กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน จัดทีมวิศวกรฉุกเฉิน หรือเอ็มเสิร์ท เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด ดูแลอาคารสถานพยาบาลให้มีความมั่นคงแข็งแรง และตรวจสอบเครื่องมือแพทย์ให้พร้อมใช้กรณีฉุกเฉินโรงพยาบาลสามารถให้บริการประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2560 ได้เกิดพายุฝนฤดูร้อนพัดกระหน่ำ อย่างรุนแรง และ มีลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงมา ในพื้นที่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งผลให้โรงพยาบาลหล่มสักได้รับเสียหาย หลังคาเปิด และเครื่องมือชำรุดเสียหาย ระบบวิทยุสื่อสารระบบโทรศัพท์ภายในใช้การไม่ได้ และบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ 10 ตำบล ของอำเภอหล่มสัก ได้รับความเสียหายรวม 531 หลังคาเรือน จึงได้สั่งการให้ทีมเอ็มเสิร์ท (Medical Supportive Emergency Response Team : MSERT) จากสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 2 และ 3 กองวิศวกรรมการแพทย์ และกองแบบแผน ดำเนินการออกไปให้การซ่อมแซมและดูแลอาคารสถานพยาบาล และเร่งติดตั้งระบบสื่อสารให้พร้อมใช้งานต่อไป ซึ่งในช่วงวันที่ 28-29 เมษายน 2560 จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงกับมีลูกเห็บตกและฟ้าผ่าบางพื้นที่ โดยอากาศจะคลายความร้อนลง มีผลกระทบตามภาคต่างๆ และเกิดพายุฤดูร้อนเพิ่มมากขึ้น และครอบคลุมบริเวณ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวม 35 จังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จึงได้สั่งการให้ทีมเอ็มเสิร์ท จากกองวิศวกรรมการแพทย์ กองแบบแผน และสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 1- 12 ทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง พร้อมรับมือพายุฤดูร้อนตลอด 24 ชั่วโมง ที่อาจสร้างความเสียหายกับสถานพยาบาลและเครื่องมือแพทย์ ซึ่งมีความจำเป็นในการช่วยชีวิตผู้ป่วย เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
นายแพทย์ประภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมเอ็มเสิร์ท ในพื้นที่เป็นทีมที่มีความพร้อม สามารถเข้าปฏิบัติการกู้ชีพโรงพยาบาลในภาวะฉุกเฉินให้ใช้การได้เร็วที่สุด ลุยได้ทุกสถานการณ์ เป็นการลดความเสียหายเครื่องมือแพทย์ และที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉินในภัยพิบัติต่างๆ เช่น เหตุการณ์น้ำท่วม พายุฤดูร้อน แผ่นดินไหว ซึ่งทีมเอ็มเสิร์ท ได้เข้าไปช่วยเหลือเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที เพื่อช่วยเหลือ 5 หัวใจหลักของสถานพยาบาล เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบสื่อสาร เครื่องมือแพทย์ อาคารสถานที่ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายงบประมาณ ทำให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง สร้างความมั่นใจให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุข และประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับคำชมจากหน่วยงานต่างๆ มากมาย