กกท.ปั้นแลนด์มาร์กคลองเตย ชงบอร์ด-ครม.ไฟเขียวพัฒนาพื้นที่2.3พันไร่งบแสนล้าน
กทท.ปั้นแลนด์มาร์กของประเทศบนพื้นที่กว่า2,300 ไร่ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยงคลองเตย-แหลมฉบัง วงเงินลงทุนกว่าแสนล้าน ล่าสุดรับมอบที่ดินจากองค์การฟอกหนัง 23 ไร่
ภายหลังจากแผนพัฒนาพื้นที่นอกรั้วศุลกากรของกทท.บนพื้นที่กว่า 2,300 ไร่ถูกมองข้ามมานานล่าสุดได้เตรียมนำไปปัดฝุ่นนำเสนอรัฐบาลอนุมัติให้ดำเนินการอีกครั้ง ทั้งงบประมาณการลงทุนและรูปแบบการพัฒนาเพื่อให้การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ร.อ.สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ถึงรูปแบบและแนวทางการพัฒนาว่า เตรียมเสนอแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ท่าเรือคลองเตยบนพื้นที่กว่า 2,300 ไร่เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ(บอร์ด) กทท.เห็นชอบเป็นรายแปลงก่อนที่จะนำเสนอรัฐบาลเร่งผลักดันต่อไป โดยก่อนนี้ได้นำเสนอภาพรวมแนวทางการพัฒนาพื้นที่กทท. ตามที่ได้นำเสนอคณะกรรมการกทท. ไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2560 ซึ่งจะมีแผนการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้เชื่อมโยงกับท่าเรือคลองเตยเพื่อประโยชน์ด้านกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
"แผนพัฒนาจะเน้นให้เชื่อมโยงการพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์ของชาติ 20 ปี แผนการพัฒนาโครงการไทยแลนด์ 4.0 และโครงการพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางแม่น้ำเจ้าพระยาและการท่องเที่ยวภายในประเทศ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างท่าเรือแหลมฉบังกับท่าเรือกรุงเทพ ตลอดจนสนับสนุนการขนส่งทางรางในเวลากลางคืน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขนส่งโดยการปรับรูปแบบการขนส่งจากทางรถเป็นทางรางมากขึ้น โดยได้หารือร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะก่อสร้างทางด่วนเข้ามายังพื้นที่โครงการและจะมีการก่อสร้างโมโนเรลเชื่อมโยงในพื้นที่โครงการอีกด้วย"
ตามข้อมูลภาพรวมการพัฒนาพื้นที่ยังได้แบ่งกลุ่มการพัฒนาออกเป็น 3 กลุ่มหลักคือ 1.การพัฒนาพื้นที่ A ขนาดพื้นที่กว่า 234 ไร่ วงเงินการลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท ประกอบไปด้วย อาคารศูนย์พัฒนาพาณิชยนาวี ศูนย์โลจิสติกส์และกระจายสินค้า อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าธุรกิจทันสมัยครบวงจร ที่อยู่อาศัยทดแทนชุมชนแออัดและสำนักงานเขตคลองเตย สถานีตำรวจท่าเรือ 2.การพัฒนาพื้นที่ B ขนาดพื้นที่กว่า 3.3 แสนตรม. มูลค่าการลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาทเป็นสถานีบรรจุสินค้าเพื่อการส่งออก คลังสินค้าท่าเรือกรุงเทพ ท่าเทียบเรือตู้สินค้า X-ray Center ระบบประตูเขื่อนตะวันออกและจุดขึ้น-ลงทางด่วน และสถานีขนส่งทางรถไฟ ศูนย์กระจายสินค้าทกท.และลานจอดรถบรรทุก ลานตู้สินค้าเปล่า ลานวางตู้สินค้า ท่าเทียบเรือตู้สินค้า และ 3.กลุ่มการพัฒนาพื้นที่ C ขนาดพื้นที่กว่า 5.6 หมื่นตรม. วงเงินการลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท รูปแบบการพัฒนาเป็นอาคารศูนย์บริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ ท่าเรือ ทกท. ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์ริมน้ำเจ้าพระยา ศูนย์ประชุมครบวงจร เชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางน้ำภายในประเทศ รวมงบลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท เป็นการลงทุนขนาดใหญ่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนและเปลี่ยนโฉมหน้าการลงทุนของประเทศไทย เมืองใหม่ที่พร้อมรองรับการใช้ชีวิตของสังคมเมืองกรุงเทพที่เป็นย่านธุรกิจขนาดใหญ่ด้วยการพัฒนาให้เป็นเขตการเงินขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวนี้ และรองรับพื้นที่ระบบขนส่งมวลชนโมโนเรล
"หลังจากนี้จะนำเสนอบอร์ดเห็นชอบก่อนเสนอกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการพัฒนาอีอีซีและรัฐบาลเร่งผลักดันต่อไป โดยแปลง B1,B2 อยู่ระหว่างการหาตัวผู้รับจ้าง คาดว่าจะทราบผลในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนแปลง 17 ไร่พร้อมนำเสนอรัฐบาลเคาะความชัดเจนด้านรูปแบบการร่วมลงทุน ซึ่งแนวทางการพัฒนาหากกระทบกับชุมชน อาทิ ตลาดคลองเตยหรือชุมชนต่างๆกทท.จะต้องจัดหาสถานที่ใหม่รองรับได้ นอกจากนี้ยังได้รับมอบพื้นที่จากองค์การฟอกหนัง 23 ไร่จากพื้นที่ในโซนนั้นทั้งหมดราว 123 ไร่ จะมีการออกแบบให้เหมาะสมสอดคล้องกับการพัฒนาที่ดินแปลงอื่นๆ ที่สำคัญสามารถอยู่ร่วมกันได้กับชุมชนคลองเตยด้วย”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,258 วันที่ 4 - 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560