“อาคม”แถลงมติครม.ในส่วนของกระทรวงคมนาคม

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด แถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ณ ห้องราชดำเนิน กระทรวงคมนาคม

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ประชุมเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงฯ ดังนี้ 1. ร่างปฏิญญาร่วมรัฐมนตรีของการประชุมร่วมระดับรัฐมนตรีของบันทึกความเข้าใจโตเกียวและปารีสว่าด้วยการตรวจและควบคุมเรือในฐานะรัฐเจ้าของท่า ครม. ให้ความเห็นชอบร่างปฏิญญาร่วมรัฐมนตรีของการประชุมร่วมระดับรัฐมนตรีของบันทึกความเข้าใจโตเกียวและปารีสว่าด้วยการตรวจและควบคุมเรือในฐานะรัฐเจ้าของท่า และหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างปฏิญญาฯ ที่ไม่ใช่สาระสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะผู้แทนไทยโดยไม่ต้องนำเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาอีกครั้ง กระทรวงคมนาคม ประเทศแคนาดา ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมระดับรัฐมนตรีของบันทึกความเข้าใจโตเกียวและปารีสว่าด้วยการตรวจและควบคุมเรือในฐานะรัฐเจ้าของท่า ครั้งที่ 1 ในเดือนมีนาคม 2541 และครั้งที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายน 2547 และจะจัดการประชุมฯ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 2 - 4 พฤษภาคม 2560 ณ นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้แต่งตั้งให้ นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ซึ่งในที่ประชุมจะหารือประเด็นสำคัญภายใต้หัวข้อ “Safeguarding Responsible and Sustainable Shipping : การปกป้องการขนส่งทางทะเลอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน” การร่วมรับรองปฏิญญาดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถยกระดับการขนส่งทางทะเลให้มีมาตรฐานตามที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization : IMO) และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization : ILO) กำหนด เพื่อให้การขนส่งทางทะเลมีความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และคนประจำเรือมีสภาพความเป็นอยู่บนเรือที่ดีขึ้น

2. การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ สำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการงานเสริมความมั่นคงโครงสร้างทาง (Track Strengthening) ระหว่างสถานีชุมทางคลองสิบเก้า - สถานีชุมทางแก่งคอย จ.นครนายก ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ครม. รับทราบผลการดำเนินการการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการงานเสริมความมั่นคงโครงสร้างทาง (Track Strengthening) ระหว่างสถานีชุมทางคลองสิบเก้า - สถานีชุมทางแก่งคอย ระยะทาง 86 กิโลเมตร ของ รฟท. กำหนดเวลาทำการ 900 วัน ในวงเงิน 621.72 ล้านบาท โดยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 - 2562 ก่อน รฟท. ดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งยกเว้นมติ ครม. เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559 กรณีรายจ่ายลงทุนที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป โดยต้องก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จในไตรมาส 2 และเบิกจ่ายให้สอดคล้องกับงวดงาน สำหรับงานเสริมความมั่นคงโครงสร้างทาง (Track Strengthening) ระหว่างสถานีชุมทางคลองสิบเก้า - สถานีชุมทางแก่งคอย เป็นงานที่มีความจำเป็น เพื่อให้การเดินรถไฟเป็นไปอย่างปลอดภัย และมีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ซึ่ง รฟท. ได้ดำเนินการประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เสนอราคาต่ำสุด เป็นเงิน 621.72 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7) และคณะกรรมการ รฟท. ในคราวประชุมครั้งที่ 20/2559 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2559 ได้มีมติอนุมัติให้จ้างผู้ชนะการประกวดราคาแล้ว ประกอบกับสำนักงบประมาณได้เห็นชอบความเหมาะสมของราคาค่าก่อสร้างในวงเงินดังกล่าวแล้ว โดยให้ รฟท. เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 จำนวน 197.475 ล้านบาท ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายแล้ว ส่วนที่เหลือ จำนวน 424.244 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 - 2562 ต่อไป ซึ่งรายการดังกล่าวอยู่ภายในวงเงินงบประมาณและระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณจาก ครม. สำหรับกรณีอุบัติเหตุชิ้นส่วนของโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ - รังสิต หล่นลงบริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอนเมือง ถนนโลคัลโรด ได้มอบให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการดำเนินงาน รวมทั้งจัดทำแผนการกำกับและตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้าง (Safety Audit Plan) เพื่อตรวจสอบให้บริษัทผู้รับจ้างปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัย