งานสัมมนาเอ็กซ์คลูซีฟ Wealth Heritage Forum ภายใต้หัวข้อ Opportunity Beyond Market Uncertainty สำหรับสมาชิก SCB PRIVATE BANKING โดยนายศรชัย สุเนต์ตา, CFA ผู้อำนวยการอาวุโส Investment Advisory ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะผู้ดูแลหน่วยงาน Chief Investment Officer (CIO) ระบุว่า กลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ มีความน่าสนใจในการลงทุนมากกว่าตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจาก ราคาตามมูลค่าพื้นฐานของดัชนีฯ ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้จากการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และตามการส่งออกที่ฟื้นตัว
สอดคล้องนายวนา พูลผล, CFA กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) ร่วมให้มุมมองพร้อมเสนอแนะแนวทางการวางแผนการลงทุนในสถานการณ์ที่มีการผันผวนว่า แนวโน้มธนาคารกลาง(เฟด)จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2ครั้งในช่วงที่เหลือ และการคาดการณ์ของนักลงทุนว่าเฟดจะปรับลดขนาดของงบดุลจากที่เฟดซื้อสินทรัพย์สูงถึง 2ล้านล้านดอลลาร์หรัฐ ทั้งนี้ ถ้าเฟดปรับลดหรือขายทิ้งโดยไม่ลงทุนในตราสารเหล่านั้นยิ่งเป็นปัจจัยกดดันผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐต้องปรับลดลงเช่นเดียวกับพันธบัตรของไทยโดยแนะนำเพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน เพราะโดยรวมงบดุลของบริษัทมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามเศรษฐกิจโดยบริษัทสามารถชำระหนี้ได้โดยโอกาสเบี้ยวหนี้ที่ลดลงเพียงแต่ต้องเลือกเครดิตดีและกระจายความเสี่ยงสำหรับที่สุด
นายสาธิต ผ่องธัญญา ผู้อำนวยการอาวุโส Family Office Business ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวกล่าว รัฐบาลปัจจุบันพยายามให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสนับสนุนการประกอบกิจการในรูปแบบของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลภายใต้การจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (Holding Company) ตามกฎหมายไทย เพื่อถือหุ้นอย่างน้อย 25% ในบริษัทไทย และบริษัทต่างประเทศโดยยกเว้นภาษีจากเงินปันผลที่ได้รับจากการถือหุ้นในบริษัท Holding Company ซึ่งเป็นรูปแบบจัดโครงสร้างที่เอื้อประโยชน์การถือครองหุ้น การบริหารทรัพย์สินของกลุ่มครอบครัวและสามารถควบคุมการลงทุนได้ อกทั้งช่วยส่งต่อความมั่งคั่งและรักษาทรัพย์สินที่มีอยู่จากรุ่นสู่รุ่น