบัติตามกติกา จุดรับสินค้าขาออกที่ทอท.มีนิติกรรมสัญญากับคิงเพาเวอร์นั้นจะหมดสัญญาปี2563 จึงต้องรอสัญญาหมดก่อน หากกลุ่มบริษัทล็อตเต้ของเกาหลีใต้เเละผู้ร่วมทุนของไทยอยากประกอบการในจุดรับสินค้าขาออกก่อนปี2563 ต้องติดต่อคิงเพาเวอร์ในฐานะคู่สัญญากับทอท.หรือต้องรอสัญญาของคิงเพาเวอร์หมดอายุ

"ผลการประชุมวันที่25เม.ย.นั้นความเห็นในที่ประชุมเเบ่งเป็นสามฝ่าย คือฝ่ายให้ทำตามสัญญาคือทอท. ฝ่ายให้เลิกสัญญาคือสตง.เเละผู้ตรวจการเเผ่นดิน เพื่อเปิดเสรีจุดรับสินค้าขาออก เเละฝ่ายไม่เเสดงความเห็นคือกรมสรรพากรเเละกรมศุลกากรที่ทำหน้าที่เพียงเเจ้งหน้าที่ของตัวเอง โดยกระเเสข่าวที่ออกมาในตอนนี้นั้น ขอเรียนว่า ผลสรุปการประชุมในวันนั้นยังไม่มี ยอมรับสปท.มีตัวเเทนคือนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์เเละพล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ร่วมประชุมด้วย โดยพล.ร.อ.พะจุณณ์เสนอ5ข้อต่อนายวิษณุ โดย1ใน5ข้อนั้นคือเสนอให้ปลดผมเเละบอร์ดทอท. โดยผมรับฟังข้อเสนอในที่ประชุมว่าสปท.เสนอให้ทบทวนสัญญาระหว่างทอท.กับคิงเพาเวอร์ โดยเข้าใจว่าไม่ทำตามพ.ร.บ. การให้เอกชนเข้าร่วมงานฯ เเละยอมรับว่าที่ประชุมวันนั้นสปท.ต้องการให้เปิดเสรีจุดรับสินค้าขาออกต่อรายอื่นด้วย เเละสปท.อ้างว่าคิงเพาเวอร์ไม่ทำตามพ.ร.บ. การให้เอกชนเข้าร่วมงานฯ ยอมรับว่าการประชุมวันนั้นคุยเรื่องนี้จริง

วันนี้หนังสือมาถึงทอท.หลายฉบับเเต่ทอท.จะส่งคำตอบกลับไปตามกำหนด เเต่ผมยังไม่ได้รับจดหมายทางการจากนายวิษณุ เข้าใจว่าวันนั้นรับฟังความเห็นเฉยๆ ส่วนสัญญาดิวตี้ฟรีกับจุดรับสินค้าขาออก ของคิงเพาเวอร์นั้นผูกอยู่ด้วยกันในฉบับเดียวกัน เเต่เรื่องนี้่ มันเกิดมากว่า10ปีก่อนตนรับหน้าที่เพราะมีการเปิดประมูลให้เอกชนเข้าไปทำกิจกรรมเชิงพาณิชย์ในพื้นที่อาคาร เเต่ยกเว้นกิจกรรมคือ ดิวตี้ฟรี การโฆษณา รถเเท๊กซี่ นอกนั้นอนุญาตให้กระทำได้ทุกกิจกรรมนอกพื้นที่อาคารผู้โดยสาร2หมื่นตร.ม.

สมัยนั้นในพจนานุกรมยังไม่มีคำว่าจุดรับสินค้าขาออก เเละยังไม่มีดาวน์ทาว์นดิวตี้ฟรีเกิดขึ้นมากนักในไทย เพราะมีอยู่1รายที่ทำด้านนี้ คิงเพาเวอร์เสนอมาว่า 2หมื่นตร.ม. จะทำอะไรบ้าง เเละคิงเพาเวอร์เสนอจุดรับสินค้าขาออกเข้ามาในเเผนผังสัญญากับทอท.โดยเป็นส่วนเเนบในนิติกรรมสัญญา โดยปี2555เริ่มมีดาวน์ทาวน์ดิวตี้ฟรีเเล้ว เเละบอร์ดทอท.ตอนนั้นเริ่มให้มีการประมูลจุดรับสินค้าขาออกเเบบเอกเทศที่สนามบินดอนเมืองเเละมีความเเตกต่างกับสนามบินสุวรรณภูมิ โดยล็อตเต้ประมูลเเต่เเพ้คิงเพาเวอร์เเละเเพ้เครือเดอะมอลล์ในพื้นที่รีเทล เเละปี2558 บอร์ดทอท.ชุดนี้เข้ามาเเต่ผมยังไม่มา เเต่มีเขียนไว้ในการประมูลในสนามบินภูเก็ตเเต่เขียนข้อมูลเพิ่มขึ้นว่า หากผู้ชนะประมูลได้พื้นที่ในตอนนั้นคือคิงเพาเวอร์ ผู้ชนะประมูลต้องให้เจ้าอื่นๆเข้าใช้พื้นที่ได้ เเต่ต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่ให้ผู้ชนะประมูล เเละการประมูลในปี2563ที่สนามบินสุวรรณภูมินั้นต้องทำเเบบนี้ รวมทั้งที่สนามบินเชียงใหม่ในอนาคตด้วย

ในการประชุมวันที่25เม.ย.นั้นมาจากจุดนี้คือสัญญาการประมูลจุดรับสินค้าขาออก เเละไม่ทราบว่าจะมีการเช็กบิลใครหรือไม่ ผมเเละบอร์ดทอท.เข้ามาทำงานตามสัญญา เเละการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส2จะเสร็จปี2562 เเละปี2561 ต้องมีการประมูลพื้นที่ทั้งสองเฟส การประมูลบริหารพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิทั้งสองเฟสนั้นต้นปี2561ต้องได้คนชนะประมูล"