เตรียมประสานตร.อังกฤษ ตรวจสอบที่อยู่“บอส ” อสส.ชี้กต.พิจารณาเอง เพิกถอดพาสสปอต

30 เม.ย. 2560 | 10:02 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

วันที่ 30 เม.ย.60-ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ฐานขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือในคดีที่นายวรยุทธกระทำต่อด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อดีตตำวจ สน.ทองหล่อ จนเสียชีวิตเมื่อวันที่3ก.ย.2555เเละเมื่อวันที่27เม.ย.นายวรยุทธไมมาพบอัยการเพื่อมาให้ปากคำ ทำให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลออกหมายจับนั้น

พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ผบก.ตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า  คดีนี้แบ่งเป็น 2 ประเด็นคือ 1.การขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งตำรวจ สน.ทองหล่อ จะต้องเป็นผู้ร้องขอให้พนักงานอัยการพิจารณประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศที่ผู้ต้องหาหลบหนีไปกบดาน ให้นำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย    2.ตำรวจ สน.ทองหล่อ จะต้องส่งหนังสือถึงผบ.ตร.พิจารณา สั่งการให้กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำการตรวจสอบแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหา แต่หากไม่พบว่า นายวรยุทธอยู่ในประเทศอังกฤษตามกระแสข่าวจริง ตำรวจสากลของประเทศไทยจะทำการออกหมายสีน้ำเงินไปยังตำรวจสากล 190 ประเทศให้ทำการตรวจสอบ
พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวว่า  หรือในกรณีที่มีการส่งหมายไปยังตำรวจสากลทั้ง 190 ประเทศแล้ว ยังไม่ทราบแหล่งที่อยู่ไม่พบตัวผู้ต้องหา     ตำรวจสากลไทยจะต้องนำหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ยื่นไปยังองค์การตำรวจสากล เพื่อพิจารณาเปลี่ยนเป็นหมายจับสากลในการติดตามตัว ซึ่งขณะนี้ตำรวจ สน.ท้องหล่อ ยังไม่ได้ประสานมาแต่อย่างใด แต่ด้วยกองการต่างประเทศ เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบ โดยในสัปดาห์หน้าเตรียมประสานตำรวจอังกฤษในประเทศไทย หารือช่วยตรวจสอบแหล่งที่พักของนายวรยุทธว่าพักอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษจริงตามที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนหรือไม่
อนึ่งก่อนหน้านี้ นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัวนายวรยุทธว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานของอัยการในการติดตามตัวนายวรยุทธแล้ว โดยตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานนี้เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน     ส่วนคณะทำงานที่มาร่วมนั้นมีประสบการณ์ทำงานด้านนี้มาแล้ว
นายอำนาจกล่าวว่า สำหรับการขอตัวนายวรยุทธเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ประเทศอังกฤษจะต้องพิจารณาใน 2 ประเด็นว่า1. เป็นคดีทางแพ่งหรือคดีการเมือง หรือเป็นคดีที่มีความผิดหรือไม่ 2.เรื่องการเดินทางหลบหนี เเละการติดตามตัวของตัวผู้ต้องหา ที่หลายฝ่ายกังวลว่าผู้ต้องหาจะเดินทาง โยกย้ายที่อยู่ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ผู้ต้องหาจะมีเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว แต่การเดินทางเข้าออกประเทศต่างๆ จะต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ในกรณีที่ทางการไทยขอตัวไปเมื่อประเทศอังกฤษรับเรื่องแล้วแต่ในระหว่างพิจารณา ผู้ต้องหาหลบหนีไปที่อื่น เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องตามหาหลักแหล่งที่อยู่ของตัวผู้ต้องหาว่าหลบไปที่ไหน ซึ่งคำขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนที่ยื่นต่ออังกฤษจะยังคงอยู่
"กรณีที่อังกฤษไม่ได้ส่งคำร้องคืนกลับมา การขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนก็ยังคงเดินหน้าต่อ เมื่อผู้ต้องหาเดินทางกลับประเทศอังกฤษ อัยการจะดำเนินการยื่นหนังสือใหม่เพียงแค่เปลี่ยนวันที่เท่านั้น เพราะรายละเอียดและเนื้อหาเป็นข้อเท็จจริงเดียวกัน"
นายอำนาจยังกล่าวถึงกรณีจะมีการเสนอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายวรยุทธว่า โดยหลักการแล้วการเพิกถอนหนังสือเดินทาง ผู้ที่รับผิดชอบคือกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อรับทราบข้อเท็จจริงว่ามีการหลบหนีออกต่างประเทศ คงจะต้องมีการพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขการเพิกถอนหรือไม่ แต่อัยการสำนักงานต่างประเทศคงไม่ก้าวล่วงที่จะไปแนะนำหรือเสนอให้กระทำการเพิกถอนหนังสือเดินทาง เพราะเป็นเรื่องที่กระทรวงต่างประเทศจะต้องพิจารณาโดยตรง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องไปแจ้งให้กระทรวงต่างประเทศทราบ
"การเพิกถอนหนังสือเดินทางเป็นการกดดันตัวผู้ต้องหาให้มอบตัวได้ทางหนึ่ง ซึ่งกรณีที่นายวรยุทธตัดสินใจยอมมอบตัวกลับมาเข้าสู่กระบวนการในประเทศไทยย่อมสามารถทำได้อยู่แล้ว โดยเข้าไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วส่งตัวมาให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาล ส่วนอัยการจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่เป็นเรื่องที่อัยการเจ้าของสำนวนจะพิจารณา"
นายอำนาจกล่าวว่า การทำหน้าที่ของอัยการสำนักงานต่างประเทศ ยืนยันว่า จะทำให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องรอพยานหลักฐานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ครบถ้วนทั้งหมด เพื่อประกอบการยื่นคำร้องขอตัวนายวรยุทธเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศอังกฤษ ต่อไป