ที่นี่ไม่มีความลับ : "เรือดำน้ำ" กับ "กบฏแมนฮัตตัน"
ที่นี่ไม่มีความลับ
โดย : เอราวัณ
เรือดำน้ำกับกบฏแมนฮัตตัน
แต่ละเหล่าทัพย่อมคิดสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับกองทัพของตนเอง ถือเป็นเป้าหมายหลักในการสร้างกองทัพ ใครเข้ามาเป็น “ผู้นำเหล่าทัพ” ทุกยุคทุกสมัย จึงมีภาระกิจ 2 ด้านหลักที่จะทำให้เหล่าทัพนั้นเข้มแข็ง คือ การสร้างกำลังพลให้เข้มแข็ง และการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์
กองทัพเรือ ก็เช่นกัน หลังจากถูกลดบทบาทลง เมื่อ 66 ปีก่อน หลังเกิดเหตุการณ์ "กบฏแมนฮัตตัน"เมื่อ 29 มิถุนายน 2494 กองทัพเรือถูกยุบหน่วยงานมากมาย เช่นยุบกรมนาวิกโยธิน ยุบกองบิน กองทัพเรือ ไปรวมกับกองทัพอากาศ และอื่นๆ เพื่อทำให้กองทัพเรือเล็กลง ไม่มีเครื่องมือที่จะคิดก่อการ “รัฐประหาร” ได้อีก หลังจากพยายามมา 2 ครั้งคือ กรณี "กบฏวังหลวง" เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2492 และกรณี “กบฏแมนฮัตตัน”
หลังจากนั้นประวัติศาสตร์การรัฐประหารในเมืองไทย ไม่มียุคไหนที่ “กองทัพเรือ” เข้ามามีบทบาท นอกจากมาแถลงร่วมเมื่อเขายึดอำนาจเสร็จแล้ว จะมีก็แต่ “กองทัพบก” ที่มีบทบาทหลักในการยึดอำนาจทุกครั้งไป
เห็นจะมีเพียงครั้งเดียวที่ “กองทัพอากาศ” มีบทบาทหลักในการรัฐประหาร เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2534 ที่ใช้กำลังจี้ พล.อ.ชาติขาย ชุณหะวัณ บนเครื่องบิน c130 เพื่อให้ลงจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
การก่อกบฏของนายทหารเรือที่เรียกว่า "กบฏแมนฮัตตัน" เพราะเป็นการก่อการในวันที่ จอมพล ป. พิบูลย์สงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เข้าร่วมพิธีรับมอบเรือขุดสันดอน สัญชาติอเมริกันชื่อ "แมนฮัตตัน" แล้วมีการจี้ตัว จอมพล ป.ขึ้นไปควบคุมตัวไว้บนเรือรบหลวง "ศรีอยุธยา" ต่อมาถูกจมลงด้วยการบัญชาการของหัวหน้าคณะผู้ต่อต้านการกบฏ ที่นำโดยพล.อ.ผิน ชุณหะวัณ ผบ.ทบ. และ พล.ท.สฤษดิ์ ธนะรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 1 ขณะนั้นสั่งเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาด 50 กิโลกรัม ทิ้งใส่เรือรบหลวง "ศรีอยุธยา" และช่วย จอมพล ป. ออกมาได้ กลายเป็นความพ่ายแพ้ของนายทหารเรือ ที่ถูกจับกุมได้ถึง1,000 นาย และถูกดำเนินคดี 100 คน รวมทั้งพล.ร.อ.สินธ์กมลนาวิน ผบ.ทร.ในขณะนั้นด้วย
ในระยะ 66 ปี หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น กองทัพเรือ พยายามรื้อฟื้นความยิ่งใหญ่สร้างหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินอันเกรียงไกร ฟื้นกองบิน กองทัพเรือ และจัดหาเรือรบขนาดต่างๆ เข้าประจำการ แต่คนเป็นทหารเรือสิ่งที่ใฝ่ฝันว่าความยิ่งใหญ่ของเหล่าทัพที่ควรมีคือ "เรือดำน้ำ"
ความพยายามของกองทัพเรือต่อการจัดหารือดำน้ำมีมาเป็นระยะๆ ทั้งในรัฐบาลเลือกตั้งและรัฐบาลทหาร แต่ยังไม่บรรลุผล จนกระทั้งมารัฐบาล ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ที่มี ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหอกหลักในการผลักดันเริ่มทำให้ความฝันของเหล่าทัพเรือใกล้จะเป็นจริง
แต่ความฝันที่ใกล้จะเป็นจริงของ “กองทัพเรือ” จะเป็นฝันอันเดียวกับประชาชนทั้งประเทศหรือไม่ นั่นจะต้องดูกันต่อไป
คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ / หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับ 3259 ระหว่างวันที่ 7-10 พ.ค.2560
โดย : เอราวัณ
เรือดำน้ำกับกบฏแมนฮัตตัน
แต่ละเหล่าทัพย่อมคิดสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับกองทัพของตนเอง ถือเป็นเป้าหมายหลักในการสร้างกองทัพ ใครเข้ามาเป็น “ผู้นำเหล่าทัพ” ทุกยุคทุกสมัย จึงมีภาระกิจ 2 ด้านหลักที่จะทำให้เหล่าทัพนั้นเข้มแข็ง คือ การสร้างกำลังพลให้เข้มแข็ง และการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์
กองทัพเรือ ก็เช่นกัน หลังจากถูกลดบทบาทลง เมื่อ 66 ปีก่อน หลังเกิดเหตุการณ์ "กบฏแมนฮัตตัน"เมื่อ 29 มิถุนายน 2494 กองทัพเรือถูกยุบหน่วยงานมากมาย เช่นยุบกรมนาวิกโยธิน ยุบกองบิน กองทัพเรือ ไปรวมกับกองทัพอากาศ และอื่นๆ เพื่อทำให้กองทัพเรือเล็กลง ไม่มีเครื่องมือที่จะคิดก่อการ “รัฐประหาร” ได้อีก หลังจากพยายามมา 2 ครั้งคือ กรณี "กบฏวังหลวง" เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2492 และกรณี “กบฏแมนฮัตตัน”
หลังจากนั้นประวัติศาสตร์การรัฐประหารในเมืองไทย ไม่มียุคไหนที่ “กองทัพเรือ” เข้ามามีบทบาท นอกจากมาแถลงร่วมเมื่อเขายึดอำนาจเสร็จแล้ว จะมีก็แต่ “กองทัพบก” ที่มีบทบาทหลักในการยึดอำนาจทุกครั้งไป
เห็นจะมีเพียงครั้งเดียวที่ “กองทัพอากาศ” มีบทบาทหลักในการรัฐประหาร เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2534 ที่ใช้กำลังจี้ พล.อ.ชาติขาย ชุณหะวัณ บนเครื่องบิน c130 เพื่อให้ลงจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
การก่อกบฏของนายทหารเรือที่เรียกว่า "กบฏแมนฮัตตัน" เพราะเป็นการก่อการในวันที่ จอมพล ป. พิบูลย์สงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เข้าร่วมพิธีรับมอบเรือขุดสันดอน สัญชาติอเมริกันชื่อ "แมนฮัตตัน" แล้วมีการจี้ตัว จอมพล ป.ขึ้นไปควบคุมตัวไว้บนเรือรบหลวง "ศรีอยุธยา" ต่อมาถูกจมลงด้วยการบัญชาการของหัวหน้าคณะผู้ต่อต้านการกบฏ ที่นำโดยพล.อ.ผิน ชุณหะวัณ ผบ.ทบ. และ พล.ท.สฤษดิ์ ธนะรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 1 ขณะนั้นสั่งเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาด 50 กิโลกรัม ทิ้งใส่เรือรบหลวง "ศรีอยุธยา" และช่วย จอมพล ป. ออกมาได้ กลายเป็นความพ่ายแพ้ของนายทหารเรือ ที่ถูกจับกุมได้ถึง1,000 นาย และถูกดำเนินคดี 100 คน รวมทั้งพล.ร.อ.สินธ์กมลนาวิน ผบ.ทร.ในขณะนั้นด้วย
ในระยะ 66 ปี หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น กองทัพเรือ พยายามรื้อฟื้นความยิ่งใหญ่สร้างหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินอันเกรียงไกร ฟื้นกองบิน กองทัพเรือ และจัดหาเรือรบขนาดต่างๆ เข้าประจำการ แต่คนเป็นทหารเรือสิ่งที่ใฝ่ฝันว่าความยิ่งใหญ่ของเหล่าทัพที่ควรมีคือ "เรือดำน้ำ"
ความพยายามของกองทัพเรือต่อการจัดหารือดำน้ำมีมาเป็นระยะๆ ทั้งในรัฐบาลเลือกตั้งและรัฐบาลทหาร แต่ยังไม่บรรลุผล จนกระทั้งมารัฐบาล ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ที่มี ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหอกหลักในการผลักดันเริ่มทำให้ความฝันของเหล่าทัพเรือใกล้จะเป็นจริง
แต่ความฝันที่ใกล้จะเป็นจริงของ “กองทัพเรือ” จะเป็นฝันอันเดียวกับประชาชนทั้งประเทศหรือไม่ นั่นจะต้องดูกันต่อไป
คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ / หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับ 3259 ระหว่างวันที่ 7-10 พ.ค.2560