ขนส่งย้ำ!รถตู้โดยสารสาธารณะทุกประเภทต้องไม่เกิน 13 ที่นั่ง

02 พ.ค. 2560 | 14:16 น.
กรมการขนส่งทางบก สร้างความเข้าใจพร้อมแนะนำการปรับปรุงแก้ไขจำนวนที่นั่งรถตู้โดยสารสาธารณะทุกประเภท ย้ำ!จำนวนที่นั่งผู้โดยสารต้องไม่เกิน 13 ที่นั่ง มีช่องทางออกด้านท้ายตัวรถ โดยจะเริ่มบังคับใช้กฎหมาย จับ-ปรับในอัตราเบื้องต้น ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นไป เพื่อการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการขนส่งหรือเจ้าของรถ และให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับประชาชนในระยะยาว

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การกำหนดให้รถตู้โดยสารต้องจัดวางที่นั่งผู้โดยสารไม่เกิน 13 ที่นั่ง เป็นมาตรการเพิ่มความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะ โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้โดยสารมีช่องทางเดินเพื่อออกประตูด้านท้ายของรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพื่อลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ให้สามารถออกทางด้านหลังได้สะดวกขึ้นหากประตูทางเข้าไม่สามารถเปิดได้ และเพื่อให้ผู้ประกอบการขนส่งหรือเจ้าของรถตู้มีห้วงเวลาในการเตรียมความพร้อมที่ต้องปรับปรุงจำนวนที่นั่งให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งต้องปรับปรุงที่นั่งแถวหลังสุดต้องมีช่องทางเดิน ขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้โดยสารใช้เป็นทางออกฉุกเฉินด้านท้าย และประตูหลังสามารถเปิดออกจากภายในตัวรถได้ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นหรือเกิดอุบัติเหตุ และมีค้อนทุบกระจก

ดังนั้น เพื่อให้มีการปรับตัว รับรู้ ปรับเปลี่ยน และลดผลกระทบ กำหนดแนวทางดำเนินการบังคับใช้เป็นขั้นตอน กรมการขนส่งทางบกกำหนดแผนปฏิบัติการควบคู่การบังคับใช้กฎหมายแบบมีห้วงเวลาสำหรับดำเนินการให้มีความเหมาะสม คู่ขนานกับการสร้างความเข้าใจ การรับรู้ ตลอดจนการให้คำปรึกษาแนะนำผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด โดยในจะเริ่มบังคับใช้มาตรการทางกฎหมาย ตรวจสอบการปรับปรุงรถตู้ทุกคัน ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นไป หากพบการฝ่าฝืน ยังไม่ดำเนินการปรับปรุงจำนวนที่นั่ง มีความผิดในอัตราโทษปรับเบื้องต้น โดยให้ทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการขนส่งรับทราบ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านคณะกรรมการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ ประกอบด้วยกรมการขนส่งทางบก, บริษัท ขนส่ง จำกัด, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ พร้อมด้วยทหาร ตำรวจ จังหวัดและท้องถิ่น ร่วมกันประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ ให้คำแนะนำ เสนอแนะ พร้อมกับขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการขนส่ง ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการยกระดับความปลอดภัย ไม่ให้เกิดความสูญเสียรุนแรงในการเดินทางด้วยรถตู้โดยสารสาธารณะ

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังมีแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่งรถตู้โดยสาร เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนส่งจากกรณีการจัดวางที่นั่งไม่เกิน 13 ที่นั่ง ดังนี้ กรณีรถที่มีการจัดวางที่นั่งผู้โดยสารไม่เกิน 5 แถว (ตอน) ที่มีที่นั่งผู้โดยสารเกิน 13 ที่นั่ง ซึ่งไม่มีที่เปิดประตูด้านท้ายจากภายในตัวรถและประตูด้านท้ายมีส่วนประกอบของตัวถังที่เป็นกระจก ให้ติดตั้งค้อนทุบกระจกเพิ่มเติมในบริเวณใกล้บานกระจกด้านท้าย เพื่อให้ผู้โดยสารใช้ทุบกระจกและออกจากตัวรถได้ โดยจะปรับปรุงกลไกเปิดปิดประตูด้านท้ายให้สามารถเปิดประตูจากภายในรถหรือไม่ก็ได้ กรณีรถที่มีการจัดวางที่นั่งผู้โดยสารไม่เกิน 13 ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว โดยที่นั่งแถวหลังสุดเป็นที่นั่ง 3 ที่นั่ง แต่ไม่มีช่องทางเดินเพื่อให้ผู้โดยสารใช้เป็นทางออกฉุกเฉินด้านท้าย จะปรับปรุงการจัดวางที่นั่งแถวหลังสุดให้มีช่องทางเดิน หรือจะปรับปรุงที่นั่งตัวกลางหรือตัวหนึ่งตัวใดแถวหลังสุดให้พนักพิงเบาะหลังเป็นแบบพับไปข้างหน้าหรือปรับเอนไปข้างหลังให้สามารถใช้เป็นทางออกก็ได้ โดยในกรณีปรับปรุงพนักพิงเบาะหลัง ต้องติดตั้งค้อนทุบกระจกเพิ่มเติมในบริเวณใกล้บานกระจกด้านท้ายด้วยเพื่อให้ผู้โดยสารใช้ทุบกระจกและออกจากตัวรถ โดยผู้ประกอบการต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพและแก้ไขรายการทางทะเบียนตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด สำหรับรถตู้โดยสารประเภทประจำทางในเส้นทางหมวด 2 (เส้นทางกรุงเทพ-ต่างจังหวัด) และหมวด 3 (เส้นทางระหว่างจังหวัด) ให้ดำเนินการภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2560 รถตู้ในเส้นทางหมวด 1 (เส้นทางในเมือง) และหมวด 4 (เส้นทางภายในจังหวัด) ให้ดำเนินการภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 และรถตู้โดยสารประเภทไม่ประจำทาง (รถเช่าเหมา) ให้ดำเนินการภายในวันที่ 5 สิงหาคม 2560 ทั้งนี้ หลังจากระยะเวลาดังกล่าว หากพบผู้ประกอบการหรือเจ้าของรถไม่ปรับปรุงจำนวนที่นั่ง บรรทุกผู้โดยสารเกิน จะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดทุกกรณี พร้อมแนะนำประชาชนพบเห็นรถตู้ไม่ปลอดภัย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แจ้ง 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง