บลจ.วรรณชี้ยิลด์ตราสารหนี้ระยะสั้นหดชูกองทุน 6 เดือนจ่าย 1.60% ต่อปี

03 พ.ค. 2560 | 08:17 น.
บลจ.วรรณ เผยอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นปรับตัวลงตามปัจจัยต่างประเทศ แนะกระจายลงทุนกองทุนที่มีผลตอบแทนแน่นอน ลดความผันผวนตลาด ชูกองทุน 6 เดือน ผลตอบแทน 1.60% ต่อปี

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยในสัปดาห์นี้ มองว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนอาจเข้ามาพักเงินในระยะสั้นจากสถานการณ์ทั่วโลกที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 3 พ.ค. นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยฯ และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบ 2 ในวันที่ 7 พ.ค. นี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่านาย Emmanuel Macron มีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้ง รวมถึง สถานการณ์ความไม่สงบในเกาหลีเหนือ

ขณะที่อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะยาวมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเป็นแรงกดดันจากการทำรายการ Bond Switching ของกระทรวงการคลังที่จะส่งผลต่ออุปทานพันธบัตรระยะยาวเพิ่มขึ้น

นายพจน์ กล่าวว่า สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงความผันผวนของภาวะการลงทุนในช่วงนี้บริษัทแนะนำให้กระจายการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่ถือตราสารจนครบของอายุตราสารเพื่อสร้างผลตอบแทนที่แน่นอน โดยระหว่างวันที่ 4- 15 พ.ค.นี้ บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ ไฟแนนเชียล อินสตรูเมนท์ 6M/2 (1FIN6M/2) อายุ 6 เดือน ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Rollover เน้นลงทุนในตราสารทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับรอบการลงทุนนี้ กองทุน 1FIN6M/2 จะลงทุนในเงินฝากธนาคาร Agricultural Bank of China Limited ในสัดส่วนการลงทุน 14.50% พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 1.70% และตั๋วแลกเงินในประเทศ ซึ่งเป็นตั๋วแลกเงินระดับ Investment Grade ที่มีความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินมีความสามารถชำระเงินต้นและอัตราดอกเบี้ยสูง ได้แก่ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) ตั๋วแลกเงินบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด (มหาชน) ตั๋วแลกเงินบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ตั๋วแลกเงินบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) และ ตั๋วแลกเงินบริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)ในสัดส่วน 16.70% 16.75% 16.80% 16.75% 16.80% ตามลำดับ โดยผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 1.60%ต่อปี