“อิตาเลียนไทย” ผวา! รฟท. ล้มสัญญาจ้าง

04 พ.ค. 2560 | 04:33 น.
“อิตาเลียนไทย” อ่วม  คมนาคม-ร.ฟ.ท. เล็งทบทวนระเบียบ จ้างงานผู้รับเหมา และสัญญาก่อสร้าง หลังเกิดอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าซํ้าซาก ด้านไจก้า รอผลการตรวจสอบก่อนตัด สินใจจะขึ้นบัญชีดำหรือไม่ ส่วน รฟม.เปิดข้อมูลอุบัติเหตุ 3 บริษัทก่อสร้างยักษ์ เปิดพอร์ตงานก่อสร้างทางรถไฟ “อิตาเลียนไทย” โกย 5 โครง การเฉียด 6 หมื่นล้าน

อุบัติเหตุ ระหว่างการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) บริเวณหน้าวัดดอนเมือง เป็นเหตุให้คนงานเสียชีวิต 3 คน  เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอุบัติเหตุครั้งที่ 6 และรวมแล้วมีผู้เสียชีวิต 8 ราย ส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ ITD บริษัทก่อสร้างชั้นนำของไทย ในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้างช่วงทางดังกล่าวซึ่งมีมูลค่า 2.12 หมื่นล้านบาท โดยตรง

ร.ฟ.ท.รื้อเกณฑ์ประมูลงาน 

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์  รักษาการ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย  (ร.ฟ.ท.) เผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ซํ้าซาก ทำให้ร.ฟ.ท.ต้องทบทวนมาตรการที่เกี่ยวกับระเบียบการว่าจ้างงานผู้รับเหมาทั้งหมดในอนาคต โดยจะหยิบอุบัติเหตุครั้งนี้ มาเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาสัญญา เช่น การบอกเลิกสัญญา หรือขึ้นบัญชีดำ (Blacklist)เป็นต้น ล่าสุดเตรียมหารือกับฝ่ายกฎหมายของร.ฟ.ท.และฝ่ายกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดเป็นระเบียบใหม่ต่อไป

“ร.ฟ.ท.ได้สั่งพักงาน อิตาเลียนไทยในพื้นที่ที่เกิดเหตุชั่วคราว จนกว่าบริษัทจะหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมารายงาน รวมทั้งผลการสอบสวน ซึ่งร.ฟ.ท.จะให้ความเป็นธรรมกับบริษัทแต่ไม่สามารถบอกเลิกสัญญาได้และที่ผ่านมาบริษัทได้ทำงานให้ร.ฟ.ท.เป็นมูลค่ากว่า 4,000-5,000 ล้านบาทแล้ว”

สอดคล้องกับนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม  ให้ความเห็นในเรื่องเดียวกันว่า ได้สั่งให้หน่วยงานเจ้าของโครงการไปดูรายละเอียดในสัญญาซึ่งอาจต้องกลับไปพิจารณาใช้วิธีให้คะแนนผู้รับเหมา โดยจัดลำดับความปลอดภัยของผู้รับเหมาแต่ละราย เพื่อประกอบเป็นข้อมูลในการพิจารณาเข้าร่วมงานในอนาคตต่อไป

“อิตาเลียนไทย” ผวา! รฟท. ล้มสัญญาจ้าง



“ไจก้า”รอผลศึกษา

ด้านนายมาซาโตะ โคอินูมะ ผู้แทนอาวุโส องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือไจก้าประจำประเทศไทย  กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” หลังผู้บริหาร ร.ฟ.ท. ออกมาให้ข่าวว่าไจก้าในฐานะผู้สนับสนุนโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคหลายแห่งจะทบทวนการรับงานของ บมจ.อิตาเลียนไทยว่า ยังไม่มีแผนขึ้นบัญชีดำ (อิตาเลียนไทย) จนกว่าจะได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจาก ร.ฟ.ท. หรือกระทรวงคมนาคมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  อย่างไรก็ดีหากได้รับรายงานอย่างเป็นทางการแล้ว ทางไจก้า สถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย ตลอดจนไจก้าที่ญี่ปุ่น ก็จะพิจารณาเนื้อหาในรายงานดังกล่าวอย่างถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

“ทางไจก้าไม่ได้มีวัตถุ ประสงค์ที่จะแบล็กลิสต์ใคร  แต่หากในกรณีที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งไม่สามารถทำได้ตามเงื่อนไขด้านความปลอดภัย ก็อาจจะได้รับบทลงโทษ อาทิเช่น อาจไม่สามารถยื่นขอประมูลโครงการใหม่ๆ ได้ในช่วงระยะเวลาที่กำหนด เป็นต้น ซึ่งเป็นเพียงการลงโทษลักษณะหนึ่ง ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงหรือความเสียหายของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น” นายมาซาโตะกล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลอุบัติเหตุ รฟม.    

ทางด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ช่วย ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประ เทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่) ซึ่งบมจ.อิตาเลียนไทย เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างว่าที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุครั้งเดียวบริเวณรัชโยธิน ที่โซ่ขาดเหล็กตกใส่รถนิสสันมาร์ช เนื่องจากอุปกรณ์เก่า โดยการก่อสร้างบริเวณดังกล่าวเป็นเขตเมืองการจราจรหน้าแน่นจึงกันพื้นที่สำหรับก่อสร้างแคบ

“อิตาเลียนไทย” ผวา! รฟท. ล้มสัญญาจ้าง



อย่างไรก็ดีหากเทียบสัดส่วนชั่วโมงการทำงานของบริษัท ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในปีนี้ จากสถิติพบว่า บมจ. อิตาเลียนไทย 6.5 ล้านชั่วโมง เกิดอุบัติเหตุต่อทรัพย์สิน 13 ครั้ง บมจ.ยูนิค เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เกิดอุบัติเหตุระหว่างก่อสร้างช่วง ร.พ.ภูมิพล ปูนหล่นใส่รถยนต์ 5คัน หรือ คิดเป็น ชั่วโมงทำงาน 2.2 ล้านชั่วโมง เกิดอุบัติเหตุ 6 ครั้ง ส่วนเหตุเสียชีวิตเคยเกิดขึ้นในปี 2554 ระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน โดยบมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟม.กล่าวต่อว่าไจก้ามีสิทธิทบทวนการก่อสร้างงานรถไฟฟ้าเพราะเป็นผู้ปล่อยกู้ 100%

ทั้งนี้สถิติอุบัติเหตุในช่วง 5 ปีที่เกิดขึ้นอาทิ ปลายเดือนเม.ย. 2556 โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงเตาปูน-สะพานพระนั่งเกล้า) เกิดเหตุกำแพงคอนกรีต หล่นใส่รถยนต์บริเวณแยกเตาปูน โครงการนี้มีกิจการร้านค้าซีเคทีซี เป็นผู้ดำเนินการ, เดือนมิถุนายน 2556 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ช่วงสถานีเตาปูน แท่งเหล็กเส้นขนาด 4 คูณ 4 นิ้วยาว 10 เมตร หล่นลงมาทับรถแท็กซี่และรถยนต์รวม 4 คันมีผู้บาดเจ็บหญิง 1 คน, วันที่ 17 มี.ค. 2560 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โครงการของอิตาเลียนไทย หล่นทับรถยนต์บริเวณปากซอยพหลโยธิน 35 และล่าสุดเหตุเกิดเมื่อคํ่าวันที่ 28 เม.ย. ดังที่กล่าวข้างต้น

“อิตาเลียนไทย” ผวา! รฟท. ล้มสัญญาจ้าง



เปิดพอร์ตงานรถไฟฟ้าITD6หมื่นล.

ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2559 ระบุว่า บมจ.อิตาเลียนไทย (มีนายเปรมชัย กรรณสูต ถือหุ้น ใหญ่สัดส่วน 14.88%) ได้รับงานก่อสร้างทางรถไฟฟ้าทั้งสิ้น   5 โครงการ รวมมูลค่า ราว 5.9 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย

1. งานวางรางรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) สัญญา 6 มูลค่า 3.39 พันล้านบาท การก่อสร้างแล้วเสร็จ

2.สายสีนํ้าเงิน สัญญาที่ 1 (หัวลำโพง-สนามชัย) มูลค่า 1.069 หมื่นล้านบาท การก่อสร้างคืบหน้า 88%

3. สายสีแดง สัญญาที่ 2 (บางซื่อ-รังสิต) มูลค่า 2.33 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดอุบัติเหตุและร.ฟ.ท.สั่งระงับการก่อสร้างชั่วคราว ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้า 78 %

4. รถไฟฟ้าสายสีเขียว สัญญาที่ 1 (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) มูลค่า 1.42 หมื่นล้านบาท

5. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 3 (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) มูลค่า 1.85 หมื่นล้านบาท

อนึ่ง ปี 2559 รายได้จากกลุ่มงานสร้างทางหลวงแผ่นดิน ทางรถไฟ และระบบขนส่งมวลชนของ บมจ.อิตาเลียนไทย มีมูลค่า 1.459 หมื่นล้านบาท หรือ 28.82% ของรายได้รวมบริษัท 4.83 หมื่นล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้น ITD  ปรับตัวลงแรงทันทีที่เปิดตลาดวันที่ 2 พฤษภาคม และลงไปตํ่าสุดที่ 4.22 บาทก่อนกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ 4.34 บาท รูดลง 0.16 บาทหรือ 3.56% โดยนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทยฯ ยังคงแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 5 บาท